คนร้ายลอบวางระเบิดป่วนริมถนนใน อ.สุไหงปาดี นราธิวาส โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขณะที่โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า สรุปยุทธการ “ฮูแตยือลอ” 6 วัน ผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 4 ราย ภารกิจปิดล้อมยังไม่จบ
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงคุกรุ่นและมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 08.00 น.วันจันทร์ที่ 4 ต.ค.64 ร.ต.อ.ภานุวัฒน์ โสดานิล รองสารวัตรสอบสวน สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องบริเวณพงหญ้ารกทึบริมทาง ห่างจากโรงเรียนมัธยมสุไหงปาดีประมาณ 500 เมตร จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง นำโดยนายอำเภอสุไหงปาดี และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่บ้านจือแร หมู่ 1 ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี เจ้าหน้าที่ได้เปิดเครื่องรบกวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือและวิทยุสื่อสาร เพื่อป้องกันการจุดชนวนระเบิดซ้ำ พร้อมทั้งได้จูงสุนัขสงครามดมกลิ่น เพื่อเข้าพิสูจน์ทราบสิ่งแปลกปลอมริมถนน ก่อนจะเข้าไปยังที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นพบว่า พงหญ้ารกทึบริมทางจุดที่คนร้ายลอบวางระเบิด ถูกอานุภาพของระเบิดทำลายจนเตียนโล่ง เป็นรัศมีกว้าง 50 กว่าครึ่งเมตร มีซากเศษชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่คนร้ายประกอบใส่ท่อเหล็กทรงกลม หนักประมาณ 5 กิโลกรัมกระจายเกลื่อน จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.อาภากร วิรุปักษ์อารักษ์ ผู้กำกับการ สภ.สุไหงปาดี กล่าวว่า จังหวะที่เกิอดระเบิดขึ้น ไม่มีเจ้าหน้าที่กองกำลังชุดใดๆ รวมถึงประชาชนทั่วไปขี่ยานพาหนะผ่าน จึงไม่มีความสูญเสียต่อทรัพย์สินและชีวิต คาดว่าคนร้ายมีความประสงค์เพียงก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายขึ้นในพื้นที่เท่านั้น
@@ โฆษก.กอ.รมน.ภาค 4 ยืนยันปิดล้อมบาเจาะวิฯ 4 ศพ
ด้าน พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุการณ์ผู้ก่อเหตุรุนแรงยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ ในพื้นที่ที่ป่าพรุ ป่าเสม็ด ท้องที่หมู่ 6 บ้านฮูแตยือลอ ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ว่า ผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต จำนวน 4 ราย สามารถยืนยันตัวตนได้แล้ว ประกอบด้วย 1.นายบารูวัน กือจิ 2.นายอัสซัน สามะ 3.นายอับดุลเลาะ อูแล และ 4.นายอัฏฮา ยูกะ
พร้อมกันนี้ได้ตรวจยึดอาวุธของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ เป็นอาวุธปืนจำนวน 4 กระบอก ประกอบด้วย อาวุธปืน AK-47 หรือ อาก้า 1 กระบอก, M 16 A 1 จำนวน 2 กระบอก และปืนพก CZ จำนวน 1 กระบอก
ขณะนี้การปฏิบัติในพื้นที่ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากยังคงพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงอีกจำนวนหนึ่งที่พยายามยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหนีตลอดเวลา