ปัตตานีคลัสเตอร์เรือนจำโผล่ ผู้ต้องขัง-ผู้คุมติดโควิดรวม 72 ราย เปิดโรงพยาบาลสนามในเรือนจำ 200 เตียงรองรับ ด้านตัวเลขติดเชื้อรายใหม่ยังพุ่ง 263 ราย ขณะที่สงขลาป่วยเสียชีวิต 7 ราย ส่วนที่รือเสาะใช้มาตรการล็อกดาวน์พื้นที่ห้ามผ่านเข้า-ออก 5 วัน หวังลดการระบาด
วันพุธที่ 21 ก.ค.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยังคงพบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่เพิ่มขึ้น เนื่องมาจากพบคลัสเตอร์แห่งใหม่ คือ คลัสเตอร์เรือนจำกลางจังหวัดปัตตานี ซึ่งล่าสุดทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ได้ทำการตรวจเชิงรุก ภายในแดน 1 เรือนจำกลางปัตตานี หลังพบเจ้าหน้าที่เรือนจำติดเชื้อ 1 ราย
จากการเข้าตรวจหาเชื้อพบผู้ต้องขังที่แดน 1 ชาย ติดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งสิ้น 71 ราย ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกของจังหวัดปัตตานี ที่มีผู้ติดเชื้อในเรือนจำเป็นจำนวนมาก หลังจากที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่พบผู้ต้องขังเพียง 1 – 2 รายเท่านั้น แต่ครั้งนี้ กลับพบผู้ติดเชื้อในครั้งเดียวกว่า 70 ราย
นายแพทย์ชัยรัตน์ ลำโป นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี กล่าวถึงสาเหตุของการติดเชื้อในเรือนจำว่า จากการตรวจสอบคาดว่า มาจากเจ้าหน้าที่ของเรือนจำ ที่ติดเชื้อโควิด-19 จากชุมชน แต่เนื่องจากว่า การตรวจเชื้อของเจ้าหน้าที่รายนี้ ก่อนที่จะเข้ามาทำงานในเรือนจำ ปรากฏว่า ไม่พบเชื้อ เพราะเชื้อโควิด-19 มีปริมาณที่น้อยและยังไม่แสดงอาการ ทำให้เจ้าหน้าที่รายนี้ได้ทำงานตามปกติ ถือเป็นช่องโหว่จนทำให้เกิดการแพร่เชื้อในครั้งนี้
ในเรื่องนี้ทางสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ได้มีการเตรียมแผนการล่วงหน้าแล้วว่า การติดเชื้อในเรือนจำอาจจะเกิดขึ้น ทำให้ทางเรือนจำได้จัดเตรียมสถานที่ทำโรงพยาบาลสนามกว่า 200 เตียง เพื่อรับมือสถานการณ์นี้ โดยผู้ต้องขังที่ติดเชื้อทั้งหมด จะพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามในเรือนจำกลางจังหวัดปัตตานี เพื่อเป็นการป้องกันการเคลื่อนย้ายของผู้ป่วย โดยมีทางเจ้าหน้าที่ของสาธารณสุขเข้าไปดูแลรักษาผู้ป่วย
นอกจากนี้ยังได้มีการวางมาตรการให้กับเจ้าหน้าที่เรือนจำให้ปฏิบัติงานโดยการแบ่งเป็น 3 ทีม ทยอยหมุนเวียนกันทำงาน โดยปฏิบัติงานทีมละ 7 วัน โดยมีมาตรการคือ เมื่อออกจากหน้าที่ ต้องมีการกักตัวที่บ้าน 7 วัน และก่อนเข้าทำงานก็ต้องมีการกักตัวที่ทำงาน ก่อนอีก 7 วัน เพื่อให้ครบ 14 วัน ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยนี้อีกครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ประมาทในเรื่องนี้และมีการตรวจเชื้ออย่างต่อเนื่อง
@@อ.มายอ จับแล้ว 13 ราย ฝ่าฝืนออกนอกเคหสถาน
ส่วนในพื้นที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี ทางกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองได้สนธิกำลังออกปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายตามประกาศจังหวัดปัตตานี โดยการขอให้ประชาชนงดเว้นการออกนอกเคหสถาน อันเป็นเหตุให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ระหว่างเวลา 21.00 น.– 04.00 น. โดยการจัดตั้งจุดตรวจ หรือจุดสกัด เพื่อสกัดกั้น ไม่ให้เกิดการเคลื่อนย้ายจากพื้นที่จังหวัด ไปยังจังหวัดอื่นอย่างเข้มงวดพร้อมได้มีการ ประชาสัมพันธ์ ตักเตือนให้ใส่หน้ากากอนามัย ตักเตือนร้านค้า
จากผลการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ สามารถดำเนินการจับกุมผู้ฝ่าฝืนคำสั่งประกาศจังหวัด โดยออกนอกเคหสถาน หลังเวลา 21.00 น จำนวน 2 ราย รวมผู้ฝ่าฝืนคำสั่งที่ถูกดำเนินการจับกุมสะสมทั้งหมด 13 ราย
@@รือเสาะล็อคดาวน์พื้นที่ห้ามผ่านเข้า-ออก 5 วัน หวังลดการระบาด
นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ นายอำเภอรือเสาะ กล่าวว่า ได้ยกระดับมาตรการคุมเข้มควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยประกาศล็อกดาวน์อำเภอรือเสาะตามมติ ศบค.รือเสาะ ตั้งแต่วันที่ 20-25 ก.ค.64 โดยทำการปิดเส้นทางรอยต่อระหว่างอำเภอและพื้นที่แนวเขตติดต่อระหว่างจังหวัดต่อเนื่องเป็นเวลา 5 วันตั้งแต่วันที่ 20-25 ก.ค.64 โดยจะพิจารณาอนุญาตให้เดินทางเฉพาะผู้ที่มีความจำเป็นสูงสุดและไม่อนุญาตให้ใช้เส้นทาง อ.รือเสาะ เพื่อเดินทางข้ามจังหวัด โดยหากมีความประสงค์จะเดินทางไปจังหวัดยะลาและปัตตานี ต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางสายหลักทาง อ.บาเจาะ เท่านั้น
ซึ่งทาง อ.รือเสาะ ได้ยึดถือการปฏิบัติและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดตามคำสั่ง จ.นราธิวาส เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้กับประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากขณะนี้พบว่า ผู้ติดเชื้อในรายที่เป็นผู้สูงอายุ มีอัตราการติดเชื้อแล้วเสียชีวิตเพิ่มขึ้นสูงมาก
@@โรงพยาบาลหลักนราธิวาสยังติดลบ 92 เตียง
ด้านรายงานข้อมูลเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ เป็นข้อมูล ณ เวลา 15.30 น. ของวันที่ 21 ก.ค.64 มีข้อมูลดังนี้
จ.สงขลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 949 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 820 เตียง คงเหลือ 129 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 3,184 เตียง ใช้ไป 1,911 เตียง คงเหลือ 1,273 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:140
จ.ปัตตานี โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 480 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 457 เตียง คงเหลือ 23 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,835 เตียง ใช้ไป 1,430 เตียง คงเหลือ 405 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:13
จ.ยะลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 591 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 504 เตียง คงเหลือ 87 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,088 เตียง ใช้ไป 1,045 เตียง คงเหลือ 43 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:149
จ.นราธิวาส โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 515 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 617 เตียง คงเหลือ -92 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,500 เตียง ใช้ไป 571 เตียง คงเหลือ 929 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:114
@@ปัตตานีติดเชื้อโควิดใหม่ 263 ราย - สงขลาป่วยเสียชีวิต 7 ราย
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันพุธที่ 21 ก.ค.64 มีดังนี้
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 263 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 6,935 ราย รักษาหายแล้ว 3,833 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 74 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 179 ราย โรงพยาบาลสนามจังหวัด 798 ราย โรงพยาบาลประจำอำเภอ 693 ราย โรงพยาบาลชุมชน 481 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 41 ราย สิโรรส-ปาร์ควิว Hospitel 165 ราย อยู่ระหว่างพิจารณาแอดมิท 666 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) 6 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 2,188 ราย, อ.หนองจิก 1,078 ราย, อ.โคกโพธิ์ 447 ราย, อ.ยะหริ่ง 780 ราย, อ.สายบุรี 329 ราย, อ.ไม้แก่น 100 ราย, อ.แม่ลาน 162 ราย, อ.ยะรัง 573 ราย, อ.ปะนาเระ 301 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 167 ราย, อ.มายอ 633 ราย และ อ.กะพ้อ 106 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 164 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 5,352 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 2,336 ราย รักษาหายแล้ว 2,973 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 43 ราย อยู่ระหว่างรอผล 2,067 ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 2,184 ราย, อ.กรงปินัง 573 ราย, อ.เบตง 319 ราย, อ.รามัน 428 ราย, อ.บันนังสตา 856 ราย, อ.กาบัง 202 ราย อ.ธารโต 345 ราย และ อ.ยะหา 445 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,336 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 130 ราย โรงพยาบาลเบตง 57 ราย รพช. 6 แห่ง 317 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 50 ราย โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 704 ราย โรงพยาบาลสนามเบตง 11 ราย โรงพยาบาลสนามรามัน 2 แห่ง 246 ราย โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 84 ราย Bubble & Seal (3 แห่ง) 236 ราย รักษาตัวที่บ้าน/ปฏิเสธการรักษา 68 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 433 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ 139 ราย แยกเป็น พื้นที่ อ.ระแงะ 9 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 9 ราย, อ.เจาะไอร้อง 37 ราย, อ.เมือง 23 ราย, อ.สุไหงปาดี 11 ราย, อ.ศรีสาคร 9 ราย, อ.ตากใบ 8 ราย, อ.ยี่งอ 1 ราย, อ.จะแนะ 15 ราย, อ.แว้ง 6 ราย อ.รือเสาะ 5 ราย และ อ.บาเจาะ 6 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 4,465 ราย รักษาหายสะสม 3,108 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมเป็น 42 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 1,042 ราย, อ.ระแงะ 511 ราย, อ.รือเสาะ 215 ราย, อ.บาเจาะ 369 ราย, อ.จะแนะ 292 ราย, อ.ยี่งอ 208 ราย, อ.ตากใบ 650 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 197 ราย, อ.สุไหงปาดี 221 ราย, อ.ศรีสาคร 231 ราย, อ.แว้ง 183 ราย, อ.สุคิริน 123 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 223 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 175 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ป่วยยืนยันในพื้นที่ 97 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 42 ราย กลุ่มรอสอบสวนโรค 12 ราย และกลุ่มสัมผัสเสี่ยงอื่นๆ 24 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 9,626 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 9,603 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,731 ราย รักษาหายแล้ว 6,844 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 7 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 51 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 725 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 2,370 ราย, อ.เมืองสงขลา 1,647 ราย, อ.จะนะ 1,166 ราย, อ.สิงหนคร 678 ราย, อ.เทพา 673 ราย, อ.สะเดา 484 ราย, อ.สะบ้าย้อย 370 ราย, สทิงพระ 287 ราย, อ.บางกล่ำ 225 ราย, อ.นาทวี 169 ราย, อ.รัตภูมิ 97 ราย, อ.นาหม่อม 88 ราย, อ.ระโนด 84 ราย, ควนเนียง 59 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 38 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 12 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,101 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 55 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย