"...การจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมติดตั้งอุปกรณ์และระบบเทคโนโลยีครั้งนี้ ต้องการผู้ขายที่มีความพร้อมและมีความเข้าใจในการปฏิบัติภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งการบริหารจัดการและการบริการหลังการขายที่ดี และสามารถยังประโยชน์ระยะยาวได้ ดังนั้น ในการพิจารณาการยื่นข้อเสนอประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะพิจารณาตัดสินโดยใช้หลักเกณฑ์การประเมินค่าประสิทธิภาพต่อราคา (Price Performance) พิจารณาจากราคารวม โดยพิจารณาให้คะนนตามปัจจัยหลัก และนำหนักที่กำหนด ดังนี้ (1) ราคาที่ยื่นข้อเสนอ (Price) กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ 20 (2) คุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการ กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ 80..."
ในตอนที่แล้ว สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอเกี่ยวกับ สเปก (spec) หรือคุณลักษณะเฉพาะของรถไฟฟ้าตรวจการอัจฉริยะ ของโครงการจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ ที่ สำนักงานส่งกำลังบำรุง (สกบ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ลงนามจัดซื้อกับ บริษัท จีเนียส ทราฟฟิค ซีสเต็ม จำกัด (GTS) ในเครือบริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2561 ซึ่งปรากฏในเอกสาร "เงื่อนไขประกอบการจัดซื้อและขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) โครงการรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ (SMART PATROL CAR : SPC) จำนวน 260 คัน" ว่า แบ่งรถยนต์เป็น 2 ประเภท
คือ ประเภทที่ 1 จำนวน 230 คัน ระบุว่า เป็นรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานผสมแบบเสียบปลั๊ก พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ กล้องตรวจการณ์ ชุดปรับตำแหน่งมุมกล้องตรวจการณ์ เครื่องคอมพิวเตอร์แบบเคลื่อนที่ (Notepad/Notebook) เครื่องตรวจหนังสือเดินทางแบบพกพา ปืนไฟฟ้า (คันละ 2 กระบอก) กล้องวิดีโอติดหมวก (Action Camera) อุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญาณเครือข่ายแบบไร้สาย ซอฟต์แวร์สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบเคลื่อนที่สำหรับปฏิบัติงานในพื้นที่ ซอฟต์แวร์สำหรับตรวจสอบและแสดงผลข้อมมูลบุคคล เครื่องรับ-ส่งวิทยุ VHF/FM ชนิดติดรถยนต์แบบ Code Squelch ขนาดกำลังไม่น้อยกว่า 25 วัตต์ และเครื่องขยายเสียงพร้อมสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ไซเรน ขนาดกำลังไม่น้อยกว่า 100 วัตต์ พร้อมสัญญาณไฟแดง ชนิด LED สำหรับติดหลังคารถยนต์
ส่วนประเภทที่ 2 จำนวน 30 คัน เหมือนประเภทที่ 1 แต่เพิ่มการติดตั้ง อุปกรณ์ กล้อง Web Camera (คันละ 1 ชุด) และเครื่องพิมพ์ Printer ชนิด Dot Matrix แบบแคร่สั้น (คันละ 1 เครื่อง)
อีกทั้ง ยังรวมไปถึงซอฟต์แวร์ระบบบริหารจัดการสำหรับศูนย์ข้อมูลกลาง อุปกรณ์ต่าง ๆ และการเช่าสัญญาณเครือข่ายด้วย
ขณะที่ ข่าวเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2561 จากเว็บไซต์ www.nongkhai.immigration.go.th ของ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดหนองคาย ปรากฏรูปภาพรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการอัจฉริยะ พบว่า เป็นรถยนต์ยี่ห้องบีเอ็มดับเบิ้ลยู (BMW) สี่ประตู สีบรอนซ์เทา ด้านข้างมีสติ๊กเกอร์ตราสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และคำว่า "POLICE" "CALL - 1178" ด้านบนรถติดตั้งไฟสัญญาณ และกล้อง ด้านในรถมีการติดตั้งคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ (Notebook) และชุดอุปกรณ์วิทยุ
