
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT เปิดแคมเปญรณรงค์ใหม่ ประเมินตัวเลขงบประมาณจาก “อาคารทิ้งร้าง” เพราะสร้างไม่เสร็จ ของหน่วยราชการต่างๆ คิดเป็นความเสียหาย มากกว่า 1 แสนล้านบาท
งานนี้จึงเรียกร้องให้รัฐบาลจัดหา “เจ้าภาพ” ออกสำรวจอาคารรัฐทิ้งร้างทั่วประเทศโดยด่วน แทนที่จะปล่อยให้งบประมาณละลายหายไปทุกวันอย่างน่าเสียดาย
มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ประเมินตัวเลขงบประมาณที่สูญเสียจากปัญหาอาคารรัฐทิ้งร้างสร้างไม่เสร็จทั่วประเทศ สูงถึงหลักแสนล้านบาท พบมากสุดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สาเหตุเพราะการก่อสร้างอ้างความมั่นคง
ทั้งนี้ ปัญหาการใช้งบประมาณแผ่นดินไร้ประสิทธิภาพมีให้เห็นมากมาย เฉพาะที่ตำตาประชาชน และมีเรื่องร้องเรียนในแต่ละวัน นั่นคืออาคารราชการทิ้งร้างสร้างไม่เสร็จที่กระจัดกระจายทั่วประเทศ
@@ “ตรัง” เมืองเดียวทิ้งร้าง 2.8 ล้าน

อย่างไรก็ดี มานะ ยอมรับว่า ปัจจุบันไม่พบแหล่งข้อมูลที่ระบุได้ว่า ทั่วประเทศมีอาคารทิ้งร้างสร้างไม่เสร็จตั้งอยู่ที่ไหนบ้าง คิดเป็นจำนวนและมูลค่าเท่าไหร่ หรือใครเป็นเจ้าของ ข้อมูลที่พบมีเพียงตัวเลขบางส่วนจากการสำรวจโดยสำนักผู้ตรวจราชการ สำนักงานปลัดสานักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งผู้บริหารป.ป.ช.เคยระบุว่า จังหวัดเล็กๆ อย่าง “ตรัง” มีอาคารทิ้งร้างคิดเป็นมูลค่า 2.8 พันล้านบาท (5 ก.พ. 2568) โดยตัวอาคารมูลค่าสูงสุด 400 กว่าล้านบาท หากใช้ตัวเลขเพียงครึ่งเดียวของจังหวัดตรังคือ 1.4 พันล้านบาท คูณด้วย 76 จังหวัด ตัวเลขที่ได้จะประมาณ 1 แสนล้านบาท
“นี่คือที่มาของสมมติฐานตัวเลขความสูญเสียงบประมาณจากปัญหาอาคารราชการทิ้งร้างทั่วประเทศ” ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ระบุ
มานะกล่าวต่อไปว่า อาจมีคนเห็นแย้งว่า ทั่วประเทศต้องมีอาคารใหญ่ระดับพันล้านจำนวนมากที่สร้างไม่เสร็จ วงเงินรวมจึงจะแตะระดับแสนล้านบาทได้ ฉะนั้นตัวเลขสมมติฐานนี้ ถือว่าเกินจริงหรือไม่
แต่หากพิจารณาอย่างรอบคอบ รอบด้าน ต้องไม่ลืมว่ามีความเสียหายที่กระจายซ่อนอยู่ในทุกจังหวัดและหลุดการสำรวจ โดยเฉพาะโครงการทิ้งร้างทั้งใหญ่และเล็กจำนวนมากที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สร้างเอง และโครงการที่หน่วยงานจากส่วนกลาง รวมทั้งหน่วยทหารสร้างแล้วยกให้ อปท. หรือโรงเรียนต่างๆ รับไปดูแล เช่น ศูนย์เด็กเล็ก สนามกีฬา ศูนย์ท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์ แหล่งเรียนรู้ โรงผลิตน้ำดื่ม เป็นต้น
อีกคำถามชวนคิด คือ กรณีอาคาร กสทช. มูลค่า 2.64 พันล้านบาท แม้ปล่อยทิ้งมาหลายปีแล้ว แต่อีก 2-5 ปีข้างหน้า เมื่อเคลียร์ปัญหาฟ้องร้องกับผู้รับเหมาเดิม จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม แล้วเริ่มต้นประมูลหาผู้รับเหมารายใหม่ทำงานต่อให้เสร็จ อย่างนี้ควรนับรวมในตัวเลขแสนล้านนี้ด้วยหรือไม่
@@ สามจังหวัดใต้แชมป์ร้าง งบความมั่นคงทำเหตุ

