นราธิวาสเปิดแล้วโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 7 ปักหมุดตากใบ รองรับได้ 200 เตียง สสจ.วอนหยุดเดินทางช่วงรายอฮัจย์ หวั่นโควิดแพร่หนัก ด้านยะลาสั่งปิด 3 หมู่บ้าน ยะหา-บันนังสตา งดละหมาดที่มัสยิด ขณะที่ปัตตานีติดเชื้อโควิดรายใหม่เกิน 300 อีกวัน
วันเสาร์ที่ 17 ก.ค.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดสงขลา การแพร่ระบาดยังคงพบผู้ติดเชื้อในทุกจังหวัดเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อการรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นของโรงพยาบาลในพื้นที่
ทำให้ จ.นราธิวาส ได้ทำการเปิดโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 7 ขึ้นที่โรงเรียนตากใบ ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส มีนายบุญพาศ รักนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 7 พร้อมด้วยนายแพทย์วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส นายสังคม เกิดก่อ นายอำเภอตากใบ นายแพทย์ภุชงค์ วงศ์หิรัญรัตน์ รักษาการ ผอ.รพ.ตากใบ หัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมพิธีในครั้งนี้
ก่อนหน้านี้ที่ จ.นราธิวาส มีโรงพยาบาลสนามทั้งหมด 6 แห่ง ได้ปิดตัวไป 2 แห่ง เหลืออีก 4 แห่ง คือ โรงพยาบาลสนามศูนย์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพยาเสพติดจังหวัดนราธิวาส , โรงพยาบาลสนามศูนย์พักพิงร่วมใจอุ่นไอรักบ้านบือราเป๊ะ , โรงพยาบาลสนามโรงยิมเนเซี่ยม มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ และโรงพยาบาลสนามหอประชุมเมืองนราธิวาส
โดยในส่วนของ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส มียอดผู้ป่วยสะสม 601 รายกระจายไปทุกตำบล ยกเว้นตำบลนานาค ทำให้มีความจำเป็นต้องเปิดโรงพยาบาลสนาม ในพื้นที่อ.ตากใบ เพื่อรองรับผู้ป่วยกลุ่ม ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ ซึ่งโรงพยาบาลสนามแหง่นี้สามารถรองรับผู้ป่วยได้ จำนวน 200 เตียง โดยได้รับความอนุเคราะห์สถานที่จากโรงเรียนตากใบ โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ร่วมกับโรงพยาบาลตากใบ และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอตากใบ ได้จัดสรรบุคลากรทางการแพทย์ ประกอบด้วย แพทย์ 2 คน พยาบาลวิชาชีพ 10 คน และพนักงานทำความสะอาด 2 คน โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อให้ผู้ป่วยปลอดภัย บุคลากรปลอดภัย และชุมชนรอบข้างปลอดภัยจากโควิด-19
@@สสจ.นราฯ วอนหยุดเดินทางช่วงรายอฮัจย์หวั่นโควิดระบาด
ขณะที่นายแพทย์วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า เนื่องจากในวันที่ 21 ก.ค.นี้ จะเป็นช่วงวันรายอฮัจย์ของพี่น้องชายแดนใต้ ซึ่งจังหวะนั้น จะเป็นจังหวะที่ทั้ง 3 จังหวัดรวมทั้ง จ.สงขลา มีแนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้นจำนวนมาก เพราะฉะนั้นก็อยากขอร้องพี่น้องประชาชนช่วยหยุดการเดินทางเท่าที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางที่ไปพบหมอหรือการเดินทางเพื่อการยังชีพ ให้เคลื่อนไหวเท่าที่จำเป็น
เนื่องจากช่วงหลังของการพบผู้ป่วย พบว่าเป็นการติดเชื้อในครอบครัว ถึงแม้ว่าจะอยู่บ้านหลังเดียวกัน ควรต้องรักษาระยะห่าง สวมหน้ากาก พยายามล้างมือบ่อยๆ เนื่องจากหากมีคนติดเชื้อเข้ามาในบ้านของเรา เรามีโอกาสที่จะติดเชื้อจากคนอื่นได้ ต้องช่วยกัน ถ้าเราไม่สามารถหยุดจำนวนผู้ติดเชื้อในช่วงวันรายอฮัจย์ได้ คิดว่าสถานการณ์จะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก ก็จะทำให้การควบคุม ป้องกันและการดูแลรักษาลำบากและยากขึ้น
@@ ยะลาเตรียมฉีดวัคซีนพระราชทาน "ซิโนฟาร์ม" 19-20 ก.ค.นี้
นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เผยว่า จากที่จังหวัดยะลาได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โปรดเกล้าฯ พระราชทานวัคซีนโควิด-19 ซิโนฟาร์มเพื่อกระจายให้แก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ ผู้ที่มีรายได้น้อยและชุมชนในพื้นที่เสี่ยง เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 64 พรรษา 4 ก.ค.64 โดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้พระราชทานวัคซีนโควิด-19 ซิโนฟาร์ม (Sinopharm) ให้โรงพยาบาลยะลา จำนวน 6,400 โดส ( แบ่งเป็นคนละ 2 โดส ห่างกัน 3 สัปดาห์ )
