"...ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สืบค้นฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างหน่วยงานภาครัฐ พบว่า นับตั้งแต่ปี 2560 - 2563 บริษัท ซิลเวอร์บริดจ์ ดีเฟนซ์ กรุ๊ป จำกัด ปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญาขายยุทโธปกรณ์สายช่าง กล้องตรวจการณ์การคืนให้กับกองทัพบก และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน12 สัญญารวมวงเงินกว่า 300.29 ล้านบาท ..."
.........................................
เมื่อเดินทางไปถึงที่อยู่ดังกล่าว พบว่า เป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น มีป้าย บริษัท ซิลเวอร์บริดจ์ ดีเฟนซ์ กรุ๊ป จำกัด ติดอยู่ทางเข้าบ้าน
เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามผู้ที่อยู่อาศัยในบ้าน ถึงข้อมูลบริษัท ซิลเวอร์บริดจ์ ดีเฟนซ์ กรุ๊ป จำกัด ได้รับคำชี้แจงว่า บริษัท ซิลเวอร์บริดจ์ ดีเฟนซ์ กรุ๊ป จำกัด ไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว แค่มีการยืมสถานที่จดทะเบียนตั้งเท่านั้น ถ้าอยากจะติดต่อต้องติดต่อไปที่แจ้งวัฒนะ
เมื่อสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท ซิลเวอร์บริดจ์ ดีเฟนซ์ กรุ๊ป จำกัด จากฐานข้อมูลออนไลน์ พบว่า บริษัทฯ มีที่ตั้งอีกแห่ง คือ เลขที่ 34/9 ซอยประชาอุทิศ 13 เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร และเมื่อไปถึงที่พบว่าเป็นทาวน์เฮ้าส์ขนาด 3 ชั้น ประตูถูกปิดไว้ ไม่พบผู้อยู่อาศัยแต่อย่างใด
คือ ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ บริษัท ซิลเวอร์บริดจ์ ดีเฟนซ์ กรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2560 ทุน 5,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 592/191 ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ที่ปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญาขายซื้อกล้องตรวจการณ์กลางคืน, บุคคล (แบบตาเดียว) แบบ 2 ด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง ในช่วงปี 2563 จำนวน 3 สัญญา ของกองทัพบก
หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อภิปรายชี้แจงข้อกล่าวหาการจัดซื้อกล้องตรวจการณ์กลางคืน แบบตาเดียวหรือ Night Vision Scope ว่า "ในปี 2561 ก่อนจัดซื้อ กองทัพบกได้สืบหากล้องตาสเปคที่ต้องการ เชิญผู้ประกอบมาทำการทดสอบ ทดลองใช้งานกับหน่วยต่างๆ จนนำไปสู่การกำหนดสเปคที่ต้องการ ทั้งนี้เป็นการจัดซื้อโดยวิธีประกวดราคา (e-bidding) ส่วนปี 2563 หน่วยงานยืนยันความต้องการใช้กล้องแบบเดิมเพื่อให้ครบตามจำนวนที่ต้องการ และทราบว่ามีผู้จำหน่ายเพียงรายเดียว จึงใช้วิธีเฉพาะเจาะจง ราคาจัดซื้อเท่ากับปี 2561-2562"
(อ่านประกอบ : เปิดตัว บ.ขายกล้องฯ ทบ.เจาะจงซื้อเจ้าเดียว - คนในบ้านแจงแค่ยืมสถานที่จดทะเบียนตั้ง)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สืบค้นฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างหน่วยงานภาครัฐ พบว่า นับตั้งแต่ปี 2560 - 2563 บริษัท ซิลเวอร์บริดจ์ ดีเฟนซ์ กรุ๊ป จำกัด ปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญาขายยุทโธปกรณ์สายช่าง กล้องตรวจการณ์การคืนให้กับกองทัพบก และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน12 สัญญารวมวงเงินกว่า 300.29 ล้านบาท
ปรากฎข้อมูลตามตารางต่อไปนี้
จากข้อมูลในตารางข้างบนจะพบข้อมูลดังนี้
1. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นหน่วยงานแห่งแรก ที่จัดซื้อกล้องตรวจการณ์จาก บริษัท ซิลเวอร์บริดจ์ ดีเฟนซ์ กรุ๊ป จำกัด ในปี 2560 จากนั้นไม่ได้จัดซื้ออีก
2. กองทัพบก เป็นหน่วยงานราชการหลักที่จัดซื้อสินค้าจาก บริษัท ซิลเวอร์บริดจ์ ดีเฟนซ์ กรุ๊ป จำกัด
3. บริษัท ซิลเวอร์บริดจ์ ดีเฟนซ์ กรุ๊ป จำกัด ขายสินค้าประเภทอื่นๆ ให้กองทัพบกด้วย อาทิ เครื่องพิมพ์ เครื่องขยายเสียง
4. การจัดซื้อสินค้าส่วนใหญ่ ราคาชนะ จะเท่ากับราคากลาง
5. ในช่วงปี 2562 - ต้นปี 2563 กองทัพบก จัดซื้อกล้องตรวจการณ์จาก บริษัท ซิลเวอร์บริดจ์ ดีเฟนซ์ กรุ๊ป จำกัด ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) จำนวน 2 สัญญา ราคากลาง และราคาชนะ เท่ากัน
ต่อมา ในช่วงกลางปี 2563 กองทัพบก จัดซื้อกล้องตรวจการณ์จาก บริษัท ซิลเวอร์บริดจ์ ดีเฟนซ์ กรุ๊ป จำกัด ด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง จำนวน 3 สัญญา ราคากลาง และราคาชนะ ก็เท่ากัน (เฉลี่ยเครื่องละ 495,000 บาท )
ดังนั้น ไม่ว่าจะใช้วิธีประกวดราคา (e-bidding) หรือวิธีเฉพาะเจาะจง จะซื้อกี่ชุด ราคากลาง และราคาชนะ ก็เท่ากัน
6. ในส่วนการประกวดราคาซื้อกล้องตรวจการณ์กลางคืน, บุคคล (แเบบตาเดียว) แบบ 2 โดยวิธีการประกวดราคา (e-bidding) วงเงิน 39,600,000 บาท สำนักข่าวอิศรา เคยตรวจสอบพบไปแล้วว่า มีเอกชนเข้าซื้อซอง จำนวน 8 ราย คือ บริษัท เจ-บิ๊คส์ เทรดดิ้ง จำกัด, บริษัท 107 เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด, บริษัท ก้านขาวคอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท รอยัล ดีเฟนส์ จำกัด, บริษัท ซิลเวอร์บริดจ์ ดีเฟนซ์ กรุ๊ป จำกัด, บริษัท แอปเปิล ไซเอ็นทิฟิค จำกัด, บริษัท อรุณศรี เอนเนอยี่ พาวเวอร์ จำกัด และ บริษัท อโกรสตาร์ เทคโนโลยี จำกัด
ต่อมามีเอกชน 2 ราย ยื่นซองเสนอราคา คือ บริษัท ซิลเวอร์บริดจ์ ดีเฟนซ์ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท 107 เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติทั้งคู่
ก่อนที่ บริษัท ซิลเวอร์บริดจ์ ดีเฟนซ์ กรุ๊ป จำกัด จะเป็นผู้ชนะ โดยเสนอเท่าราคากลาง 39,600,000 บาท
ส่วน บริษัท 107 เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เสนองานอยู่ที่ 42,768,000 บาท (ดูเอกสารประกอบ)
จึงมีข้อสังเกตสำคัญส่วนนี้ คือ ถ้าสินค้าชนิดนี้ มีผู้จำหน่ายเพียงรายเดียว ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ ทำไมในการจัดซื้อด้วยวิธีการประกวดราคา (e-bidding) ถึงมีเอกชนที่สนใจเข้าซื้อซองเป็นจำนวนกว่า 8 ราย และยื่นซองแข่งขัน 2 ราย แบบนี้
หรือ เอกชนเหล่านี้ เลิกประกอบธุรกิจกล้องตรวจการณ์กลางคืน, บุคคล (แเบบตาเดียว) แบบ 2 ไปหมดแล้ว?
ทั้งที่ การจัดซื้อสัญญาที่ 1 ด้วยวิธีการประกวดราคา (e-bidding) และสัญญาที่ 2 ที่ใช้วิธีการเฉพาะเจาะจง ทำสัญญาว่าจ้างห่างกันแค่ 1 เดือน
ขณะที่การจัดซื้อสัญญาที่ 1 ด้วยวิธีการประกวดราคา (e-bidding) กำหนดราคากลาง ก่อนการจัดซื้อสัญญาที่ 2 ที่ใช้วิธีการเฉพาะเจาะจงด้วยเท่านั้น
ส่วนข้อเท็จจริงในคำชี้แจงของ พ.ต.หญิง ปวีณา ศรีบัวชุม ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก ที่ระบุว่า เหตุผลที่กองทัพบกเปลี่ยนวิธีการจัดหาจากวิธี e-bidding เป็นวิธีเฉพาะเจาะจง เนื่องจากหน่วยที่ใช้ได้ยืนยันความต้องการกล้องแบบรุ่นเดิมที่ใช้หลอดภาพ (ขาว-ดำ) ยี่ห้อ Photonis รุ่น XR5 หน่วยเคยได้รับการแจกจ่ายมาแล้ว 3 ครั้ง ทำให้ง่ายต่อการปรนนิบัติบำรุงและการส่งกำลัง อีกทั้งกำลังพลของหน่วยใช้ได้รับการฝึกและใช้จนเกิดความชำนาญแล้ว จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้แทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัทผู้ผลิตเพียงรายเดียวในประเทศไทย (อ่านประกอบ : กองทัพตั้งโต๊ะแจง!เจ้ากรม ขส.ทบ.ซื้อรถบัสปัดเอื้อเอกชน-ไม่ได้ซอยโครงการเลี่ยงถูกสอบ)
สำนักข่าวอิศรา จะติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงต่อไป
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้องทั้งหมด :
ขยายข้อมูล ส.ส.ก้าวไกล! 'อิศรา' เจาะจัดซื้อกล้องตรวจการณ์ ทบ.4 ปี 198 ล. ผูกซื้อ 2 บ.
'บิ๊กตู่'แจงจัดซื้อชุดทหาร-กล้องตรวจการณ์ แต่ไม่ตอบปมรถ ขส.ทบ.7 สัญญา 2.2 พันล.
กางหลักฐาน! ซื้อกล้องตรวจการณ์วิธีเจาะจง ก่อน 'บิ๊กตู่' อ้างเหตุมีผู้จำหน่ายรายเดียว?
มองเห็น'คน-รถถัง'ด้วยแสงดาว! โชว์สเปคกล้องฯ ทบ.ตัวละ 4.95 แสน-ตัวแทนขายมีเจ้าเดียว
เปิดตัว บ.ขายกล้องฯ ทบ.เจาะจงซื้อเจ้าเดียว - คนในบ้านแจงแค่ยืมสถานที่จดทะเบียนตั้ง
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/