นราธิวาสเปิดโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 10 ใน อ.ยี่งอ รองรับได้ 160 เตียง ทั้งเตรียมรับผู้ป่วยกว่า 100 รายกลับเข้ารักษาตัว ด้าน ศบค.ปัตตานี เตรียมเปิดที่แยกกักในชุมชน 25 แห่งของ 7 อำเภอ ส่วนโรงพยาบาลยะลาเปิดอาคารรองรับผู้ป่วยโควิดสีแดงเพิ่ม 48 เตียง ขณะที่สงขลาเล็งขยายเวลามาตรการคุมแพร่ระบาดฯ ต่ออีก 14 วัน หลังตัวเลขติดเชื้อพุ่ง 324 ราย นราธิวาสวันเดียว 7 ศพ
วันศุกร์ที่ 30 ก.ค.64 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ของ จ.นราธิวาส ที่มียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มรายวันอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีผู้ป่วยสะสมจำนวนมาก ทำให้ทางจังหวัดได้ตัดสินใจเปิดโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 10 ที่โรงเรียนร่มเกล้า อ.ยี่งอ โดยมี นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีเปิด
สำหรับ อ.ยี่งอ มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมจำนวน 286 ราย กำลังรักษาอยู่จำนวน 102 ราย รักษาหายแล้วจำนวน 179 ราย และเสียชีวิตจำนวน 5 ราย กระจายอยู่ทุกตำบล ทำให้มีความจำเป็นต้องเปิดโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ขึ้น เพื่อรองรับผู้ป่วยกลุ่มติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ ซึ่งโรงพยาบาลสนามแห่งนี้สามารถรองรับผู้ป่วยได้ จำนวน 160 เตียง ได้รับความอนุเคราะห์สถานที่จากโรงเรียนร่มเกล้า อ.ยี่งอ
ที่สำคัญโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ใช้ระบบไอที 100% เชื่อมต่อกับระบบในโรงพยาบาลยี่งอ เสมือนเป็นตึกหนึ่งของโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังมีสถานที่โดยรอบหอผู้ป่วย (เรือนนอนหอประชุม) ไว้สำหรับผ่อนคลายระหว่างพักรักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม 14 วัน เพื่อลดการสัมผัสระหว่างผู้ป่วยกับบุคลากรทางการแพทย์อีกด้วย
นายเจษฎา กล่าวว่า ทางจังหวัดมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 สะสมรายวันที่เพิ่มขึ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เฉลี่ยประมาณ 200 รายต่อวัน ซึ่งต้องมีมาตรการในการรองรับ ทั้งในส่วนของเตียงสนาม โรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลทั่วไป
ส่วนการเปิดโรงพยาบาลสนามที่ อ.ยี่งอ ก็เป็นผลจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น โดยโรงพยาบาลแห่งนี้จะรองรับผู้ป่วยติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ รวมทั้งผู้ป่วยที่มีอาการสีเหลืองแต่ไม่รุนแรงมาก
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ได้รับเตียงไม้ไผ่จากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 นำมาสนับสนุนเพื่อมาเป็นเตียงเสริม และสำหรับพี่น้องประชาชนจากพื้นที่อื่นที่แจ้งความประสงค์จะกลับมารักษาที่ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นภูมิลำเนา เราได้เปิดโรงพยาบาลสนามที่รองรับไว้แล้ว ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 39 อ.ระแงะ ประมาณ 500 เตียง เป็นโรงพยาบาลสนามที่รองรับประชาชนที่เดินทางจากกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งได้รับการประสานงาน ขณะนี้ยอดประมาณร้อยกว่ารายที่จะนำเข้าสู่โรงพยาบาลสนามต่อไป
@@ ปัตตานีเปิดที่แยกกักในชุมชน 25 แห่ง 7 อำเภอ
ที่ห้องพญาตานี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดปัตตานี นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ครั้งที่ 20/2564 เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อรับทราบแนวทางจัดการศพที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อ เพื่อให้การประกอบพิธีเป็นไปตามหลักศาสนา ป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และลดปัญหาความเข้าใจไม่ถูกต้องของประชาชน เพราะต้องปฏิบัติให้มีความสอดคล้องกับประกาศของจุฬาราชมนตรี
นอกจากนี้ ในที่ประชุมได้เห็นชอบให้เปิดสถานที่แยกกักในชุมชน (Community Isolation) จำนวน 25 แห่ง ใน 7 อำเภอของจังหวัดปัตตานี ซึ่งจะสามารถรองรับผู้ป่วยได้ จำนวน 747 เตียง
@@ รพ.ยะลา เปิดอาคารรองรับผู้ป่วยสีแดงเพิ่ม 48 เตียง