ซึ่งจังหวัดยะลากำหนดประชาชนเป้าหมายไว้ 3,200 คน จะทำการฉีดในระหว่างวันที่ 19 – 20 ก.ค.นี้ โดยจะทำพิธีรับมอบ วัคซีนพระราชทาน ซิโนฟาร์ม ที่ หน่วยบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 อาคารศรีนิบง ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลาในวันที่ 19 ก.ค.64 เวลา 08.30 น. ทั้งนี้กลุ่มเป้าหมาย แบ่งเป็น ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส/ ชุมชนแออัด ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยติดเตียง/กลุ่มโรคเรื้อรัง ผู้นำศาสนา (พระภิกษุสงฆ์ โต๊ะอิหม่าม)
@@สั่งปิด 3 หมู่บ้าน ยะหา - บันนังสตา ทั้งงดละหมาดที่มัสยิด
นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ออกคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จ.ยะลา เรื่องการกำหนดพื้นที่เสี่ยงเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( โควิด-19 ) ในพื้นที่จังหวัดยะลา เพื่อเป็นการควบคุมและยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงได้กำหนดปิดและห้ามมิให้ผู้ใดเข้า-ออกหมู่บ้าน รวมถึงให้งดละหมาดญะมาอะห์ ละหมาดวันศุกร์ ( ญุมอะฮ์ ) ที่มัสยิดและบาลาเซาะห์ในพื้นที่ ดังต่อไปนี้
1.บ้านซีเซ๊ะ (กลุ่มบ้านซีเซ๊ะใน) ม.5 ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา (เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.64)
2.บ้านฆอรอราแม (กลุ่มบ้านดือลง, กลุ่มบ้านมาแบ, กลุ่มบ้านฆอรอราแม) ม.4 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา (เริ่มวันที่ 16 ก.ค.64)
3.บ้านเจาะปันตัง (กลุ่มบ้านเจาะปันตังใน, กลุ่มบ้านบารู, กลุ่มบ้านบริเวณโรงเรียนคัมภีร์วิทยา) ม.9 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา (เริ่มวันที่ 16 ก.ค.64)
โดยให้เริ่มปฏิบัติตามวันที่กำหนดเป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายตามคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลา
@@ปัตตานียกเลิกคำสั่งปิดโรงงานอาหารทะเลบรรจุกระป๋อง
ส่วนที่ จ.ปัตตานี นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ออกหนังสื่อคำสั่งจังหวัดปัตตานี ที่(พิเศษ) 50/2564 เรื่องยกเลิกคำสั่งปิดโรงงานอุตสาหกรรมอาหารทะเลบรรจุกระป๋องส่งออก (บริษัท ปัตตานีผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด) ซึ่งก่อนหน้านี้ทางจังหวัดได้มีคำสั่งปิดไปเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา
แต่เนื่องจากปัจจุบันโรงงานอุตสาหกรรมอาหารทะเลบรรจุกระป๋องส่งออก (บริษัท ปัตตานีผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด) ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามที่ทางราชการกำหนดแล้ว จึงเห็นควรให้เปิดโรงงานฯ ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค.64 เป็นต้นไป
@@โรงพยาบาลหลัก นราฯ เตียงติดลบ 61 - สงขลาเตียงไม่ว่าง
ด้านรายงานข้อมูลเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ เป็นข้อมูล ณ เวลา 15.30 น. ของวันที่ 17 ก.ค.64 มีข้อมูลดังนี้
จ.สงขลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 846 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 846 เตียง ไม่เหลือเตียงว่างเลย ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 2,096 เตียง ใช้ไป 2,048 เตียง คงเหลือ 48 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:146
จ.ปัตตานี โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 480 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 413 เตียง คงเหลือ 67 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,835 เตียง ใช้ไป 1,199 เตียง คงเหลือ 636 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:11
จ.ยะลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 591 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 548 เตียง คงเหลือ 43 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,088 เตียง ใช้ไป 1,048 เตียง คงเหลือ 40 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:149
จ.นราธิวาส โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 515 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 576 เตียง คงเหลือ -61 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 900 เตียง ใช้ไป 463 เตียง คงเหลือ 437 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:92
@@ปัตตานีป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่แตะ300 กว่าอีกวัน
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันเสาร์ที่ 17 ก.ค.64 มีดังนี้
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 195 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 4,624 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 2,005 ราย รักษาหายแล้ว 2,590 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 39 ราย อยู่ระหว่างรอผล 1,858 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 1,929 ราย, อ.กรงปินัง 503 ราย, อ.เบตง 312 ราย, อ.รามัน 359 ราย, อ.บันนังสตา 754 ราย, อ.กาบัง 184 ราย อ.ธารโต 305 ราย และ อ.ยะหา 288 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,005 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 162 ราย โรงพยาบาลเบตง 68 ราย รพช. 6 แห่ง 386 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 47 ราย โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 717 ราย โรงพยาบาลสนามเบตง 12 ราย โรงพยาบาลสนามรามัน 2 แห่ง 302 ราย โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 17 ราย ย Bubble & Seal 91 ราย รักษาตัวที่บ้าน/ปฏิเสธการรักษา 36 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 167 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ 148 ราย แยกเป็น พื้นที่ อ.ระแงะ 14 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 29 ราย, อ.เมือง 37 ราย, อ.สุไหงปาดี 7 ราย, อ.ศรีสาคร 3 ราย, อ.ตากใบ 11 ราย, อ.ยี่งอ 4 ราย, อ.จะแนะ 2 ราย, อ.แว้ง 10 ราย, อ.รือเสาะ 16 ราย และ อ.บาเจาะ 15 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 3,897 ราย รักษาหายสะสม 2,660 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 3 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมเป็น 34 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 959 ราย, อ.ระแงะ 420 ราย, อ.รือเสาะ 178 ราย, อ.บาเจาะ 342 ราย, อ.จะแนะ 253 ราย, อ.ยี่งอ 174 ราย, อ.ตากใบ 612 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 162 ราย, อ.สุไหงปาดี 179 ราย, อ.ศรีสาคร 199 ราย, อ.แว้ง 145 ราย, อ.สุคิริน 113 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 161 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 331 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 5,950 ราย รักษาหายแล้ว 3,183 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 61 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 143 ราย โรงพยาบาลสนามจังหวัด 755 ราย โรงพยาบาลประจำอำเภอ 646 ราย โรงพยาบาลชุมชน 399 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 24 ราย สิโรรส-ปาร์ควิว Hospitel 128 ราย อยู่ระหว่างพิจารณาแอดมิท 604 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) 7 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 1,890 ราย, อ.หนองจิก 873 ราย, อ.โคกโพธิ์ 387 ราย, อ.ยะหริ่ง 674 ราย, อ.สายบุรี 259 ราย, อ.ไม้แก่น 99 ราย, อ.แม่ลาน 136 ราย, อ.ยะรัง 479 ราย, อ.ปะนาเระ 250 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 160 ราย, อ.มายอ 586 ราย และ อ.กะพ้อ 98 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 286 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ป่วยยืนยันในพื้นที่ 164 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 67 ราย กลุ่มรอสอบสวนโรค 12 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงอื่นๆ 43 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 8,960 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 8,937 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,893 ราย รักษาหายแล้ว 6,029 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 38 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 1,232 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 2,232 ราย, อ.เมืองสงขลา 1,519 ราย, อ.จะนะ 1,069 ราย, อ.เทพา 643 ราย, อ.สิงหนคร 590 ราย, อ.สะเดา 445 ราย, อ.สะบ้าย้อย 303 ราย, สทิงพระ 280 ราย, อ.บางกล่ำ 211 ราย, อ.นาทวี 144 ราย, อ.รัตภูมิ 92 ราย, อ.นาหม่อม 85 ราย, อ.ระโนด 81 ราย, ควนเนียง 59 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 38 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 11 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,089 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 46 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย