มท.2 เยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ รพ.นราธิวาส เผยเดือนที่ผ่านมาฉีดวัคซีนไปแล้ว 10 ล้านโดส เชื่อปลายปีนี้สถานการณ์ดีขึ้น ด้าน ศบค.ยะลาสั่งปิดสำนักงานแรงงานจังหวัดหลังพบผู้ติดเชื้อ ส่วนเบตงปิด 2 ชุมชนพื้นที่เสี่ยงแพร่ระบาด ขณะที่สงขลาอ่วมป่วยโควิดโผล่เกือบครึ่งพัน
วันเสาร์ที่ 11 ก.ย.64 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะเดินทางลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล บุคลากรผู้ปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยโควิด-19 พร้อมมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ได้แก่ ชุด PPE จำนวน 20 ชุด หน้ากากอนามัย จำนวน 4,000 ชิ้นและเงินสดจำนวนหนึ่ง ที่โรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส โดยมีนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.รสสุคนธ์ แสงมณี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ และผู้เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จังหวัดนราธิวาส เป็นเมืองชายแดนที่มีปัจจัยเสี่ยงการระบาดของโรค มีรอยตะเข็บติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านยากที่จะควบคุม ทำให้มีความยากลำบากมากขึ้นในการแก้ไขปัญหา แต่ด้วยความทุ่มเท ความเสียสละของทุกฝ่าย เชื่อว่า ถ้าใช้มาตรการเชิงรุก และรัฐบาลได้จัดสรรวัคซีนให้เป็นไปตามแผน ปลายปีนี้สถานการณ์คงดีขึ้น
“ทางรัฐบาลพยายามเร่งรัดในการฉีดวัคซีน เดือนที่แล้วสามารถฉีดวัคซีนได้กว่า 10 ล้านโดส รัฐบาลมองว่า ทางออกที่ดีที่สุด คือทำอย่างไรให้คนได้รับวัคซีนให้มากที่สุด ขอยืนยันรัฐบาลไม่ได้มีปัญหาเรื่องงบประมาณในการจัดหาวัคซีน แต่รัฐบาลมีปัญหาที่การจัดส่งวัคซีนให้ไม่ทัน สิ่งที่พยายามทำคือให้ได้รับวัคซีนเป็นไปตามแผน”
รมช.มหาดไทย กล่าวด้วยว่า ขณะที่รอรับการฉีดวัคซีน ขอฝากให้ประชาชนต้องช่วยกันรักษาระยะห่าง ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัย เบื้องต้นสิ่งเหล่าจะช่วยได้ ย้ำว่ารัฐบาลพยายามแก้ไขระเบียบ มีข้อผ่อนผันในหลายเรื่อง อย่างการใช้งบประมาณของ ปภ. ให้อยู่ในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อความคล่องตัวในการแก้ไขปัญหา
@@สั่งปิดสำนักงานแรงงานจังหวัดยะลา
ด้านศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19 จ.ยะลา ได้มีหนังสื่อคำสั่งที่ 251/2564 เรื่อง ปิดสถานที่ตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) สืบเนื่องจากทางสำนักงานแรงงานจังหวัดยะลา แจ้งว่า มีบุคลากรในสังกัดมีผลการตรวจติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
เพื่อความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่และประชาชนที่มารับบริการ ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลา จึงออกคำสั่งให้ปิดสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดยะลา เป็นการชั่วคราว มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.64 - 15 ก.ย.64 ทั้งให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่สาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด
@@ปิด 2 ชุมชนเมืองเบตง เป็นพื้นที่เสี่ยงแพร่ระบาด
นอกจากนี้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19 จ.ยะลา ได้มีหนังสื่อคำสั่งที่ 249/2564 เรื่อง การกำหนดพื้นที่เสี่ยงเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) ในพื้นที่จังหวัดยะลา ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลา ได้กำหนดพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง เพื่อควบคุมยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ ชุมชนกาปะกอตอนอก และชุมชนกาแป๊ะกอตอใน ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา
โดยมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้ใดเข้า –ออกพื้นที่ดังกล่าว หากผู้ใดมีความจำเป็นจะต้องเดินทางเข้า – ออกพื้นที่ดังกล่าวต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ หากผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำทั้งปรับ เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.64 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการร์จะคลี่คลายตามคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลา
@@สงขลาอ่วมติดเชื้อพุ่งเกือบ 500 ราย
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันเสาร์ที่ 11 ก.ย.64 มีดังนี้
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 261 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 17,594 ราย รักษาหายแล้ว 12,746 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 268 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 125 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 94 ราย, โรงพยาบาลสนามเรือนจำ 2 ราย, โรงพยาบาลประจำอำเภอ 628 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 496 ราย, โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 1 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 44 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 194 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 126 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน 2 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์โรงยิมบานา 75 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 187 ราย และ Home Isolation จำนวน 28 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษารวม 2,485 ราย แยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 671 ราย, อ.หนองจิก 256 ราย, อ.โคกโพธิ์ 57 ราย, อ.ยะหริ่ง 283 ราย, อ.สายบุรี 272 ราย, อ.ไม้แก่น 36 ราย, อ.แม่ลาน 39 ราย, อ.ยะรัง 192 ราย, อ.ปะนาเระ 104 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 147 ราย, อ.มายอ 266 ราย และ อ.กะพ้อ 78 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 309 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 14,567 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 3,150 ราย รักษาหายแล้ว 11,278 ราย มีผู้เสียชีวิต 5 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 139 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 276 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 5,374 ราย, อ.กรงปินัง 1,184 ราย, อ.เบตง 793 ราย, อ.รามัน 1,531 ราย, อ.บันนังสตา 2,764 ราย, อ.กาบัง 439 ราย, อ.ธารโต 1,065 ราย และ อ.ยะหา 1,417 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 3,150 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 193 ราย, โรงพยาบาลเบตง 102 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 478 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 128 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 756 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 100 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 319 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 237 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 86 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 29 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 199 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 17 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) 120 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 9 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 377 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 391 ราย แยกเป็น พื้นที่ อ.เมือง 71 ราย, อ.ตากใบ 21 ราย, อ.ยี่งอ 11 ราย, จะแนะ 5 ราย, อ.แว้ง 24 ราย, อ.สุคิริน 26 ราย, อ.รือเสาะ 40 ราย, อ.บาเจาะ 85 ราย, อ.ระแงะ 2 ราย, อ.ศรีสาคร 4 ราย, อ.เจาะไอร้อง 22 ราย, อ.สุไหงปาดี 63 ราย และ สุไหงโก-ลก 17 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 17,116 ราย รักษาหายสะสม 13,834 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 194 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 3,548 ราย, อ.ระแงะ 1,886 ราย, อ.รือเสาะ 857 ราย, อ.บาเจาะ 1,241 ราย, อ.จะแนะ 816 ราย, อ.ยี่งอ 1,143 ราย, อ.ตากใบ 1,757 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 1,252 ราย, อ.สุไหงปาดี 1,283 ราย, อ.ศรีสาคร 764 ราย, อ.แว้ง 1,234 ราย, อ.สุคิริน 480 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 855 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 473 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 440 ราย, กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 33 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 23,496 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 23,473 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 3,679 ราย รักษาหายแล้ว 19,683 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 134 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 1,890 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 6,209 ราย, อ.เมืองสงขลา 3,419 ราย, อ.สิงหนคร 2,917 ราย, อ.จะนะ 2,349 ราย, อ.สะเดา 1,936 ราย, อ.สะบ้าย้อย 1,284 ราย, อ.เทพา 1,232 ราย, อ.รัตภูมิ 639 ราย, สทิงพระ 498 ราย, อ.บางกล่ำ 411 ราย, อ.นาทวี 354 ราย, อ.นาหม่อม 335 ราย, อ.ระโนด 288 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 148 ราย, ควนเนียง 144 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 20 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,103 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 187 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
@@ โรงพยาบาลหลักนราฯ ติดลบ 32 เตียง
ด้านรายงานข้อมูลเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ เป็นข้อมูล ณ เวลา 15.30 น. ของวันที่ 11 ก.ย.64 มีข้อมูลดังนี้
จ.สงขลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 1,055 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 969 เตียง คงเหลือ 86 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 3,891 เตียง ใช้ไป 3,142 เตียง คงเหลือ 749 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม 1:224
จ.ปัตตานี โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 1,563 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 1,176 เตียง คงเหลือ 387 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 2,702 เตียง ใช้ไป 779 เตียง คงเหลือ 1,923 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม อยู่ที่ 1:7
จ.ยะลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 791 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 773 เตียง คงเหลือ 18 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,088 เตียง ใช้ไป 856 เตียง คงเหลือ 232 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม 1:122
จ.นราธิวาส โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 918 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 950 เตียง ติดลบ 32 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 2,950 เตียง ใช้ไป 1,631 เตียง คงเหลือ 1,319 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม 1:326