ไม่เพียงเท่านั้น ข้อมูลที่ได้รับฟังจากผู้นำชุมชนในพื้นที่ และผู้บริหาร ป.ป.ช. ทำให้ทราบว่า ปัญหาเช่นนี้พบมากในสามจังหวัดภาคใต้ และ 4 อาเภอของจังหวัดสงขลาดังที่ทราบว่า ที่สงขลาก็มีพิพิธภัณฑ์หอยสังข์มูลค่า 1.4 พันล้านบาท เพราะมีงบความมั่นคง งบอัดฉีดจากหน่วยต่างๆ จำนวนมาก การจัดซื้อจัดจ้างมักใช้วิธีพิเศษ ยังไม่รวมถึง กทม. ที่พบปัญหาเช่นกัน
“ปัญหาลักษณะนี้เกิดขึ้นทั่วประเทศ รวมทั้งอาคารสำนักงานสตง. ที่ก่อสร้างค้างคาอยู่นับ 10 จังหวัด” มานะ กล่าว
@@ หน่วยงานลงทุนไม่ใช่ผู้ใช้อาคาร สุดท้ายไร้คนรับผิดชอบ

ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขยายความอีกว่า การที่ไม่มีใครรู้ตัวเลขความเสียหายที่แท้จริง เกิดจากปัจจัยสำคัญคือ “หน่วยงานที่ไปลงทุนก่อสร้าง” ไม่รับรู้ว่าอาคารถูกทิ้งร้างหรือใช้งานต่อ เพราะได้โอนไปให้หน่วยงานอื่นแล้ว
ขณะที่ “หน่วยงานรับมอบอาคารสิ่งปลูกสร้าง” ก็ไม่รับเป็นภาระ หรือไม่รู้จะจัดการอย่างไร ที่แย่กว่านั้น คือ ไม่เคยมีกฎระเบียบหรือมาตรการให้หน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยกากับดูแลต้องเก็บรวบรวมข้อมูล
@@ แนะหาเจ้าภาพสำรวจทั่วไทย - ขึ้นบัญชีดำห้ามสร้างใหม่
ดังนั้น ทางออกของวันนี้จึงต้องมีหน่วยที่มีศักยภาพและเป็นกลาง รับเป็น “เจ้าภาพ” ลงสำรวจพื้นที่ บันทึกจำนวน ที่ตั้ง สภาพปัจจุบัน และมูลค่าที่แท้จริง เก็บข้อมูลอาคารสร้างไม่เสร็จนานเกิน 3-5 ปี ส่วนอาคารทิ้งร้างต้องระบุชื่อองค์กรเจ้าของเงินลงทุนและองค์กรเจ้าของปัจจุบัน แล้วนำเรื่องสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขที่เป็นไปได้ร่วมกัน ด้วยความรับผิดชอบ และเปิดเผยต่อประชาชน
สำหรับแนวทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เสนอว่า ต้องหาผู้รับเหมารายใหม่มาทำต่อให้จบ แม้ต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 10-100 ตามสภาพโครงการที่ถูกทิ้งร้างก็ตาม
ขณะเดียวกันต้องเปิดให้หน่วยงานอื่นมาใช้ประโยชน์ หรือเปลี่ยนวัตถุประสงค์การใช้งานอาคารตามความต้องการของชุมชน หรือเปิดให้เอกชนเช่าใช้สถานที่ระยะยาว และห้ามมิให้หน่วยงานที่มีสิ่งปลูกถูกขึ้นบัญชีตามข้อ 1 นี้ ทำโครงการก่อสร้างใหม่อีกจนกว่าจะสะสางของเก่าเสร็จสิ้น