(อ่านประกอบ : เปิดสเปกรถอัจฉริยะ ตร. 260 คัน 898 ล. ติดตั้งระบบซอฟต์แวร์ครบชุด-ปืนไฟฟ้า 520 กระบอก)
(ภาพจาก จากเว็บไซต์ www.nongkhai.immigration.go.th ของ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดหนองคาย)
ส่วนข้อมูลเชิงลึกโครงการจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะดังกล่าว สำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบว่า สำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ลงนามจัดซื้อกับ บริษัท จีเนียส ทราฟฟิค ซีสเต็ม จำกัด (GTS) ในเครือบริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2561
รายละเอียดโครงการ ประกอบรถยนต์ 2 ส่วน ส่วนแรกจำนวน 230 คัน พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ ราคาคันละ 3,445,039 บาท รวมเป็นเงิน 792,358,970 บาท ส่วนที่สอง จำนวน 30 คัน พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ ราคาคันละ 3,548,391 บาท รวมเป็นเงิน 106,451,730 บาท
นับรวมมูลค่าสัญญาอยู่ที่ 898,810,700 บาท (เฉลี่ยรวมคันละ 3,456,964.23 บาท)
ขณะที่ สำนำข่าวอิศราตรวจสอบข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างโครงการดังกล่าวเพิ่มเติม พบเพียงแค่ข้อมูลรายละเอียดเงื่อนไขประกอบการจัดซื้อและขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) และประกาศราคากลาง บนฐานข้อมูลของเว็บไซต์กรมบัญชีกลางเท่านั้น แต่ยังไม่พบข้อมูลสัญญาการจัดซื้อโครงการนี้ เป็นทางการรวมถึงรายชื่อเอกชนที่เข้ามาร่วมแข่งขันเสนอราคาด้วย
(อ่านประกอบ : คุ้ยจัดซื้อรถไฟฟ้าอัจฉริยะ ตร. 898 ล. เจอแค่TOR-ราคากลาง ไม่โชว์สัญญาผู้ชนะ-คู่เทียบ)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรานำทีโออา (TOR) หรือเงื่อนไขประกอบการจัดซื้อและขอบเขตของงาน ฉบับเต็ม โครงการจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะดังกล่าวมานำเสนอ
นอกจาก สเปกหรือคุณลักษณะของรถยนต์ไฟฟ้าฯ และซอฟต์แวร์สำหรับระบบต่าง ๆ ที่สำนักข่าวอิศราได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้ว เอกสาร "เงื่อนไขประกอบการจัดซื้อและขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) โครงการรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ (SMART PATROL CAR : SPC) จำนวน 260 คัน" ระบุสาระสำคัญต่าง ๆ ไว้ดังนี้
เหตุผลและความจำเป็น
ด้วยปัจจุบันคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ติดต่อธุรกิจ การค้า การลงทุน ในประเทศไทย เป็นจำนวนมากขึ้น นำมาซึ่งรายได้จากการท่องเที่ยวและการลงทุนในภาพรวม แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากคนต่างด้าว คือ ภัยคุกคามด้านอาชญากรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ เช่น การค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทัวร์ศูนย์เหรียญ การพนันออนไลน์ การโจรกรรมรถยนต์ข้ามประเทศ ตลอดจนการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต นับวันจะทวีความรุนแรงและมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้รับอนุมัติให้ใช้เงินค่าธรรมเนียมตรวจคนเข้าเมืองจัดหารถยนต์ไฟฟ้าตามมาตรการหนึ่งในแผนอนุรักษ์พลังงานที่ภาครัฐส่งเสริมให้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยติดตั้งระบบเทคโนโลยีเชื่องโยงฐานข้อมูลสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และระบบรถยนต์ถูกโจรกรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็น เพื่อใช้เป็นยานยนต์ปฏิบัติการเคลื่อนที่ (MOBILE) สำหรับปฏิบัติงานสืบสวนป้องกันปราบปรามและให้บริการเชิงรุก แจกจ่ายให้หน่วยงานที่มีพื้นที่รับผิดชอบที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ชุมชนที่พักอาศัยคนต่างด้าว และพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมทั้งด่านที่มีศักยภาพเป็นประตูการค้าของประเทศ จำนวน 260 คัน งบประมาณ 900 ล้านบาท
วัตถุประสงค์
1. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการควบคุมคนเข้าเมือง (IMMIGRATION CONTROL)
2. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ
3. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการป้องกันคุกคามความมั่นคงของชาติในรูปแบบใหม่
4. เพื่อสกัดกั้นการโจรกรรมรถยนต์ข้ามประเทศ ส่งเสริมการปฏิบัติการและบริการเชิงรุก
5. เพื่อสนับสนุนและรองรับการปฏิบัติตามภารกิจด้านอื่น ๆ ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
การเชื่อมโยงระบบ/ข้อมูล
1. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเป็นผู้ดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งภายในและภายนอก สำหรับการจัดเตรียมการเพื่อเชื่อมต่อโครงข่ายหรือฐานข้อมูลที่เกี่ยวกับโครงการนี้
2. ผู้ขายจะต้องเป็นผู้ปรับปรุงและพัฒนาระบบส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อระบบสารสนเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตามที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกำหนด
การติดตั้งระบบตรวจการณ์และระบบปฏิบัติการเคลื่อนที่ (MOBILE) ประจำรถยนต์ไฟฟ้า
1. ก่อนดำเนินการติดตั้งระบบตรวจการณ์และระบบปฏิบัติการณ์เคลื่อนที่ (MOBILE) ประจำรถยนต์ไฟฟ้า ผู้ขายต้องเสนอรายละเอียดแบบในการติดตั้ง (Shop Drawing) ของอุปกรณ์ ให้หน่วยราชการผู้ซื้อเห็นชอบก่อน
2. ผู้ขายต้องติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ พร้อมเชื่อมต่อสัญญาณการสื่อสารจนสามารถใช้ในการปฏิบัติการได้เป็นอย่างดี สะดวกต่อการปฏิบัติงานและผู้มารับบริการ สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ สามารถนำมาใช้งานร่วมกันได้เป็นอย่างดี มีความมั่นคง แข็งแรง ไม่เกิดการชำรุดเสียหายขณะรถวิ่งและต้องสามารถปลดล็อคเพื่อนำอุปกรณ์ออกจากที่ติดตั้งได้ และต้องออกแบบการติดตั้งให้สามารถนำอุปกรณ์กลับมาติดตั้งเดิมได้โดยง่าย โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และผู้เสนอราคาจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ตลอดจนการเชื่อมโยงระบบและ/หรือข้อมูลให้สามารถใช้งานได้ดี ตลอดระยะเวลาประกัน
หลักเกณฑ์และสิทธิในการพิจารณา
1. การจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมติดตั้งอุปกรณ์และระบบเทคโนโลยีครั้งนี้ ต้องการผู้ขายที่มีความพร้อมและมีความเข้าใจในการปฏิบัติภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งการบริหารจัดการและการบริการหลังการขายที่ดี และสามารถยังประโยชน์ระยะยาวได้ ดังนั้น ในการพิจารณาการยื่นข้อเสนอประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะพิจารณาตัดสินโดยใช้หลักเกณฑ์การประเมินค่าประสิทธิภาพต่อราคา (Price Performance) ลิจารณาจากราคารวม โดยพิจารณาให้คะนนตามปัจจัยหลัก และนำหนักที่กำหนด ดังนี้