นายแพทย์อินทร์ จันแดง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยะลา กล่าวว่า ทางโรงพยายะลาได้เตรียมขยายอาคารรองรับผู้ป่วยโควิด-19 เพราะคาดว่าในอนาคตจะมีผู้ป่วยสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะนี้โรงพยาบาลยังมีเตียงเพียงพอในการรองรับผู้ป่วย แต่ในอนาคตก็ต้องเตรียมรองรับเอาไว้ โดยที่จะขยายอาคารให้สามารถรองรับผู้ป่วยสีแดงจำนวน 2 อาคาร คือ อาคารอายุรกรรมชายและศัลยกรรมกระดูก โดยที่แต่ละอาคารจะสามารถรองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 24 เตียง รวมทั้ง 2 อาคารมีจำนวนเตียงทั้งสิ้น 48 เตียง และขณะนี้พร้อมเปิดแล้ว
ทางเรามีเครื่องมือแพทย์เพียงพอต่อการรักษาพยาบาลกับผู้ป่วยและรับผู้ป่วยโควิด-19 จากต่างจังหวัด เพื่อกลับมารักษาตัวที่ยะลา ทางโรงพยาบาลยะลาและโรงพยาบาลสนามจังหวัดยะลา เรามีระบบเชื่อมต่อระหว่างกัน มีการจัดระบบโซนสีเพื่อแยกอาการของผู้ป่วย ยืนยันว่า จังหวัดยะลา ยังสามารถควบคุมสถานการณ์เตียงผู้ป่วยได้อยู่ ตลอดจนโรงพยาบาลสนามก็มีเตียงเพียงพอ
@@ สงขลาเล็งขยายเวลาคุมแพร่ระบาดต่ออีก 14 วัน
ในการแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของจังหวัดสงขลา นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดใน 13 จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวดยังไม่คลี่คลาย จึงได้มีการพิจารณาให้ขยายมาตรการและคำสั่งต่างๆ ต่อไปอีก 14 วันจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
โดยจังหวัดสงขลาจะมีการขยายบังคับใช้มาตรการต่างๆ เช่นมาตรการงดออกนอกเคหะสถาน หรือเคอร์ฟิว, มาตรการปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว, มาตรการห้ามการรวมกลุ่มเกิน 5 คน งดการจัดเลี้ยง, มาตรการเกี่ยวกับร้านอาหาร และตลาด, การกำหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคม และการตรวจคัดกรองกรณีเดินทางเข้าออกพื้นที่จังหวัด และการขยายระยะเวลาการห้ามเข้าพื้นที่
@@ รพ.หลักนราธิวาสเตียงติดลบ 8 เตียง
ด้านรายงานข้อมูลเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ เป็นข้อมูล ณ เวลา 15.30 น. ของวันที่ 30 ก.ค.64 มีข้อมูลดังนี้
จ.สงขลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 940 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 826 เตียง คงเหลือ 114 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 3,272 เตียง ใช้ไป 1,994 เตียง คงเหลือ 1,278 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:142
จ.ปัตตานี โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 933 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 753 เตียง คงเหลือ 180 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,835 เตียง ใช้ไป 1,342 เตียง คงเหลือ 493 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:12
จ.ยะลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 791 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 599 เตียง คงเหลือ 192 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,088 เตียง ใช้ไป 787 เตียง คงเหลือ 301 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:112
จ.นราธิวาส โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 593 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 601 เตียง คงเหลือ -8 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,680 เตียง ใช้ไป 883 เตียง คงเหลือ 797 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:176
@@ สงขลาป่วยพุ่ง 324 ราย - นราฯดับ 7
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันศุกร์ที่ 30 ก.ค.64 มีดังนี้
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 309 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 8,959 ราย รักษาหายแล้ว 5,959 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 3 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 118 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 166 ราย โรงพยาบาลสนามจังหวัด 663 ราย โรงพยาบาลสนามเรือนจำ 99 ราย โรงพยาบาลประจำอำเภอ 854 ราย โรงพยาบาลชุมชน 506 ราย โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 10 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 35 ราย สิโรรส-ปาร์ควิว Hospitel 162 ราย Home Isolation 124 ราย อยู่ระหว่างพิจารณาแอดมิท 256 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) 7 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 2,875 ราย, อ.หนองจิก 1,189 ราย, อ.โคกโพธิ์ 482 ราย, อ.ยะหริ่ง 1,027 ราย, อ.สายบุรี 458 ราย, อ.ไม้แก่น 131 ราย, อ.แม่ลาน 198 ราย, อ.ยะรัง 924 ราย, อ.ปะนาเระ 440 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 206 ราย, อ.มายอ 823 ราย และ อ.กะพ้อ 115 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 238 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 6,954 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 2,435 ราย รักษาหายแล้ว 4,465 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 54 ราย อยู่ระหว่างรอผล 1,650 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 2,716 ราย, อ.กรงปินัง 628 ราย, อ.เบตง 379 ราย, อ.รามัน 573 ราย, อ.บันนังสตา 1,263 ราย, อ.กาบัง 229 ราย อ.ธารโต 582 ราย และ อ.ยะหา 584 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,435 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 154 ราย โรงพยาบาลเบตง 69 ราย รพช.6 แห่ง 346 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 51 ราย โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 777 ราย โรงพยาบาลสนามเบตง 9 ราย โรงพยาบาลสนามรามัน 2 แห่ง 225 ราย โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 115 ราย โรงพยาบาลสนามธารโต 1 ราย Bubble & Seal (3 แห่ง) 124 ราย รักษาตัวที่บ้าน 13 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 521 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ 158 ราย แยกเป็น พื้นที่ อ.เมือง 24 ราย, อ.ยี่งอ 32 ราย, อ.จะแนะ 1 ราย, อ.แว้ง 50 ราย, อ.รือเสาะ 6 ราย, อ.บาเจาะ 7 ราย , อ.ระแงะ 16 ราย, อ.ศรีสาคร 17 ราย, อ.เจาะไอร้อง 2 ราย และ อ.สุไหงโก-ลก 3 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 5,993 ราย รักษาหายสะสม 4,293 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 7 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 65 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 1,334 ราย, อ.ระแงะ 697 ราย, อ.รือเสาะ 318 ราย, อ.บาเจาะ 434 ราย, อ.จะแนะ 347 ราย, อ.ยี่งอ 318 ราย, อ.ตากใบ 850 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 304 ราย, อ.สุไหงปาดี 298 ราย, อ.ศรีสาคร 285 ราย, อ.แว้ง 329 ราย, อ.สุคิริน 188 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 292 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 324 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 281 ราย และกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 43 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 11,702 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 11,679 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,830 ราย รักษาหายแล้ว 8,809 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 63 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 883 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 2,973 ราย, อ.เมืองสงขลา 1,930 ราย, อ.จะนะ 1,386 ราย, อ.สิงหนคร 960 ราย, อ.เทพา 753 ราย, อ.สะเดา 638 ราย, อ.สะบ้าย้อย 508 ราย, สทิงพระ 302 ราย, อ.บางกล่ำ 266 ราย, อ.นาทวี 197 ราย, อ.นาหม่อม 185 ราย, อ.รัตภูมิ 179 ราย, อ.ระโนด 89 ราย, ควนเนียง 61 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 61 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 12 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,101 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 78 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย