กทจ.ตรัง ลงดาบไล่ออก 'รองปลัดฯ-พวก' คดีค่าประกันสัญญา รร.- สู้ต่อในชั้นศาล

pictrwseddddd3 2 64

“...เรื่องนี้ ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องและทำความเห็นเสนอมายัง กทจ.ตรัง ในการดำเนินการตามมติ ป.ป.ช. ซึ่ง กทจ. ได้มีการประชุมไปเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา และมีมติดำเนินการตามที่ป.ป.ช.เสนอมา คือ ให้ "ไล่ออก” ผู้ถูกชี้มูลกรณีดังกล่าว ได้แก่ นายปัญญา ภิรมย์ รองปลัดเทศบาลนครตรัง นายยงยุทธ เบญจวรางกูล ผู้อำนวยส่วนการโยธาและผังเมือง และนายสมมุ่ง จีนแก้วเปี่ยม นิติกร ส่วนนายอภิชิต วิโนทัย นั้น ได้เสียชีวิตไปแล้ว การดำเนินการจึงระงับไป ..."

......................................

กรณีการผ่อนปรนค่าประกันสัญญาโครงการประมูลราคาให้เช่าอาคารโรงแรมตรังและการเช่าอาคารพาณิชย์ด้านล่างอาคารโรงแรมตรัง อันเป็นสาเหตุสำคัญทำให้ นายอภิชิต วิโนทัย อดีตนายกเทศมนตรีนครตรัง กับพวก 3 ราย ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความทางอาญา และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย

ภายหลังคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 7 เสียง ว่า การกระทำของ นายปัญญา ภิรมย์ รองปลัดเทศบาลนครตรัง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นายยงยุทธ เบญจวรางกูล ผู้อำนวยส่วนการโยธาและผังเมือง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 และนายสมมุ่ง จีนแก้วเปี่ยม นิติกร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่ มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ

ส่วนนายอภิชิต วิโนทัย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ได้ถึงแก่ความตายแล้ว สิทธิ นำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39

ที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำรายละเอียดมานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบไปก่อนหน้านี้

(อ่านประกอบ : ป.ป.ช. ชี้มูลรองปลัดเทศบาลตรัง-พวก 3 ราย ผ่อนปรนค่าประกันสัญญาประมูลเช่า รร.)

มีความคืบหน้าเพิ่มเติม เมื่อล่าสุด คณะกรรมการเทศบาลจังหวัดตรัง (กทจ.ตรัง) ได้มีมติให้ไล่ออก นายปัญญา ภิรมย์ รองปลัดเทศบาลนครตรัง นายยงยุทธ เบญจวรางกูล ผู้อำนวยส่วนการโยธาและผังเมือง และนายสมมุ่ง จีนแก้วเปี่ยม นิติกร เป็นทางการแล้ว ขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาบางรายยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง และพร้อมที่จะต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป

โดย นายศตพงษ์ สุนทรารักษ์ ท้องถิ่นจังหวัดตรัง ในฐานะคณะกรรมการเทศบาลจังหวัดตรัง (กทจ.ตรัง) ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า เรื่องนี้ ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องและทำความเห็นเสนอมายัง กทจ.ตรัง ในการดำเนินการตามมติ ป.ป.ช. ซึ่ง กทจ. ได้มีการประชุมไปเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา และมีมติดำเนินการตามที่ป.ป.ช.เสนอมา คือ ให้ "ไล่ออก” ผู้ถูกชี้มูลกรณีดังกล่าว ได้แก่ นายปัญญา ภิรมย์ รองปลัดเทศบาลนครตรัง นายยงยุทธ เบญจวรางกูล ผู้อำนวยส่วนการโยธาและผังเมือง และนายสมมุ่ง จีนแก้วเปี่ยม นิติกร ส่วนนายอภิชิต วิโนทัย นั้น ได้เสียชีวิตไปแล้ว การดำเนินการจึงระงับไป

นายศตพงษ์ ยืนยันว่า อย่างไรก็ตาม ผู้ถูกกล่าวหา ทั้ง 3 ราย ยังสามารถฟ้องศาลปกครองได้ตามสิทธิ์

ขณะที่ นายยงยุทธ เบญจวรางกูล ผอ.ส่วนการโยธาและผังเมือง เทศบาลนครตรัง หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคดีนี้ ให้สัมภาษ์ทางศัพท์สำนักข่าวอิศรา ว่า เกี่ยวกับกรณีนี้ จริงๆ แล้ว ตนได้รับคำสั่งให้เป็นที่ปรึกษาของนายอภิชิต วิโนทัย อดีตนายกเทศมนตรีนครตรังในสมัยนั้นเท่านั้นเอง และคำสั่งที่ออกมาดังกล่าวไม่ได้มีระเบียบหรือข้อกฎหมายที่ระบุว่า ใช้อำนาจแต่งตั้งตามกฎหมายตัวไหน หรือระเบียบตัวไหน เป็นเพียงคำสั่งลอยๆ และให้ตนหาข้อมูลให้แค่นั้นเอง

"ผมไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ยืนยันว่าไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงในส่วนนั้น และทุกอย่างผ่านการกลั่นกรองของฝ่ายพัสดุ ฝ่ายพัฒนารายได้ ผ่านผู้อำนวยการกองคลังเทศบาลนครตรัง ผ่านปลัดเทศบาลนครตรังในขณะนั้น ซึ่งล้วนมีหน้าที่โดยตรง"

messageImage 1612225569213

@ นายยงยุทธ เบญจวรางกูล

นายยงยุทธ กล่าวอีกว่า เมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2563 ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่ง ตามมาตรา 99 (2) ไปยังสำนักงานป.ป.ช. แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับ

"ผมยังสงสัยว่าทำไมเรื่องผมไม่ได้เข้าที่ประชุมพิจารณา มีเพียงการตอบอุทธรณ์มาจาก ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. จริงๆแล้วต้องมีการเข้าคณะกรรมการใหม่ แต่กลับไม่มี"

“ส่วนตัวผม ยอมรับว่ามีความหนักใจ เพราะทาง ป.ป.ช.เองตอบเพียงว่า ให้ไปสู้กันในชั้นศาล ซึ่งผมไม่เข้าใจว่า ป.ป.ช. ได้ทำหน้าที่ครบถ้วนสมบูรณ์หรือยัง” นายยงยุทธ กล่าว

1612227260166

@ นายสมมุ่ง จีนแก้วเปี่ยม

ส่วนนายสมมุ่ง จีนแก้วเปี่ยม นิติกร เทศบาลนครตรัง กล่าวกับอิศราว่า หลังจากนี้ตนจะยื่นทบทวนตามสิทธิ มาตรา 99 เพราะมีหลักฐานบางตัวที่ไม่อยู่ในสำนวน ป.ป.ช. ซึ่งเป็นหลักฐานแสดงมูลเหตุข้อเท็จจริง ซึ่งทั้งหมดเป็นเอกสารใหม่ และได้ยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมไปยัง ป.ป.ช.แล้ว แต่ทางป.ป.ช.ไม่ได้พิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยตามมาตร 99 วรรค 2 ระบุไว้ชัดเจน และได้ยื่นขอทบทวนไปยังป.ป.ช.แล้วเมื่อประมาณเดือนตุลาคม 25563 และหลังจากที่ตนส่งเอกสารไปก็ไม่ได้รับคำตอบจากป.ป.ช. จนต้องขอจากหน่วยงานอื่น ซึ่งกว่าจะตอบกลับมาก็ใช้เวลานานพอสมควร

“หลังจากนี้การต่อสู้ในชั้นศาล ก็ต้องต่อสู้กันตามข้อเท็จจริง ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่ได้มีเจตนาทุจริต แต่เรื่องนี้ผมรู้สึกกังวล และมองว่าไม่มีความยุติธรรม เพราะเอกสารต่างๆ ที่ประกอบพิจารณา เราพิจารณาบนหลักการของกฎหมาย การเสนอความเห็นนั้น เป็นการเสนอความเห็นเพื่อให้ผู้บริหาร ได้พิจารณาอีกครั้ง เราไม่ได้เป็นผู้อนุมัติ"

"การชี้มูลของป.ป.ช.ในครั้งนี้ ผมยอมรับว่าเครียด ผมอยากร้องผ่านสื่อหน่อยว่า ความยุติธรรมมันต้องมีกับคนที่ไม่มีเจตนาจะทุจริต ตอนนี้มันกระทบกับครอบครัวผมเป็นอย่างมาก”นายสมมุ่งกล่าว

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์นายวัลลภ ช่วยบำรุง ปลัดเทศบาลนครตรัง รักษาราชการนายกเทศมนตรีนครตรังคนปัจจุบันถึงกรณีนี้เช่นกัน แต่ไม่สามารถติดต่อได้ นายวัลลภไม่ได้รับสาย

ด้านนายราม วสุธนภิญโญ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง กล่าวยืนยันกับอิศราว่า สำหรับกรณีดังกล่าวทางสำนักงาน ป.ป.ช.ได้รวบรวมสำนวนส่งอัยการเพื่อส่งฟ้องศาลไปแล้ว

โดยสำนวนแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นอาญา ที่คณะกรรมการป.ป.ช. มีมติ และได้ชี้มูลอาญาตามที่ปรากฎเป็นข่าว ส่วนข้อสรุปสำนวน ได้ส่งไปยังสำนักอัยการภาค 9 เพื่อส่งฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลางไปสักระยะหนึ่งแล้ว ส่วนของวินัย ทางผู้ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดในส่วนของวินัย ได้ขอยื่นเรื่องโดยอ้างว่ามีพยานหลักฐานใหม่ แต่เมื่อ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ดูแล้วว่าไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่ และเป็นหลักฐานที่อยู่ในกระบวนการพิจารณาเดิม ไม่มีผลให้สำนวนเปลี่ยน จึงไม่รับซึ่งเรื่องนี้จบไปแล้ว และแจ้งตอบกลับไปยังเจ้าตัวแล้ว

นายราม กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานต้นสังกัดต้องทำตามมติ ป.ป.ช. ในเรื่องวินัย ว่าจะ ปลดออก หรือ ไล่ออกจากราชการ ต้องว่าไปตามกระบวนการของเขา โดยขั้นนี้มีระยะเวลาตามกรอบของกฎหมาย คือ 30 วัน ซึ่งตอนนี้ได้มีการส่งเรื่องเข้าที่ประชุมของคณะกรรมการพนักงานเทศบาลระดับจังหวัดไปแล้ว เป็นหน้าที่บริหารงานบุคคลของเทศบาลในแต่ละจังหวัด หากได้ผลหรือข้อสรุปอย่างไร ทางคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจะรายงานมายัง ป.ป.ช.

"ส่วนเรื่องคดีอาญาจะขึ้นอยู่กับอัยการเป็นผู้บรรจุสำนวน หากทางอัยการเห็นว่าสำนวนที่ป.ป.ช.ส่งไปมีความชัดเจนสมบูรณ์ ทางอัยการสามารถส่งฟ้องได้เลย แต่หากอัยการมองว่าสำนวนจากป.ป.ช.ไม่สมบูรณ์ ก็จะแจ้งมายัง ป.ป.ช. เพื่อตั้งคณะการร่วมระหว่าง ป.ป.ช.กับอัยการ เพื่อดูแลสำนวนให้สมบูรณ์ขึ้น" นายรามระบุ

ทั้งหมดนี้ เป็นความคืบหน้าล่าสุด ในคดีผ่อนปรนค่าประกันสัญญาโครงการประมูลราคาให้เช่าอาคารโรงแรมตรังและการเช่าอาคารพาณิชย์ด้านล่างอาคารโรงแรมตรัง ที่เป็นสาเหตุทำให้นายอภิชิต วิโนทัย อดีตนายกเทศมนตรีนครตรัง กับพวก ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความทางอาญา และส่งเรื่องฟ้องคดีตามขั้นตอนทางกฎหมายอยู่ในขณะนี้

ผลการต่อสู้คดีในชั้นศาลเป็นอย่างไร ดูรอกันต่อไป

อย่างไรก็ดี การไต่สวนคดีอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

อ่านประกอบ :

คุก 3 ปี 4 ด.! อดีตอัยการประจวบฯ ให้จำเลยเลี้ยงอาหาร-เรียกรับพระเครื่องแลกไม่อุทธรณ์คดี

คุก18 ด. รอลงโทษ! อดีต ผอ.รร.ค่ายประจักษ์ฯ รับรองงานวิชาการเท็จ-ตั้งตัวเอง ปธ.ช่วย

คดีอนุญาตสร้าง รร.สินเกียรติธานี! ศาลจำคุก 2 จนท.- 'พิบูลย์-พวก 4 ราย' แยกฟ้องใหม่

คุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา! อดีตนายกฯ บ้านใหม่ โคราช สั่งการขุดลอกลำตะคองมิชอบ

คุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา! อดีตที่ปรึกษา กสม.ทุจริตแก้สัญญาเพิ่มเงินเดือนช่วยงานไทยพีบีเอส

คุก 6 ปี! อดีตนอภ.หัวไทร นครศรีฯ เรียกรับผลประโยชน์โครงการตำบลละห้าล้าน

ผิดกม.7กรรม! เผยคำพิพากษาคุก 2 ปี! 'ไพร พัฒโน' คดีหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระ 27ล.

คุก 2 ปี 6 ด. ไม่รอลงอาญา! อดีตนายก อบต.ส้มผ่อ ถอนเงินบัญชีโครงการศก.ชุมชนมิชอบ

ยืนโทษ! คุก 27 ปี 6 ด. อดีตจนท.พัสดุ แขวงการทางเชียงใหม่ เรียกเงินผู้รับเหมา