(1) ราคาที่ยื่นข้อเสนอ (Price) กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ 20
(2) คุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการ กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ 80
โดยกำหนดน้ำหนักทั้งหมดร้อยละ 100 และหลักเกณฑ์การประเมินค่าประสิทธิภาพต่อราคา เป็นไปตาม ภาคผนวก ก
2. ในการตัดสินการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์หรือในการทำสัญญา คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดอิเล็กทรอนิกส์หรือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีสิทธิให้ผู้เสนอราคาชี้แจงข้อเท็จจริง สภาพ ฐานะ หรือข้อเท็จจริงอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับผู้เสนอราคาได้ และมีสิทธิที่จะไม่รับข้อเสนอ ไม่รับราคา หรือไม่ทสัญญา หากหลักฐานดังกล่าวไม่มีความเหมาะสมหรือไม่ถูกต้อง
3. สำนักงานตำรวจแห่งชาติทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะไม่รับราคาต่ำสุด หรือราคาหนึ่งราคาใด หรือราคาที่เสนอทั้งหมดก็ได้ และอาจพิจารณาเลือกจ้าง ในจำนวน หรือขนาด หรือเฉพาะรายการหนึ่งรายการใด หรืออาจจะยกเลิกการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่พิจารณาจัดจ้างเลยก็ได้ สุดแต่จะพิจารณา ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ และให้ถือว่าการตัดสินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเด็ดขาด ผู้เสนอราคาจะเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ มิได้ รวมทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะพิจารณายกลเกการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์และลงโทษผู้เสนอราคากระทำการโดยไม่สุจริต เช่น การเสนอเอกสารอันเป็นเท็จ หรือใช้ชื่อบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลอื่นมายื่นข้อเสนอแทนเป็นต้น
4. ในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงภายหลังจากการพิจาราข้อเสนอว่า ผู้เสนอราคาที่มีสิทธิได้รับการคัดเลือกเป็นผู้เสนอราคาที่มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้เสนอราคาอื่น หรือผู้เสนอราคาที่กระทำการอันเป็นการขัดขวางารแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีอำนาจที่จะตัดรายชื่อผู้เสนอราคาที่ได้รับคัดเลือกรายดังกล่าวออก และจะพิจารณาลงโทษผู้เสนอราคารายนั้นเป็นผู้ทิ้งงาน
ในกรณีนี้ หากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาเห็นว่าการยกเลิกการพิจารณาผลการเสนอราคาที่ได้ดำเนินการไปแล้วจะเป็นประโยชน์แก่ทางราชการอย่างยิ่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีอำนาจยกเลิกการพิจารณาผลการเสนอราคาดังกล่าวได้
ระยะเวลาการดำเนินโครงการ
ระหว่างเดือน ส.ค. 2560 - ก.ค. 2561
ระยะเวลาการส่งมอบพัสดุ
ระยะเวลากำหนดทำงานและส่งมอบพัสดุแล้วเสร็จภายใน 270 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา
การส่งมอบพัสดุและการเบิกจ่ายเงิน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชำระเงินให้แก่ผู้ขาย โดยจะจ่ายให้ผู้ขายตามกำหนดระยะเวลาและการส่งมอบพัสดุที่ผู้ขายได้ลงนามไว้ในสัญญากับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ การส่งมอบพัสดุต้องผ่านการตรวจรับจากคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ โดยกำหนดส่งมอบพัสดุและการจ่ายเงิน จำนวน 2 งวด ดังนี้
งวดที่ 1 ภายใน 120 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา
- ผู้ขายจะต้องติดตั้งอุปกรณ์สำหรับศูนย์สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รวมทั้งติดตั้งซอฟต์แวร์และระบบเครือข่ายวงจรสื่อสาร และเชื่อมต่อสัญญาณการสื่อสารจนสามารถทำงานร่วมกับระบบต่าง ๆ และสามารถใช้ในการปฏิบัติงานได้เป็นอย่างดี
- ผู้ขายต้องมอบนถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ (SMART PATROL CAR : SPC) ประเภทที่ 1 พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ตามรายละเอียดที่กำหนด จำนวน 70 คัน ให้กับทางราชการครบถ้วนตามสถานที่ที่ทางราชการกำหนด และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้รับมอบพัสดุไว้ในราชการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทางราชการจะเบิกจ่ายเงินให้แก่ผู้ขายอัตราร้อยละ 25 ของราคาตามสัญญา
งวดที่ 2 ภายใน 270 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา ผู้ขายต้องส่งมอบ
- รถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ ประเภทที่ 1 พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ตามรายละเอียดที่กำหนด จำนวน 160 คัน
- รถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ ประเภทที่ 2 พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ตามรายละเอียดที่กำหนด จำนวน 30 คัน
ให้กับทางราชการครบถ้วนตามสถานที่ที่ราชการกำหนด และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้รับมอบพัสดุไว้ในราชการเป็นที่เรียบร้อย โดยทางราชการจะเบิกจ่ายให้แก่ผู้ขายจำนวน อัตราร้อยละ 75 ของราคาตามสัญญา (ดูเอกสารประกอบ)
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ นั้น พล.ต.ท. ติณภัทร ภุมรินทร์ ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า การดำเนินงานโครงการไม่มีปัญหาเช่นเดียวกับโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์ไบโอเมตริกซ์
"ขณะที่ในขั้นตอนการตรวจรับส่งมอบงานก็ผ่านการรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แล้วด้วย" พล.ต.ท. ติณภัทร ระบุ
อ่านประกอบ :
เปิดสเปกรถอัจฉริยะ ตร. 260 คัน 898 ล. ติดตั้งระบบซอฟต์แวร์ครบชุด-ปืนไฟฟ้า 520 กระบอก
คุ้ยจัดซื้อรถไฟฟ้าอัจฉริยะ ตร. 898 ล. เจอแค่TOR-ราคากลาง ไม่โชว์สัญญาผู้ชนะ-คู่เทียบ
ถึงคิว! ตรวจรถไฟฟ้าอัจฉริยะ 898 ล. บ.จีเนียส เครือ ฟอร์ท คู่สัญญา-'ติณภัทร' ยันโปร่งใส
'อิศรา' ถาม- 'พล.ต.ท. ติณภัทร' ตอบ! จัดซื้อไบโอเมตริกซ์ 2.1 พันล. มีปัญหาจริงหรือ?
เผยโฉม บ.เอ็มเอสซี คู่สัญญาขายไบโอเมตริกซ์ 2.1 พันล.- จนท.แจงผู้ใหญ่ยังไม่เข้ารอติดต่อกลับ
พบแล้ว! ข้อมูลสัญญาไบโอเมตริกซ์ 2.1 พันล.! สตช.จัดซื้อวิธีพิเศษ ชนะต่ำกว่าราคากลาง 10 ล.
เผยโฉมประกาศซื้อคอมฯ ไบโอเมตริกซ์ สตช.1.7 พันล.-ชื่อ บ.เอ็มเอสซี หราสืบราคากลางด้วย
เจาะปม 'บิ๊กโจ๊ก' แฉซื้อเครื่องไบโอเมตริกซ์ สตม 2.1 พันล. ป.ป.ช.ลุยสอบ-สะเทือน ผบ.ตร.?
10 ม.ค.‘บิ๊กโจ๊ก’มาให้ข้อมูล ป.ป.ช.ปมไบโอเมตริกซ์ สตม. 2.1 พันล.-บี้สอบ ผบ.ตร. ด้วย
ป.ป.ช.ยังไม่เรียก‘บิ๊กโจ๊ก’ให้ข้อมูลโครงการไบโอแมทริกซ์ สตม. 2.1 พันล.-สอบคืบ 50%
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/