ที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีปัญหาการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงส่งศูนย์ซักถามได้เพียงคืนเดียวก็ถูกส่งตัวเข้าไอซียูด้วยอาการสมองบวม ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวางว่ามีการซ้อมทรมานหรือไม่ ขณะที่ฝ่ายทหารยืนยันว่าน่าจะขาดออกซิเจนจนช็อคหมดสติ ล่าสุดแม่ทัพภาคที่ 4 สั่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว
เหตุการณ์หามผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงส่งห้องไอซียู ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น.วันอาทิตย์ที่ 21 ก.ค.62 มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ทหารได้นำตัว นายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219/2 หมู่ 3 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ส่งโรงพยาบาลปัตตานี เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ด้วยอาการหมดสติ ทำให้แพทย์นำตัวเข้าห้องผู้ป่วยวิกฤติ หรือไอซียู โดยใส่เครื่องช่วยหายใจ เพราะไม่รู้สึกตัว
ปากคำของญาติ...
ญาติของนายอับดุลเลาะให้ข้อมูลว่า นายอับดุลเลาะถูกเจ้าหน้าที่ไม่ทราบฝ่ายเข้าควบคุมตัวเมื่อวันเสาร์ที่ 20 ก.ค. เวลาประมาณ 16.00 น. จากนั้นส่งตัวเข้าค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปัตตานีช่วงเช้ามืดวันถัดมา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้งให้ญาติทราบ แต่ภรรยาของนายอับดุลเลาะได้เดินทางไปเยี่ยมสามีที่ค่ายอิงคยุทธบริหารในช่วงสายของวันอาทิตย์ จึงได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าได้นำตัวนายอับดุลเลาะส่งโรงพยาบาลปัตตานี ญาติจึงตามไปที่โรงพยาบาล และพบว่าถูกนำตัวเข้ารักษาในห้องไอซียู โดยญาติมีความเป็นห่วงอย่างมาก เนื่องจากก่อนถูกควบคุมตัว นายอับดุลเลาะเป็นคนแข็งแรง และไม่มีโรคประจำตัว โดยนายอับดุลเลาะทำงานเป็นช่างซ่อมสิ่งของต่างๆ ในครัวเรือน
ญาติของนายอับดุลเลาะ เล่าว่า นายอับดุลเลาะถูกควบคุมตัวที่บ้านใน อ.สายบุรี ระหว่างเตรียมเข้าพิธีละหมาดตอนเย็น โดยมีเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมและควบคุมตัวไป ระหว่างนั้นมีภรรยาอยู่ที่บ้านด้วย ซึ่งนายอับดุลเลาะไม่ได้แสดงอาการขัดขืน จากน้้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เพื่อซักประวัติเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งค่ายอิงคยุทธบริหารเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. จนกระทั่งช่วงเช้าของอีกวันหนึ่ง ญาติจึงทราบว่านายอับดุลเลาะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และได้รับคำอธิบายจากพยาบาลที่ดูแลคนไข้ว่า นายอับดุลเลาะมีอาการสมองบวมอย่างรุนแรง คาดว่าขาดอากาศหายใจเป็นเวลานาน
สำหรับบรรยากาศที่โรงพยาบาลปัตตานี มีญาติมาเยี่ยมและเฝ้าอาการของนายอับดุลเลาะที่หน้าห้องไอซียู โดยมีทหารพรานหญิงจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 เฝ้าอยู่ด้วย 3 คน เพื่ออำนวยความสะดวกและประสานงานต่างๆ ขณะที่กระแสในสื่อสังคมออนไลน์ของคนสามจังหวัดวิจารณ์เรื่องนี้อย่างหนัก หลายคนตั้งข้อสังเกตว่ามีการซ้อมทรมานหรือไม่ พร้อมเรียกร้องให้สอบสวนเป็นการด่วน
แม่เป็นใบ้ ร่ำไห้ตลอดเวลา...
