"...ผมขอยืนยันว่า บุคคลที่เข้ามาทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการตรวจรับงานให้ความสำคัญกับการปฏิบัติหน้าที่ในงานที่รับผิดชอบเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนรู้กันดีว่างานโครงการนี้ มีใครคอยจับจ้องมองอยู่ ทุกคนทำงานระมัดระวังกันมาก..."
พลันที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ'บิ๊กโจ๊ก' ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน กรณีถูกคนร้ายลอบยิงรถยนต์ เมื่อคืนวันที่ 7 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา โดยเชื่อว่าเกิดจากสมัยตนดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการสำนักตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) และสั่งการให้มีการตรวจสอบโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลแบบลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า (ไบโอเมตริกซ์) พร้อมกับมีหนังสือถึง ผู้บังคับบัญชาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ขอให้ยกเลิกโครงการนี้ เนื่องจากเกิดความล่าช้าและส่งงานไม่ทัน
ขณะที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ออกมา ‘รับลูก’ ต่อทันที โดยการยื่นเรื่องร้องเรียนโครงการดังกล่าวต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ไต่สวนข้อเท็จจริงใน 2 ประเด็นหลัก คือ
1.การส่งมอบครุภัณฑ์ไบโอเมตริกซ์ ที่กำหนดให้เอกชนส่งมอบแก่ สตช. ภายใน 660 วัน แบ่งออกเป็น 6 งวดนั้น พบว่า งวดที่ 1 เลยกำหนดการส่งมอบ 30 วัน งวดที่ 2 เลยกำหนดการส่งมอบ 106 วัน งวดที่ 3 เลยกำหนดการส่งมอบ 177 วัน งวดที่ 4 เลยกำหนดการส่งมอบกว่า 9 เดือน ขณะที่งวดที่ 5 ต้องส่งมอบภายในวันที่ 4 ต.ค. 2561 และงวดที่ 6 ต้องส่งมอบภายในวันที่ 2 พ.ค. 2562 อย่างไรก็ดีนายษิทรา อ้างว่า ในช่วงที่ไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ยังไม่มีการส่งมอบงานงวดที่ 5 และ 6 แต่อย่างใด
2.ประสิทธิภาพในการทำงานของครุภัณฑ์ไบโอเมตริกซ์ นายษิทรา ระบุว่า โครงการดังกล่าวไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งในพื้นที่ที่ไม่จำเป็นต้องใช้งาน ทำให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร รวมถึงมีการรายงานปัญหาดังกล่าวไปยังบริษัทคู่สัญญา แต่ไม่ได้มีการแก้ไขใด ๆ นอกจากนี้ในการส่งมอบงานบางงวดเอกชนยังไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามกำหนดนัด แต่ สตช. เซ็นตรวจรับงานให้ก่อน เพื่อไม่ให้เอกชนเสียเงินค่าปรับวันละ 5 ล้านบาท (อ่านประกอบ : เจาะปม 'บิ๊กโจ๊ก' แฉซื้อเครื่องไบโอเมตริกซ์ สตม 2.1 พันล. ป.ป.ช.ลุยสอบ-สะเทือน ผบ.ตร.?)
@ ภาพจากhttps://ms-my.facebook.com/police.r4/photos/d41d8cd9/1088585221319763/
ชื่อของ พล.ต.ท. ติณภัทร ภุมรินทร์ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะต้องถูกกล่าวถึงในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการฯ โดยตรง
เพื่อหาคำตอบไขข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาการดำเนินงานโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลแบบลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า (ไบโอเมตริกซ์) ว่าเป็นไปตามที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ และ นายษิทรา ออกมาเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนหรือไม่
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้ติดต่อไปยัง พล.ต.ท. ติณภัทร ภุมรินทร์ เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้เป็นทางการ
พล.ต.ท. ติณภัทร กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา ว่า "ตอนนี้ ผมเกษียณอายุราชการมาแล้ว และเรื่องนี้ขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการสออบสวนของ ป.ป.ช.แล้ว ป.ป.ช.คงจะเข้าไปสอบสวนอย่างเต็มที่ ผมว่าเราควรรอฟังผลจาก ป.ป.ช. ดีกว่า"
เมื่อสำนักข่าวอิศรา ถามว่า โครงการมีปัญหาเกิดขึ้น ตามที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ และ นายษิทรา ระบุหรือไม่
พล.ต.ท. ติณภัทร กล่าวว่า "โครงการไม่มีปัญหา ทุกอย่างดำเนินการตามขั้นตอน"
เมื่อถามย้ำว่า แต่มีการระบุว่าการดำเนินงานมีปัญหาความล่าช้าและส่งงานไม่ทัน
พล.ต.ท. ติณภัทร กล่าวว่า เรื่องการส่งมอบงานโครงการมีการกำหนดแบ่งงวดงานไว้สำหรับการจ่ายเงินค่าจ้าง แต่บางงวดงานที่เอกชนทำไม่ทัน เขาก็อาจจะไปเร่งงานในงวดอื่นแทน เพื่อให้งานทั้งหมดส่งมอบทันตามเวลาที่กำหนดในสัญญาได้ และงานนี้เป็นการทำงานทั้งระบบ ไม่ได้เป็นการจ้างงานแบบแยกชิ้น
"่ส่วนปัญหาความล่าช้าในการทำงาน นั้น ต้องเรียนว่ามีปัญหาเกิดขึ้นในการทำงานบางพื้นที่งานจริง แต่ปัญหาไม่ได้เกิดจากฝ่ายเอกชน แต่เกิดจากความไม่พร้อมของตัวสนามบินเอง เช่นที่อุบลฯ งานในส่วนของสนามบินยังไม่เรียบร้อย ทำให้เอกชนไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้ และงานในความรับผิดชอบของสนามบินก็เป็นพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมท่าอากาศยาน ไม่ใช่หน่วยงานของตำรวจด้วย แต่ก็ต้องพยายามหาทางแก้ไขปัญหากันไป"
เมื่อถามว่า ในการดำเนินงานโครงการนี้ มีผ่านมามีการเรียกค่าปรับจากเอกชนหรือไม่ พล.ต.ท. ติณภัทร ตอบว่า "เท่าที่จำได้ไม่มี"
"ผมขอยืนยันว่า บุคคลที่เข้ามาทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการตรวจรับงานให้ความสำคัญกับการปฏิบัติหน้าที่ในงานที่รับผิดชอบเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนรู้กันดีว่างานโครงการนี้ มีใครคอยจับจ้องมองอยู่ ทุกคนทำงานระมัดระวังกันมาก อย่างกรณีที่เอกชนทำเรื่องขอใช้สิทธิขยายระยะเวลาการทำงาน ที่เกิดจากความไม่พร้อมของสนามบิน จำนวน 100 กว่าวัน คณะกรรมการก็ยืนยันให้สิทธิเพียงแค่ 59 วันเท่านั้น ไม่ได้ให้ตามที่เอกชนร้องขอทั้งหมด" พล.ต.ท. ติณภัทร ระบุ
เมื่อถามว่า ยืนยันว่าการดำเนินงานโครงการฯ นี้ ไม่มีปัญหาอะไร พล.ต.ท. ติณภัทร กล่าวว่า "ไม่มีปัญหาอะไร เพราะในช่วงการตรวจรับส่งมอบงาน มีการเชิญตัวแทนนอกงานภายนอก อย่างเช่น เจ้าหน้าที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าไปร่วมตรวจสอบด้วย"
"เจ้าหน้าที่ สตง. ก็ยังรับรองความถูกต้องของงานให้ด้วยเลย รวมถึงโครงการจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์ พร้อมติดตั้งระบบเทคโนโลยี จำนวน 260 คัน วงเงิน 900 ล้านบาทของสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย แล้วงานมันจะไปมีปัญหาได้อย่างไร "
เมื่อถามว่า ป.ป.ช. เชิญเข้าไปให้ปากคำโครงการนี้แล้วหรือไม่ พล.ต.ท. ติณภัทร กล่าวว่า "ยังไม่ได้รับการติดต่ออะไรมา เข้าใจว่า ป.ป.ช. เข้าคงเข้าไปดูไปตรวจข้อมูลกันอยู่ แต่ถ้ามีการติดต่อมาผมพร้อมที่จะไปให้ข้อมูล ซึ่งคิดว่าผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายก็คงเตรียมข้อมูลในส่วนของตนเองไว้ชี้แจงแล้วเช่นกัน"
พล.ต.ท. ติณภัทร ยังกล่าวทิ้งท้ายกับสำนักข่าวอิศรา "ตอนนี้ ผมว่าเราควรรอฟังข้อมูลจาก ป.ป.ช.ก่อนจะดีกว่า"
"ถ้าผลการสอบสวนออกมาเป็นอย่างไร ก็ว่าไป ใครทำอะไรไม่ดีไว้ก็ว่ากันไป ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว "
อ่านประกอบ :
เผยโฉม บ.เอ็มเอสซี คู่สัญญาขายไบโอเมตริกซ์ 2.1 พันล.- จนท.แจงผู้ใหญ่ยังไม่เข้ารอติดต่อกลับ
พบแล้ว! ข้อมูลสัญญาไบโอเมตริกซ์ 2.1 พันล.! สตช.จัดซื้อวิธีพิเศษ ชนะต่ำกว่าราคากลาง 10 ล.
เผยโฉมประกาศซื้อคอมฯ ไบโอเมตริกซ์ สตช.1.7 พันล.-ชื่อ บ.เอ็มเอสซี หราสืบราคากลางด้วย
เจาะปม 'บิ๊กโจ๊ก' แฉซื้อเครื่องไบโอเมตริกซ์ สตม 2.1 พันล. ป.ป.ช.ลุยสอบ-สะเทือน ผบ.ตร.?
10 ม.ค.‘บิ๊กโจ๊ก’มาให้ข้อมูล ป.ป.ช.ปมไบโอเมตริกซ์ สตม. 2.1 พันล.-บี้สอบ ผบ.ตร. ด้วย
ป.ป.ช.ยังไม่เรียก‘บิ๊กโจ๊ก’ให้ข้อมูลโครงการไบโอแมทริกซ์ สตม. 2.1 พันล.-สอบคืบ 50%
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/