“…คณะกรรมการไต่สวนพิจารณาจากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ได้จากการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าการกระทำของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวีไลย์ กระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง…”
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ลงมติเป็นเสียงเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ชี้มูลความผิดนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีโพสต์เฟซบุ๊กในทำนองกล่าวหาใส่ร้ายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในขณะนั้น ไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านทองหล่อ เป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลัสเตอร์ทองหล่อ เมื่อปี 2564
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการยืนยันข้อมูลสำนวนการไต่สวนคดีนี้ ก่อนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 เสียง ชี้มูลความผิด นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวดังกล่าว
มีรายละเอียดสำคัญดังต่อไปนี้
@ ต้องยึดถือปฏิบัติตนตามมาตรฐานทางจริยธรรม
จุดเริ่มต้นคดีนี้ เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 17 เมษายน 2564 ถึงวันที่ 3 กันยายน 2564 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแแบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2563 โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีหน้าที่และอำนาจในการเสนอและพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธธรรมนูญ ร่างพระราชบัญญัติต่าง ๆ การควบคุมบริหารราชการแผ่นดิน โดยการตั้งกระทู้ถามการเปิดอภิปรายทั่วไป การตั้งกรรมาธิการ การเข้าชื่อถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ การให้ความเห็นชอบแต่งตั้งบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี และการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมาย หรือความครอบงำใดๆ และต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความชื่อสัตสัตย์สุจริตเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะต้องรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ทุกประการ ในการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานท์ต้องยึดถือปฏิบัติตนตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระพ.ศ. 2561 รวมทั้งต้องประพฤติปฏิบัติตนตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. 2563
@ โพสต์เฟซบุ๊ก ‘ศักดิ์สยาม’ ต้นเหตุโควิดระบาด ‘คลัสเตอร์ทองหล่อ’
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2564 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เผยแพร่ข้อความด้วยการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อบัญชี “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” ซึ่งมีผู้ติดตามจำนวนกว่า 130,000 คน โดยกล่าวข้อความเกี่ยวกับคลัสเตอร์ทองหล่อที่คริสตัลคลับและเอเมอรัลคลับว่า คนที่แพร่เชื้อเป็นคณะรัฐมนตรี โดย ส.ส.แบงค์ (XXX) เคยไปเที่ยวกับนายศักดิ์สยามเมื่อกลางเดือนมีนาคม แสดงว่าไปเที่ยวช่วงปลายเดือนมีนาคม ไทม์ไลน์ที่แท้จริงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสามารถเช็คได้จากสมาร์ทโฟน โดยมีรัฐมนตรีถึง 3 คนที่ไปคลัสเตอร์ทองหล่อ และมี ส.ส. อีกหลายคนไป ความผิดครั้งนี้ ในเวลา 17 วัน มีผู้ติดเชื้อโควิดถึง 11,722 คน
เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2564 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มอบอำนาจให้ทนายความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ ให้ดำเนินคดีอาญากับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ในความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 กรณีไลฟ์สด เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2564 ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ บิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อให้บุคคลอื่นเข้าใจว่านายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ไปเที่ยวสถานบันเทิงที่ทองหล่อแล้วติดโควิด-19 และมีผู้ติดเชื้อจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ถึง 11,722 คน ทำให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นและถูกเกลียดชัง โดยพนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์ไว้ตามคดีอาญาที่ 620/2564
เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2564 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ได้เผยแพร่ข้อความและรูปภาพด้วยการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” ให้ปรากฏรูปภาพที่มีการทำให้ภาพเห็นไม่ชัดเจน จำนวน 3 ภาพ โดยภาพที่ 1 เป็นภาพผู้ชายกำลังขี่เจ็ทสกี มีผู้หญิงซ้อนท้าย และภาพผู้ชายยืนอยู่ตรงกลางระหว่างผู้หญิงสองคน ภาพที่ 2 เป็นภาพผู้ชายใส่แมสนั่งรับประทานอาหารกับผู้หญิงหลายคน และภาพที่ 3 เป็นภาพด้านหลังของผู้ชายกำลังร้องเพลงกับผู้หญิงหลายคน พร้อมข้อความว่า
“ภาพ 1 ใครเอ๋ยเร่งประชุมให้เสร็จ ไปพักผ่อนชายทะเล ขี่เจ็ทสกีเก่งมาก ๆ หรือพี่ขุนแผนกับนางวันทองพร้อมแม่ลาวทอง เท่มาก ๆ สงสัยคืนนี้XXXเหนื่อยแย่เลยอิจฉาจัง พี่ไม่ชวนผมเลย ภาพ 2 ณ ห้อง VVIP แห่งหนึ่งทานอาหารญี่ปุ่น 1 ชาย หนุ่มแดนปลาดิบใส่แมสควง 5 สาว ไม่ใส่แมส ตั้ง 5 คน จะไหวเหรอพี่ ภาพ 3 ณ ห้อง VVIP คาราโอเกะ 1 หนุ่มโสดร้องเพลงกับ 5 สาว พริตตี้ XXX หลังสวดมนต์ค่ำและกายภาพเสร็จ เห็นด้านหลังนึกว่าเพื่อนเที่ยวผมช่วงวัยหนุ่ม ช่วงนี้ผมเปิด line พิเศษส่งข้อมูลลับมาทั้งภาพเสียงบรรยากาศแต่ประชาชนผู้ให้ข้อมูลมาเขามีข้อแลกเปลี่ยนกับผมมาว่าถ้าเขาให้ข้อมูลมาพี่เต้ต้องเอาที่ดินเขากระโดงทั้งแปลงคืนกับแผ่นดินไทยนะ โดยให้การรถไฟฯ ดูแลพร้อมให้กลับคืนสู่สภาพเดิม ผมตอบทันทีว่าตกลง ทำเต็มที่ ปล.ตอนนี้มีภาพสวย ๆ หลายแพ็ค แยกสถานที่ คลิปหลายตอน กำลังทยอยส่งมาเรื่อย ๆ ครับ” โดยมีประชาชนแสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าว เช่น
“สส. ไม่ใช่พระ ที่ต้องถือศีลไม่ดื่ม ไม่ XXX ไม่เที่ยว บลา ๆ และเช่นกัน สส./สว./รมต./รมช. ไม่ใช่ควายเผือกที่ในยามวิกฤตแบบนี้ต้องไป เที่ยว ดื่ม แดก ไปทั่ว XXXไม่ดูเวลาล่ำเวลา”
“ส.ส.ก็น่าจะมายอมรับนะครับว่าตัวเองเข้าไปในสถานที่เสี่ยงมา ไม่ใช่บอกว่าไม่ได้ไป แต่ติดเชื้อจากคนอื่นที่ไป โกหกในความผิดของตัวเอง แค่สำนึกพื้นฐานยังทำไมได้ จะมารับหน้าที่ ส.ส. ได้ไง”
“ซื้อบริการที่ไม่ถูกกฎหมาย มั่วสุมโดยไม่ป้องกันโรคระบาด มันผิดทั้งกฎหมาย ทั้งคุณธรรมจริยธรรม เลยนะครับ นี้ที่ชาวบ้านอย่างผมนึกออกนะเนี้ย”
“รมต.ติดXXX โควิด ลามทั้งประเทศ แล้วไอXXX"
“การค้ามนุษย์ ค้าประเวณี มันผิดกฎหมาย ยิ่งช่วงโควิดด้วย อาจจะผิดอีกหลายข้อ อันนี้ยังไม่รวมในแง่ศีลธรรมนะ”
วันที่ 25 เมษายน 2564 เว็บไซด์ข่าวชาวบ้านได้นำเสนอข่าว “มีคนงานเข้าแน่ ๆ เต้ มงคลกิตต์ เปิดภาพแฉ ชายคนนึงกับสาว ๆ ในห้อง VVIP” ทาง https://XXX โดยนำข้อความจากเฟซบุ๊กของท่านที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2564 มาบรรยายประกอบรูปภาพจำนวน 3 ภาพ ดังกล่าวซึ่งปรากฏใบหน้าของบุคคลในภาพที่ชัดเจน โดยเป็นภาพนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และเฟซบุ๊กชื่อบัญชี “CSI LA” ได้โพสต์เผยแพร่รูปภาพเดียวกันกับเว็บไซต์ข่าวชาวบ้าน ประกอบข้อความว่า “ชีวิตดี้ดีของ รมต.ขุนแผน เครดิต เต้ 007"
วันที่ 26 เมษายน 2564 รายการข่าวอรุณอัมรินทร์ได้นำเสนอข่าวทางสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี ช่อง 34 และทางช่องยูทูป (Youtube) ของอมรินทร์ทีวี โดยนำข้อมูลจากเฟชบุ๊กของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ท่าน ประกอบการนำเสนอข่าว “เต้มงคลกิตติ์ โพสต์ภาพ VVIP คล้ายรัฐมนตรีปาตี้” ว่าเป็นภาพนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ คลอเคลียกับหญิงสาว ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐมนตรีคนนี้ฟาดกับพี่เต้มาแล้วเรื่องที่พี่เต้แฉ ท่านรัฐมนตรีส่งทนายไปฟ้อง รอบนี้พี่เต้เลยได้ของดีมาแล้วให้ทายกันว่าใครเอ่ย โดยภาพพี่ขุนแผนกับแม่วันทองพร้อมแม่ลาวทอง อธิบายภาพยนตร์ละครให้เลย ควง 2 คืนนี้XXXเหนื่อยแย่เลย ไม่ต้องคิดตาม ภาพ 5 สาวคลอเคลียร้องคาราโอเกะ ทีมงานไหนจะกล้ามายืนข้างรัฐมนตรี พี่เต้ถามว่าที่ไหน เมื่อไหร่ ใช่ช่วงเวลาที่ติดหรือไม่ และภาพกินซูชิปลาดิบ พี่ไม่ต้องน้องป้อนเอง สมศักดิ์ศรี พี่เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์
@ ‘น้อง ฟ.’ โต้ เหตุการณ์เกิดปี 63 ไม่ใช่ปี 64
โดยในวันดังกล่าว นางสาว XXX ชื่อเล่นว่า “XXX” ผู้หญิงที่ปรากฏในรูปภาพที่ 1 ได้ใช้เฟซบุ๊กของตน ชื่อบัญชี “XXX” โพสต์ข้อความประกอบรูปภาพชี้แจงว่า
“ตามที่มีรูปพวกหนูไปออกตามสื่อโชเชียลของ สส.เต้ และเพจต่าง ๆ อีกหลายเพจในเฟซบุ๊กซึ่งสร้างความเดือดร้อนเสื่อมเสียต่อตัวหนูและครอบครัว มากไปกว่านั้นคือทำให้ท่านต้องเสื่อมเสียด้วย ความจริงคือพวกหนูไปทะเลกับเพื่อน ๆ ซึ่งมาทราบภายหลังว่าเพื่อนของหนูเป็นรุ่นน้องของท่าน หนูเห็นท่าน ขี่เจ็ตสกีดูน่าสนุก ก็เลยอยากลองเล่นด้วย ซึ่งตอนนั้นก็กล้า ๆ กลัว ๆ อยู่ เลยขอลองซ้อนดูก่อนแล้วก็ลองเล่นเอง หลังจากนั้น ก่อนกลับเพื่อนจึงบอกว่าท่านเป็นใคร พวกหนูตื่นเต้นกันมาก คือ แบบเฮ้ย นี่เราเพิ่งซ้อนท้ายท่านไปจริง ๆ หรอพวกหนูเลยรีบเข้าไปขอถ่ายรูปกับท่าน ซึ่งท่านก็ให้ความเป็นกันเอง อนุญาตให้ถ่ายรูปได้ ซึ่ง หนูก็มีหลักฐานของการโพสต์ Facebook ส่วนตัว ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2563 คือ ปีที่แล้วนะคะไม่ใช่ปีนี้ ตามที่มีคนสร้างข่าวเท็จขึ้นมา ขอร้อง สส.เต้ และผู้คนที่แชร์โพสต์ข้อความที่ไม่จริงนี้ อย่าเอาพวกหนูไปเกี่ยวหรืออย่าเอาท่านมาเกี่ยวข้องด้วยเพื่อสร้างกระแส เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2563 ย้ำว่าปีที่แล้ว หนูต้องกราบขอโทษท่านที่ทำให้ต้องเสื่อมเสียเพียงเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ที่โพสต์ภาพ ความประทับใจเหล่านี้ไป และไม่คิดว่าจะมีคนที่ไม่หวังดีสร้างเรื่องขึ้นมาจนเป็นข่าวได้ขนาดนี้”
วันที่ 27 เมษายน 2564 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ได้เผยแพร่รูปภาพคำชี้แจงของนางสาว XXX ด้วยการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานท์” พร้อมด้วยข้อความว่า
“ขอชี้แจง กรณีน้อง ฟ.สุดสวย พาดพิง ส.ส.พี่เต้ 007 เดิมที่ในเฟสพี่ ไม่เคยเอ่ยชื่อใครให้เสียหายและไม่เคยเอ่ยชื่อน้อง ฟ. เลย ส่วนรูปต่าง ๆ ที่กระจายในโซเชียล ก็ไม่เกี่ยวกับพี่ แต่ที่แน่ ๆ ต้นขั้วภาพถ่ายก็ต้องมาจากน้องทั้ง 2 คน กับท่าน หรือคนถ่ายใช่หรือไม่ จริงไหม คนกระจายก็ต้องมาจาก 4 ท่าน ที่พี่บอกไป พี่ไม่จำเป็น ต้องขอโทษน้องเพราะพี่ไม่เคยเอ่ยชื่อ สกุล น้อง ภาพถ่ายก็ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นน้อง ฟ. เลย ภาพต่าง ๆ ที่ลงในเพจต่าง ๆ ไม่มีใครสนใจน้องเลย แต่เขาสนใจแต่ท่าน แต่เมื่อน้อง ฟ. มาพาพาดพิงพี่ ๆ ก็จะขอถามคำถามต่อไปนี้จาก ส.ส.พี่เต้ 007 ฐานะ ส.ส.ฝ่ายค้าน ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายรัฐบาลพร้อมกับบุคคลที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 126 ว่าด้วยการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ของผู้ซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสอันถือว่าเป็นคู่สมรส พ.ศ. 2561 ระบุว่า
พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ระบุถึง หมวด 5 การดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน มาตรา 102 วรรคสอง และ มาตรา 6 การขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม มาตรา 126 วรรคสาม กำหนดให้คู่สมรส หมายรวมถึง ผู้ซึ่งอยู่กินกันฉันฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสด้วย โดยบุคคลซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยามาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสกับเจ้าพนักงานของรัฐและมีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ ให้ถือเป็นคู่สมรสตามกฎหมายดังกล่าว คือได้ทำพิธีมงคลสมรสหรือบุคคลภายนอกรับทราบว่าเป็นการอยู่กินเป็นสามีภริยาตามประเพณี เจ้าพนักงานของรัฐแสดงให้ปรากฏว่ามีสถานะเป็นสามีภริยากัน หรือมีพฤติการณ์เป็นที่รับรู้ของสังคมทั่วไปว่ามีสถานะดังกล่าว คำถาม
1. น้อง ฟ. เพิ่งรู้จักท่านครั้งแรกทำไมดูสนิทสนมกันเกินคนรู้จักปกติธรรมดา มือซ้ายของน้องโอบเอวของท่านต่ำกว่าเอว และท่านใช้มือขวาโอบไหล่ด้านล่างของน้อง ฟ. ได้อย่างสนิทสนม แล้วแก้มด้านซ้ายบนของน้อง ฟ. สัมผัสกับหัวไหล่ของท่านชิดติด แตกต่างจากเพื่อนของน้อง ฟ. ที่ยืนแทบไม่สัมผัสกัน
2. น้อง ฟ. บอกเพื่อนของน้อง ฟ. เป็นรุ่นน้องท่าน น้อง ฟ. อายุ 24 ปี เพื่อนน้อง ฟ. ก็น่าจะ 22-24 ปี จะเป็นรุ่นน้องท่านได้อย่างไร รุ่นพ่อหนูน่าจะอายุไม่ถึง 50 ปี แต่ท่านอายุรุ่นลุงคนโตเลยนะ ท่านอายุ 58 ปี ย่าง 59 ปี
3. น้อง ฟ. เรียนจบสาขาใดมา ทำงานอะไร จึงมีฐานะดี มีเงินใช้จ่าย กินหรู เข้าคลินิกเสริมความงาม มีเฟอร์นิเจอร์ดี ๆ ใช้ มีรถเบนซ์ สีบรอนเข้ม สปอร์ต เปิดประทุน ทะเบียน XXX หลายคนอิจฉาน้อง ฟ. เพราะอายุแค่ 24 ปี เอง ประสบความสำเร็จเร็ว
4. น้อง ฟ. ว่าน้องเป็นนางแบบหรือนักแสดง ช่องไหน หรือรับงานถ่ายแบบโฆษณา หรือรับงานรีวิวสินค้าอะไร ทำไมพี่ไม่เคยผ่านตาบ้างเลย
ปล. ถ้าพี่ถามมากไป ขออภัยด้วย ณ ที่นี้ แต่จำเป็นต้องถาม เพราะน้อง ฟ. มาเข้าใกล้เจ้าหน้าที่ของรัฐ” ซึ่งมีประชาชนได้นำรูปภาพใบหน้าของนางสาว XXX มาเปิดเผยและแสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าว เช่น
“น้อง ฟ. เสียภาษีรายได้บุคคลถูกต้องด้วยไหม หลีกเลี่ยงการเสียภาษีหรือไม่”
“ไม่เคยเห็นว่า ขายXXXแล้ว เสียภาษีสักคนนะ เพราะตรวจสอบไม่ได้ ตรวจละไม่เจอ”
“น้อง ฟ. ดิ้นใหญ่เลย คิดว่ารวยทำไรก็ได้หรอ คนจนหาเช้ากินค่ำจะตายหมดแล้วกับการกระทำแพร่เชื้อทุกวันนี้ เวรกรรมมันติดจรวดนะ พี่เต้ 007 จัดให้งาม ๆ”
“สงสัยน้องขายของเก่าตั้งแต่เกิดให้ท่าน ถึงได้จ่ายไม่อั้นทั้งเต็งทั้งโต๊ด งัดทั้งงัด ๆ ๆ ๆ งานนี้คุณ 007 คุณสุดยอด”
@ ‘ศักดิ์สยาม’ แจ้งความ ‘เต้’ หมิ่มประมาท-ผิด พ.ร.บ.คอมพ์
วันที่ 4 พฤษภาคม 2564 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้มอบอำนาจให้ทนายความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ ให้ดำเนินคดีอาญากับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ในข้อหาความผิดฐานหมิ่นประมาท และความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 กรณีเผยแพร่รูปภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2564 ซึ่งเป็นข้อความอันเป็นเท็จ โดยในภาพที่ 1 เป็นการใส่ร้ายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และบุคคลในภาพ คือ นางสาว XXX และนางสาว XXX โดยเปรียบเทียบว่าเป็นขุนแผน แม่วันทอง แม่ลาวทอง ซึ่งเป็นวรรณกรรม ของไทยเรื่องขุนช้างขุนแผน โดยขุนแผนใช้เปรียบเทียบผู้ชายเจ้าชู้ มีภรรยาหลายคน แม่วันทองเป็นภรรยาขุนช้าง แต่เป็นชู้กับขุนแผน ใช้เปรียบเทียบผู้หญิงที่มีสามีหลายคน เป็นผู้หญิงหลายใจ ส่วนแม่สาวทองเป็นหนึ่งในภรรยาของขุนแผน โดยได้กล่าวหาว่า “XXX” เป็นการสื่อความหมายในลักษณะการร่วมเพศระหว่างชายหนึ่งหญิงสองในลักษณะผิดปกติทั่วไป
สำหรับภาพที่ 2 และภาพที่ 3 เป็นการใส่ร้ายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และบุคคลในภาพ คือ นางสาว XXX นางสา XXX นางสาว XXX และนางสาว XXX โดยมีเจตนาให้บุคคลอื่นเชื่อว่านายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ไปรับประทานอาหารญี่ปุ่นและร้องเพลงคาราโอเกะกับพริตตี้ XXX ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดคลัสเตอร์ทองหล่อในช่วงเดือนมีนาคม 2564 ตามที่ท่านได้ไลฟ์สดเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2564 ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ
ความจริงแล้วเป็นเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563 ซึ่งนางสาว XXX ได้เชิญนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ไปเลี้ยงรับประทานอาหารที่ร้านอาหารญี่ปุ่น “มิยาบิ” ตั้งอยู่ที่ซอยทองหล่อ 25 เพื่อแจ้งกำหนดการพิธีสมรสของตนให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ที่จะมาเป็นประธานพิธีสมรสทราบ หลังจากรับประทานอาหารแล้ว นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้ไปร่วมร้องเพลงคาราโอเกะกับนางสาว XXX และกลุ่มเพื่อนที่ร้านเอ็มเมอรัลตั้งอยู่ที่ซอยทองหล่อ 13 โดยผู้หญิงที่ปรากฏในภาพที่ 2 และภาพที่ 3 ไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นพริตตี้ Eก-upในการให้บริการให้ความบันเทิงกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ โดยคำว่า พริตตี้ XXX เป็นคำที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าหมายถึงผู้หญิงรับงานดูแลลูกค้าและอัพยา (เสพยาเสพติด) ในปาร์ตี้ยาเสพติด และอาจมีการค้าประเวณีด้วย การกระทำของท่านทำให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และบุคคคลในภาพได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดขัง
ต่อมานางสาว XXX ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของตน ชื่อบัญชี “XXX” เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 ว่าภาพที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ทำให้มีการเผยแพร่ทางสื่อโซเชียล เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2564 ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเสียหายเสื่อมเสียเกียรติและชื่อเสียง ความจริงแล้วเป็นเหตุการณ์ขณะไปเที่ยวทะเลกับเพื่อน ในวันที่ 8 สิงหาคม 2563 ซึ่งไม่เคยรู้จักกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ มาก่อน และไม่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดโควิดช่วงเดือนมีนาคม 2564 โดยขอร้องให้นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อย่านำข้อความที่ไม่เป็นความจริงไปสร้างกระแส แต่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ได้โพสต์ข้อความตอบโต้ผ่านเฟซบุ๊กของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ชื่อบัญชี “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 ว่า นางสาว XXX หรือน้อง ฟ. มีความสนิทสนมกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เกินคนรู้จักปกติ เพื่อต้องการสื่อให้เห็นว่านางสาว XXX หรือน้อง ฟ. เป็นกรรยานอกสมรสของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และได้รับทรัพย์สินจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ทำให้มีชีวิตหรูหราใช้รถราคาแพงทั้งที่มีอายุน้อย จะต้องมีการตรวจสอบทรัพย์สินและที่มาของทรัพย์สิน ซึ่งมีประชาชนแสดงความคิดเห็นในทางที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง โดยพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้ ตามคดีอาญาที่ 685/2564
@ ‘น้อง ฟ.’ ฟ้องศาลอาญา ‘เต้’
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 นางสาว XXX ได้ยื่นฟ้องนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ต่อศาลอาญา เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.1063/2564 ในข้อหาความผิดฐานหมิ่นประมาทหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีเผยแพร่รูปภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2564 และเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 โดยนางสาว XXX มีอาชีพเป็นนางแบบอิสระ รับจ้างเดินแบบ ถ่ายแบบสินค้า และนักแสดงโทรทัศน์ มีรายได้จากการประกอบอาชีพสุจริต ไม่ได้มีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ หรืออยู่กินกันฉันสามีภรรยา เป็นภรรยานอกกฎหมายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และไม่ได้รับเงินเลี้ยงดูหรือทรัพย์สินใด ๆ จากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ การกระทำดังกล่าวของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ทำให้นางสาว XXX ได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียงและกระทบต่อการประกอบอาชีพ
จากนั้นเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2564 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 3 ครั้งที่ 16 (สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เฉพาะประเด็น “ประพฤติตัวเสเพล ไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมโรค เข้าไปในแหล่งอบายมุขจนเป็นต้นตอของการระบาดของโรคโควิด-19 ไปทั่วประเทศจนถึงปัจจุบัน ขาดจิตสำนักรับผิดชอบ” ซึ่งมีการถ่ายทอดทางวิทยุกระจายเสียงและทางวิทยุโทรทัศน์ของรัฐสภา ว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นสาเหตุหนึ่งของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กระทรวงคมนาคม จากที่ไปเที่ยวผับทองหล่อเมื่อกลางเดือนมีนาคม 2564
โดยนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ได้นำรูปภาพที่ 2 และรูปภาพที่ 3 ดังกล่าวข้างต้น ซึ่งปรากฏภาพของนางสาว XXX นางสาว XXX นางสาว XXX และนางสาว XXX ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมาประกอบการอภิปรายและมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประท้วงต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารารานท์ ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 เป็นการละเมิดสิทธิของบุคคลในภาพที่เป็นสตรี โดยประธานสภาผู้แทนราษฎร (นายชวน หลีกภัย) ไม่อนุญาตให้นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานท์ นำรูปภาพที่มีบุคคลภายนอกมาแสดงในที่ประชุมอีก
ต่อมานายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ได้สรุปการอภิปรายว่านายศักดิ์สยาม ชิดชอบ มีพฤติกรรมเสพสุขนิยม ชอบรับประทานอาหาร ชอบร้องเพลง ชอบว่ายน้ำ และติดโควิดจากพฤติกรรมเสเพล เป็นความประพฤติที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมโรค ชอบเข้าไปมั่วสุมในแหล่งอบายมุขจนเป็นต้นตอของการระบาดโรคโควิด-19 จนทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565 พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่ 620/2564 และคดีอาญาที่ 685/2564 มีความเห็นสั่งฟ้องนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ในข้อหาความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญาและความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือน หรือปลอม หรือเป็นเท็จ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 เนื่องจากข้อความและรูปภาพที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ได้เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” ดังกล่าวข้างต้น ไม่เป็นความจริงและพนักงานอัยการสำนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์มีคำสั่งฟ้องนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ในความผิดดังกล่าว
@ ลงมติเอกฉันท์ ‘เต้’ ผิดจริยธรรมร้ายแรง
ต่อมาคณะอนุไต่สวน สรุปสำนวนเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 10 มี.ค.2568 มีมติเอกฉันท์ 7 เสียง ชี้มูลความผิด นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (สส.) พรรคไทยศรีวิไลย์ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรรมอย่างร้ายแรง กรณีใช้เฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี "มงคลกิดดิ์ สุขสินธารานนท์" โพสต์รูปภาพและข้อความโดยเจตนาใสร้ายผู้กล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวและเป็นหญิงให้ความบันเทิงแก่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อให้บุคคลทั่วไปเชื่อว่านายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านทองหล่อและเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนา 2009 (COVID-19) ซึ่งเป็นข้อความอันเป็นเท็จ ทำให้ผู้กล่าวหาและนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้รับความเสียหาย
*********
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่สิ้นสุด นายมงคลกิตติ์ ยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก
ขณะที่ นายมงคลกิตติ์ ยืนยันกับสำนักข่าวอิศรา ว่า แต่ถ้าหาก ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดคดีนี้จริง หลังจากนี้ก็จะเดินหน้าสู้คดีในชั้นศาลฎีกาต่อไป
บทสรุปสุดท้ายการต่อสู้คดีนี้ ในชั้นศาลจะออกมาเป็นอย่างไร
หากศาลตัดสินว่ามีความผิด บทลงโทษ นายมงคลกิตติ์ จะร้ายแรงถึงขั้นห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต และห้ามไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 10 ปี เหมือนนักการเมืองหลายคนที่โดนคดีผิดจริยธรรมร้ายแรงไปก่อนหน้านี้หรือไม่
ติดตามดูกันต่อไป อีกไม่นานสาธารณชนคงได้รู้คำตอบกัน