ญาติที่ไปรอฟังอาการของนายอับดุลเลาะ หนึ่งในนั้นคือ นางกรือซง ยามา หรือ "เมาะซู" อายุ 60 ปี มารดาของนายอับดุลเลาะ นางกรือซงพิการ เป็นใบ้มาแต่กำเนิด สามีเสียชีวิตไปนานแล้ว ที่ผ่านมาก็มีนายอับดุลเลาะคอยส่งเสียดูแล
ญาติของนายอับดุลเลาะ สื่อสารแทนนางกรือซงว่า นางกรือซงมีลูกเพียง 2 คน ชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง ลูกสาวได้แต่งงานมีสามีก็อยู่กินกับสามีใน จ.ยะลา นานๆ จึงจะกลับมาเยี่ยมบ้านสักครั้ง ส่วนนายอับดุลเลาะ ลูกชาย มีครอบครัวเหมือนกัน แต่ได้พาภรรยามาอยู่ที่บ้านพร้อมกับแม่ของภรรยา ทำให้สามารถดูแลนางกรือซงได้ด้วย โดยนายอับดุลเลาะกับภรรยามีลูกด้วยกัน 2 คน
ญาติของนายอับดุลเลาะ เล่าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นางกรือซงเครียดและเสียใจมาก ถึงกับไม่ยอมรับประทานอาหาร เอาแต่ร้องไห้ตลอดเวลาเพราะเป็นห่วงลูกชาย
แม่ทัพสั่งสอบข้อเท็จจริง...
ด้าน "บิ๊กเดฟ" พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางเข้าเยี่ยมนายอับดุลเลาะที่โรงพยาบาลปัตตานี จากนั้นให้สัมภาษณ์ว่า ได้พูดคุยกับญาติว่าตนมาเพื่อให้กำลังใจ ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าได้เกิดอะไรขึ้น รู้เพียงว่าผู้ต้องสงสัยหมดสติ ถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาล ส่วนสาเหตุนั้น ตนจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น พร้อมจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
"ถ้าทหารผิดก็จะเอาเรื่องถึงที่สุด" พล.ท.พรศักดิ์ กล่าว และบอกกับญาติของนายอับดุลเลาะว่า หากต้องการคนกลางที่ไม่ใช่ทหารมาเป็นคณะกรรมการสอบสวน ตนก็ยินดี ซึ่งทางญาติได้แจ้งชื่อ นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
แพทย์แจงสมองบวม...
แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สอบถามอาการของนายอับดุลเลาะจากแพทย์เจ้าของไข้ ได้รับคำชี้แจงว่า ตอนนี้คนไข้กลายเป็นเจ้าชายนิทรา สมองบวม มีภาวะเลือดคั่งในสมอง
จากนั้นแม่ทัพซักว่า สาเหตุของการเลือดคั่งในสมองเกิดได้จากอะไรบ้าง นอกเหนือจากการซ้อมทรมาน แพทย์เจ้าของไข้ อธิบายว่า อาจเป็นไปได้ว่าเกิดภาวะเลือดคั่งในสมองมาก่อนแล้ว และอาจเกิดจากการปั๊มหัวใจนานๆ ในที่เกิดเหตุ พร้อมแนะนำว่า น่าจะย้ายคนไข้ไปที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพราะเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมกว่า แต่ต้องรออีกระยะหนึ่ง เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยระหว่างการเคลื่อนย้าย ซึ่งแม่ทัพก็บอกว่า ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ให้ย้ายผู้ป่วยได้ทันที
ก่อนเดินทางกลับ พล.ท.พรศักดิ์ ได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งให้กับครอบครัว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ พร้อมเข้าพูดคุยและปลอบนางกรือซง แม่ของนายอับดุลเลาะด้วย
ทหารยันไม่พบร่องรอยการทำร้าย...
ด้านกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หรือ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ได้ทำข้อมูลชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นข้อมูลภายใน สรุปได้ดังนี้
- นายอับดุลเลาะ เป็นผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคง ถูกควบคุมตัวเพราะมีผู้ต้องหาคดีความมั่นคงอีกคนหนึ่งที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ ให้การรับสารภาพและซัดทอด
- การควบคุมตัว ดำเนินการโดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 เป็นไปตามขั้นตอนปกติ คือประสานกับผู้นำท้องที่ ผู้นำศาสนา และเครือญาติ ก่อนเข้าตรวจค้นในบ้าน และนำตัวไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดยมีภรรยา ผู้นำท้องที่ และผู้นำศาสนาเป็นสักขีพยาน ก่อนนำส่งหน่วยซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ไปถึงที่ค่ายเวลาประมาณ 19.30 น.
- ผลจากการตรวจร่างกายเบื้องต้นโดยแพทย์โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร พบว่านายอับดุลเลาะร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง โดยหน่วยได้ซักถามเบื้องต้น พบว่ามีอาการเครียด จึงให้เข้าพักในห้องควบคุมตัว เวลาประมาณ 22.00 น.
- ต่อมาเวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบว่านายอับดุลเลาะนอนหมดสติในห้องน้ำ ภายในห้องควบคุมตัว จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหารเพื่อให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลปัตตานีตามลำดับ
- จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กอ.รมน.ภาค 4 สน.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้น ตั้งแต่ขั้นการจับกุม ขั้นการควบคุมตัว และซักถาม ยังไม่พบหลักฐานใดที่บ่งชี้ว่าเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ ซึ่งสอดคล้องกับผลการตรวจร่างกายของแพทย์ที่ไม่พบร่องรอยบาดเจ็บภายนอกร่างกายแต่อย่างใด จากการตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์เพิ่มเติมที่โรงพยาบาลปัตตานี พบว่าสมองมีอาการบวม ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเกิดจากการขาดออกซิเจนจนช็อคหมดสติ หรือเกิดจากการปั๊มหัวใจ สำหรับสาเหตุที่แท้จริงต้องรอหลักฐานยืนยันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่อไป
วันเดียวกัน แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เชิญหน่วยที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน เพื่อหาข้อสรุปและหาแนวทางในการดำเนินการที่เหมาะสม โดยยืนยันว่าหากตรวจพบว่าเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ก็จะไม่ปกป้อง และจะลงทัณฑ์สถานหนักทั้งวินัยและอาญาทหาร พร้อมกับได้สั่งกำชับ "หน่วยซักถาม" ให้ปฏิบัติตามระเบียบและแนวทางที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีกต่อไป
วันนอร์ - ส.ส.ประชาชาติเคลื่อน...
ด้าน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เขียนข้อความในเฟซบุ๊ค ระบุว่า รู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งต่อกรณีที่เกิดกับนายอับดุลเลาะ การควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ ณ ค่ายอิงคยุทธบริหารนั้น ย่อมหมายถึงอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ หากชาวบ้านรายนี้มีอันตรายใดๆ ย่อมมิอาจรอดพ้นจากคำครหาของประชาชนอย่างแน่นอน และจะกลายเป็นอุปสรรคในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกทั้งอาจจะเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ภาครัฐทำงานได้ลำบาก ขาดความไว้เนื้อเชื่อใจจากประชาชน และทำให้ความร่วมมือระหว่างกันถอยห่างกันมากขึ้น
เหตุนี้จึงขอเรียกร้องไปยังกองทัพบก โดยเฉพาะแม่ทัพภาคที่ 4 เร่งดำเนินการสอบสวน แสวงหาข้อเท็จจริงร่วมกับภาคประชาชน เพื่อให้เป็นที่โปร่งใส ชัดเจน และเปิดเผยให้ประชาชนทราบโดยเร็วที่สุด หากพบว่าเป็นข้อผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะในระดับใด ก็ขอจงอย่าได้ละเว้น ต้องดำเนินคดีตามกฏหมายอย่างที่สุด พร้อมทั้งช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียหายให้เหมาะสมด้วย
มีรายงานว่า ในช่วงสายของวันจันทร์ที่ 22 ก.ค. ส.ส.พรรคประชาชาติจะไปเยี่ยมนายอับดุลเลาะและญาติที่โรงพยาบาล พร้อมเปิดแถลงข่าว ขณะที่ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. ก็จะไปแถลงข่าวที่โรงพยาบาลในเวลาไล่เลี่ยกัน
------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 บรรยากาศหน้าโรงพยาบาลปัตตานี
2 สภาพของนายอับดุลเลาะ ในห้องไอซียู
3 แม่ทัพภาคที่ 4 รุดเยี่ยม
4 ห้องไอซียู โรงพยาบาลปัตตานี
5 แม่ทัพประชุมร่วมกับคณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนจังหวัดชายแดนภาคใต้
6 โพสต์เฟซบุ๊คของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา