ร้ายขายยายะลาเริ่มวางขายชุดตรวจเชื้อโควิด-19 ให้ประชาชนไปตรวจได้ด้วยตนเองในราคาไม่เกิน 400 บาท ขณะที่ ศบค.สั่งปิดเพิ่มอีก 1 หมู่บ้านใน ต.บาโงยซิแน ส่วนที่เบตงปูพรมตรวจกลุ่มเสี่ยงบ้านบูเก๊ะดาราเซ พบติดเชื้อเพิ่ม 14 ราย ปัตตานีติดเชื้อกว่า 300 ราย ตายรวดเดียว 10 ศพ
วันอังคารที่ 27 ก.ค.64 ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวันและมีประชาชนเข้ารับการตรวจหาเชื้อจากหน่วยให้บริการทางการแพทย์แต่วันเป็นจำนวนมาก ทำให้ล่าสุดมีการจำหน่ายชุดตรวจเชื้อโควิด-19 เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนสามารถตรวจด้วยตนเอง
เภสัชกรอนันต์ เพ็ญหิรัญ ประธานชมรมร้านขายยาจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ขณะนี้ร้านขายยาในจังหวัดยะลา มีการจำหน่ายชุดตรวจเชื้อโควิด-19 ที่ใช้สำหรับที่บ้าน ประชาชนสามารถซื้อกลับมาตรวจได้เอง จะมี 2แบบ คือ ตรวจหาเชื้อจะเรียกว่า Rapid Antigen Test Kit คือการตรวจหาเชื้อโดยการ swabในโพรงจมูก และการตรวจหาเชื้อแบบ Rapid Antibody Test kit คือการตรวจหาภูมิ คือ ต้องตรวจจากเลือด อันนี้ไม่แนะนำให้ประชาชนตรวจเอง ส่วนที่ประชาชนสามารถตรวจเองได้คือการตรวจหาเชื้อ Rapid Antigen Test Kit ซึ่งตรงนี้สามารถตรวจได้จากโพรงจมูก ลำคอ โดยการมีน้ำยาของแต่ละยี่ห้อเป็นตัวเทสทดสอบ
สำหรับผู้ต้องการนำไปตรวจ จะเป็นแบบ Home Use ใช้สำหรับตรวจด้วยตนเอง วิธีการใช้งานไม่ยุ่งยาก ใช้ไม้ปั่นสำลี แหย่เข้าไปในโพรงจมูก หรือลำคอ จากนั้นนำน้ำยาผสมและหยดลงในแผ่นตรวจ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ผลเป็นบวกจะขึ้น 2 เส้น และผลเป็นลบขึ้นเส้นเดียว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี ประชาชนไม่ต้องไปรวมกันที่ใดที่หนึ่ง เพื่อที่จะไปตรวจ ทั้งยังทราบผลตรวจได้ไว สามารถดูแลตัวเองได้ทันที โดยการกักตัว ไม่นำเชื้อไปแพร่ให้กับคนอื่นได้
เภสัชกรอนันต์ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่มีความสงสัยว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง หรือท่านอาจจะไปสัมผัสกับผู้ที่ไม่สบายหรือผู้ป่วยที่เป็นโควิด เพื่อนร่วมงานหรือคนภายในบ้านที่ป่วยโควิด ท่านสามารถที่จะซื้อชุดตรวจมาทำการตรวจได้ด้วยตนเอง โดยมีข้อพึงระวังในการตรวจหาเชื้อ ถ้าเพิ่งได้รับเชื้อมาใหม่ๆ การฟักตัวของเชื้ออาจจะยังไม่มาก ถ้าตรวจเร็วอาจจะไม่เจอเชื้อ แนะนำให้ตรวจ ในระยะ 3-5 วัน หลังจากสัมผัสผู้ติดเชื้อ ผลการตรวจจะมีความแม่นยำชัดเจนและถ้าหากเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงจริงๆ จะต้องทำการกักตัว ตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ข้อดีคือสามารถตรวจได้ที่บ้าน สามารถเช็คผลการตรวจได้ค่อนข้างเร็วและใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็จะทราบผล ส่วนราคาจำหน่ายในขณะนี้ อยู่ที่ประมาณ 300 ขึ้นไปแต่ไม่เกิน 400 บาท ไม่แนะนำให้ซื้อทางออนไลน์ สามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายยาใกล้บ้าน ซึ่งจะมีเภสัชกรให้คำแนะนำวิธีการใช้งาน
@@ยะลาปิดเพิ่มอีก 1 หมู่บ้านใน ต.บาโงยซิแน อ.ยะลา
ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลา ได้มีคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จ.ยะลา ได้กำหนดให้บ้านบูเก๊ะ (กลุ่มบ้านกำปงบลีเตาะ) ม.2 ต.บาโงยซิแน อ.ยะหา จ.ยะลา เป็นพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง เพื่อควบคุมยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยให้ปิดพื้นที่ห้ามมิให้ผู้ใดเข้า-ออก นอกจากได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่
ทั้งยังมีคำสั่งให้งดปฏิบัติศาสนากิจที่มัสยิดและบาลาเซาะห์ในพื้นที่ บ้านบูเก๊ะ (กลุ่มบ้านกำปงบลีเตาะ) ม.2 ต.บาโงยซิแน อ.ยะหา จ.ยะลา โดยให้งดละหมาดญะมาอะห์ ละหมาดวันศุกร์(ญุมอะฮ์) ที่มัสยิดและบาลาเซาะห์เป็นการชั่วคราว ให้ละหมาดที่บ้านแทน
มีผลตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.64 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายตามคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลา ผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มีโทษทั้งจำและปรับ
@@เบตงปูพรมตรวจกลุ่มเสี่ยงบ้านบูเก๊ะดาราเซ พบติดชื้อเพิ่ม 14 ราย
ส่วนที่บ้านบูเก๊ะดาราเซ ม.8 ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเบตงร่วมกับโรงพยาบาลเบตง ได้เข้าทำการตรวจ Swab ชาวบ้านบูเก๊ะดาราเซ ซึ่งกลุ่มผู้เสี่ยงสูงและกลุ่มเสี่ยงต่ำทุกหลังคาเรือน ทั้งผู้ใหญ่ คนชรา และเด็กเล็ก รวมกว่า 300 คนต่อวัน เนื่องจากก่อนหน้านี้พบผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 30 คน เป็นกลุ่มติดเชื้อจากพื้นที่เสี่ยงในพื้นที่ จ.ยะลาและ จ.ปัตตานี ผลการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม 14 ราย
นายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ อ.เบตง ยังคงน่าเป็นห่วง ล่าสุดทางคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ยะลา ได้มีคำสั่งห้ามเดินทางเข้า-ออกและงดปฏิบัติศาสนกิจในมัสยิด สถานที่ละหมาดย่อย ในหมู่บ้านบูเก๊ะดาราเซ หมู่ 8 ต.ยะรม อ.เบตง หลังจากพบผู้ติดเชื้อหลายคนในหมู่บ้าน ซึ่งสาเหตุที่มีการแพร่ระบาดส่วนหนึ่งมาจากที่ไม่รู้ตัวเองว่าติดเชื้อและไม่ได้กักตัว
สำหรับการตรวจคัดกรองประจำวันได้แยกกลุ่มคนเปราะบาง ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวให้มีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ส่วนกลุ่มคนที่มีอาการป่วยให้แยกออกมา Swab หากพบว่า ติดเชื้อก็จะนำตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทันที
ส่วนสถานการณ์โควิด-19 อ.เบตง วันนี้(27 ก.ค.)พบผู้ป่วยรายใหม่ 14 ราย เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน 14 ราย ในพื้นที่ ม.8 บ้านบูเก็ะดาราเซ ต.ยะรม รวมผู้ป่วยสะสม 352 ราย แยกเป็นผู้ป่วยใน อ.เบตง 348 ราย พบจากพื้นที่อื่น 1 ราย และพบใน state Quarantine 3 ราย กำลังรักษา 55 ราย รักษาหายแล้ว 291 ราย ส่งต่อ 1 ราย และเสียชีวิต 5 ราย
@@โรงพยาบาลสนามชายแดนใต้ จนท.1 คนดูแลผู้ป่วย 100 กว่าคน
ด้านรายงานข้อมูลเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ เป็นข้อมูล ณ เวลา 15.30 น. ของวันที่ 27 ก.ค.64 มีข้อมูลดังนี้
จ.สงขลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 950 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 836 เตียง คงเหลือ 114 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 3,192 เตียง ใช้ไป 1,795 เตียง คงเหลือ 1,397 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:128
จ.ปัตตานี โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 933 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 755 เตียง คงเหลือ 178 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,835 เตียง ใช้ไป 1,538 เตียง คงเหลือ 297 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:14
จ.ยะลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 791 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 610 เตียง คงเหลือ 181 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,088 เตียง ใช้ไป 1,040 เตียง คงเหลือ 48 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:148
จ.นราธิวาส โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 593 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 557 เตียง คงเหลือ 36 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,680 เตียง ใช้ไป 650 เตียง คงเหลือ 1,030 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:130
@@ปัตตานีติดเชื้อ 338 เสียชีวิต 10 รายรวด
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันอังคารที่ 27 ก.ค.64 มีดังนี้
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 338 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 8,201 ราย รักษาหายแล้ว 4,994 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 10 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 112 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 181 ราย โรงพยาบาลสนามจังหวัด 782 ราย โรงพยาบาลประจำอำเภอ 838 ราย โรงพยาบาลชุมชน 446 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 40 ราย สิโรรส-ปาร์ควิว Hospitel 182 ราย อยู่ระหว่างพิจารณาแอดมิท 621 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) 7 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 2,687 ราย, อ.หนองจิก 1,137 ราย, อ.โคกโพธิ์ 475 ราย, อ.ยะหริ่ง 949 ราย, อ.สายบุรี 405 ราย, อ.ไม้แก่น 117 ราย, อ.แม่ลาน 183 ราย, อ.ยะรัง 735 ราย, อ.ปะนาเระ 372 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 195 ราย, อ.มายอ 744 ราย และ อ.กะพ้อ 114 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 132 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 6,314 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 2,631 ราย รักษาหายแล้ว 3,633 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 50 ราย อยู่ระหว่างรอผล 1,576 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 2,520 ราย, อ.กรงปินัง 608 ราย, อ.เบตง 352 ราย, อ.รามัน 503 ราย, อ.บันนังสตา 1,117 ราย, อ.กาบัง 219 ราย อ.ธารโต 475 ราย และ อ.ยะหา 520 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,631 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 177 ราย โรงพยาบาลเบตง 54 ราย รพช.6 แห่ง 379 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 57 ราย โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 798 ราย โรงพยาบาลสนามเบตง 4 ราย โรงพยาบาลสนามรามัน 2 แห่ง 238 ราย โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 107 ราย โรงพยาบาลสนามธารโต 13 ราย Bubble & Seal (3 แห่ง) 142 ราย รักษาตัวที่บ้าน 31 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 631 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ 124 ราย แยกเป็น พื้นที่ อ.เมือง 3 ราย, อ.ตากใบ 31 ราย, อ.แว้ง 41 ราย, อ.รือเสาะ 28 ราย, อ.ศรีสาคร 9 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 12 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 5,304 ราย รักษาหายสะสม 3,761 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 4 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 53 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 1,170 ราย, อ.ระแงะ 600 ราย, อ.รือเสาะ 282 ราย, อ.บาเจาะ 394 ราย, อ.จะแนะ 327 ราย, อ.ยี่งอ 252 ราย, อ.ตากใบ 842 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 227 ราย, อ.สุไหงปาดี 254 ราย, อ.ศรีสาคร 249 ราย, อ.แว้ง 269 ราย, อ.สุคิริน 173 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 266 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 196 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ป่วยยืนยันในพื้นที่ 134ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 62 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 10,880 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 10,857 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,631 ราย รักษาหายแล้ว 8,191 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 58 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 1,161 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 2,735 ราย, อ.เมืองสงขลา 1,821 ราย, อ.จะนะ 1,351 ราย, อ.สิงหนคร 808 ราย, อ.เทพา 690 ราย, อ.สะเดา 586 ราย, อ.สะบ้าย้อย 457 ราย, สทิงพระ 297 ราย, อ.บางกล่ำ 247 ราย, อ.นาทวี 182 ราย, อ.นาหม่อม 166 ราย, อ.รัตภูมิ 138 ราย, อ.ระโนด 88 ราย, ควนเนียง 61 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 46 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 12 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,101 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 71 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย