ยอดโควิดชายแดนใต้ลดลงเล็กน้อย แต่ยังติดชาร์ตประเทศทั้ง 4 จังหวัด ยะลาเกิดเหตุสลด ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงดิ่งตึกโรงพยาบาลดับ เผยผลตรวจ ATK ไม่พบติดโควิด ขณะที่ยะหา – กรงปินัง สั่งปิดหมู่บ้านเสี่ยง
วันอังคารที่ 28 ก.ย.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดสงขลา ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันลดลงเล็กน้อย
แต่ก็ยังส่งผลให้ทั้ง 4 จังหวัด มีชื่อติดอยู่ใน 10 จังหวัดแรกของประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุด ในข้อมูลที่จัดทำโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีการเผยแพร่ผ่านทางศูนย์ข้อมูล COVID-19 วันที่ 27 ก.ย.
โดยจังหวัดปัตตานี มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 413 ราย ติดอันดับ 4 จังหวัดนราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 346 ราย ติดอันดับ 6 จังหวัดยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 291 ราย ติดอันดับ 7 และจังหวัดสงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 281 ราย ติดอันดับที่ 8
ขณะที่รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จากในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา วันที่ 28 ก.ย.64 มีรายละเอียดดังนี้
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 375 ราย แยกเป็นพื้นที่ อ.เมือง 46 ราย, อ.ตากใบ 35ราย, อ.ยี่งอ 2 ราย, อ.แว้ง 33 ราย, อ.สุคิริน 38 ราย, อ.รือเสาะ 56 ราย, อ.บาเจาะ 7 ราย, อ.ศรีสาคร 38 ราย, อ.เจาะไอร้อง 3 ราย, อ.สุไหงปาดี 90 ราย และ อ.สุไหงโก-ลก 27 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 23,194 ราย รักษาหายสะสม 19,336 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 4 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 274 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 4,611 ราย, อ.ระแงะ 2,429 ราย, อ.รือเสาะ 1,412 ราย, อ.บาเจาะ 1,637 ราย, อ.จะแนะ 1,018 ราย, อ.ยี่งอ 1,653 ราย, อ.ตากใบ 2,052 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 1,682 ราย, อ.สุไหงปาดี 2,037 ราย, อ.ศรีสาคร 1,224 ราย, อ.แว้ง 1,567 ราย, อ.สุคิริน 690 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 1,182 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 291 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 21,775 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 5,020 ราย รักษาหายแล้ว 16,578 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 177 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 371 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 7,717 ราย, อ.กรงปินัง 1,575 ราย, อ.เบตง 1,500 ราย, อ.รามัน 2,779 ราย, อ.บันนังสตา 3,781 ราย, อ.กาบัง 603 ราย, อ.ธารโต 1,520 ราย และ อ.ยะหา 2,300 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 5,020 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลยะลา 195 ราย, โรงพยาบาลเบตง 192 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 515 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 121 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 760 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 219 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 417 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 332 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 83 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 91 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 190 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 18 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) 545 ราย , ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 400 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 942 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 281 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 265 ราย, กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 16 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 29,948 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 29,920 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 5,617 ราย รักษาหายแล้ว 24,176 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 150 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 6,125 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 7,714 ราย, อ.เมืองสงขลา 4,462 ราย, อ.สิงหนคร 3,344 ราย, อ.จะนะ 2,965 ราย, อ.สะเดา 2,553 ราย, อ.สะบ้าย้อย 1,748 ราย, อ.เทพา 1,543 ราย, อ.รัตภูมิ 1,195 ราย, อ.บางกล่ำ 569 ราย, อ.นาทวี 564 ราย, สทิงพระ 561 ราย, อ.ระโนด 527 ราย, อ.นาหม่อม 368 ราย, ควนเนียง 200 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 188 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 26 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,104 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 289 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 176 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 21,526 ราย รักษาหายแล้ว 14,642 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 3 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 297 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 178 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 301 ราย, โรงพยาบาลประจำอำเภอ 1,060 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 489 ราย, โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 2 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 41 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 186 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 126 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน 16 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์โรงยิมบานา 45 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 212 ราย และ Home Isolation 52 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษารวม 3,890 ราย แยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 920 ราย, อ.หนองจิก 284 ราย, อ.โคกโพธิ์ 103 ราย, อ.ยะหริ่ง 381 ราย, อ.สายบุรี 560 ราย, อ.ไม้แก่น 95 ราย, อ.แม่ลาน 44 ราย, อ.ยะรัง 295 ราย, อ.ปะนาเระ 171 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 308 ราย, อ.มายอ 374 ราย และ อ.กะพ้อ 162 ราย
@@ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงเครียดดิ่งตึกโรงพยาบาลดับ
เมื่อเวลา 17.30 น.วันเดียวกันนี้ ได้เกิดเหตุสลดมีผู้ป่วย ก่อเหตุกระโดดลงมาจากชั้น10 ตึกใหม่ของโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ทำให้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อนายทินกร ริกันต์ อายุ 44 ปี เป็นชาวจังหวัดยะลา หลังเกิดเหตุ ทางแพทย์และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลยะลา ต้องสวมชุด พีพีอี เพื่อเข้าตรวจสอบสภาพศพ
โดยผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เห็นนายทินกร ได้เดินออกมาจากลิฟต์ในชั้น 10 ทางพยาบาลและผู้ช่วยพยาบาล สังเกตเห็นความผิดปกติ จึงได้พยายามสอบถามแต่ไม่ได้รับคำตอบ และนายทินกร เดินไปที่ระเบียงแล้วกระโดดออกไปทันที โดยที่พยาบาลและผู้ช่วยพยาบาลพยายามเข้าไปห้ามแต่ไม่ทัน
ด้านนายแพทย์อินทร์ จันแดง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยะลา บอกว่า สำหรับคนไข้รายนี้ เดินทางมายังโรงพยาบาลเมื่อช่วงประมาณบ่ายที่ผ่านมา ด้วยอาการไอ ได้ประมาณ 2-3 วัน โดยทางแพทย์ได้ให้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่คนไข้ปฎิเสธ ยืนยันจะขอกลับไปรักษาตัวที่บ้าน ซึ่งทางญาติที่นำตัวมาพยายามเกลี้ยกล่อม แต่คนไข้ไม่ยอม สุดท้ายเซ็นไม่ประสงค์จะอยู่โรงพยาบาลคือขอกลับบ้าน แต่สุดท้ายมาทราบอีกภายหลังว่า คนไข้ได้เดินขึ้นลิฟต์ไปบนชั้น 10 แล้วก็กระโดดตึกลงมาเสียชีวิต
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า นายทินกร ริกันต์ ที่กระโดดตึกเสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจ ATK แล้วและไม่พบเชื้อ แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องตรวจ PCR เนื่องจากผู้เสียชีวิตอยู่ในพื้นที่ ต.สะเตงนอก เป็นพื้นที่แพร่ระบาดโควิด19 ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุว่า เหตุใดคนไข้รายดังกล่าว จึงตัดสินใจคิดสั้น กระโดตึกฆ่าตัวตาย
@@สั่งปิดหมู่บ้านเสี่ยง ยะหา-กรงปินัง
นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ในฐานะผู้กำกับการบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดยะลา ได้มีคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จ.ยะลา ที่ 281/2564 เรื่อง การกำหนดพื้นที่เสี่ยงเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่จังหวัดยะลา (ฉบับที่ 49) โดยได้กำหนดให้พื้นที่ดังต่อไปนี้
1.บ้านเจาะตาแม (กลุ่มบ้านเจาะตาแม) ม.4 ต.กาตอง อ.ยะหา จ.ยะลา
2.บ้านสะเอใน ม.4 ต.สะเอะ อ.กรงปินัง จ.ยะลา
เป็นพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง เพื่อควบคุมยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคฯ โดยห้ามมิให้ผู้ใดเข้า-ออกพื้นที่ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายตามคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลา
@@มอบถุงยังชีพช่วยครอบครัวผู้รับผลกระทบโควิดยะลา
ส่วนที่บริเวณหน้าอาคาร 3 ศาลากลางจังหวัดยะลา นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานมอบถุงยังชีพตามโครงการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดซื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) จังหวัดยะลา โดยมี นายอำเภอ 8 อำเภอ ร่วมรับมอบและนำส่งต่อให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การโควิด-19 ในพื้นจังหวัดยะลา
โดยมีเป้าหมายเป็นครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประกอบด้วย อำเภอเมืองยะลา จำนวน 150 ชุด อำเภอบันนังสตา จำนวน 120 ชุด อำเภอรามัน จำนวน 120 ชุด อำเภอยะหา จำนวน 100 ชุด อำเภอเบตง จำนวน 65 ชุด อำเภอกรงปีนัง จำนวน 65 ชุด อำเภอธารโต จำนวน 60 ขุด และอำเภอกาบัง จำวนวน 51 ชุด รวมจำนวน 731 ชุด