ป.ป.ช.เผยความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'โสภณ หรือ โสภณธีณ์ หรือ อภิวิชญ์ ตะติโชติพันธ์ุ' อดีตที่ปรึกษากสม. ทุจริตแก้สัญญาเพิ่มเงินเดือนช่วงช่วยราชการไทยพีบีเอส ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี รับสารภาพลดโทษเหลือ 1 ปี ไม่รอลงอาญา
.............................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายโสภณ หรือ โสภณธีณ์ หรือ อภิวิชญ์ ตะติโชติพันธ์ุ อดีตที่ปรึกษาประจำสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เมื่อครั้งช่วยราชการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ไทยพีบีเอส ) เปลี่ยนแปลงสัญญาจ้างในส่วนที่เกี่ยวข้องกับจำนวนเงินค่าจ้างโดยทุจริตทำให้องค์การต้องจ่ายเงินเดือนสูงกว่าที่ควรจะเป็น
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 161 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2557
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2563 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาว่า จำเลย มีความผิดตามมาตรา 157 จำคุก 2 ปี
จำเลย ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามมาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2563 ลงมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เกี่ยวกับคดีนี้ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) มีคำสั่งที่ 29/2552 ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2552 ให้ลงโทษไล่ออกจากราชการ นายโสภณ ตะติโชติพันธุ์ ข้าราชการสามัญตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักงานฯ (เจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชน 9 ช ช) ระดับ 9 เนื่องจากได้กระทำผิดร้ายแรง
โดยในคำสั่งระบุว่า ระหว่างวันที่ 16 มกราคม 2551 ถึง วันที่ 19 เมษายน 2551 นายโสภณ ได้ไปช่วยปฏิบัติงานที่องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย และได้ทำสัญญาจ้างได้รับตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ ด้านบริหารจัดการองค์การและกฎหมาย รับค่าตอบแทนเดือนละ 8 หมื่นบาท เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2551 โดยสัญญาให้มีผลย้อนหลังถึงวันที่ 16 มกราคม 2551 ซึ่งเป็นวันที่ไปปฏิบัติงานจริง ต่อมาวันที่ 10 มีนาคม 2551 นายโสภณได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลและปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย 10 ประการ
และต้นเดือนเมษายน 2551 นายโสภณได้เจรจาขอให้นายเทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ในขณะนั้น) เพิ่มค่าตอบแทนให้เป็นเดือนละ 1 แสนบาท โดยกลางเดือนเมษายน นายโสภณได้นำร่างสัญญาจ้างฉบับใหม่ไปให้นายเทพชัยลงนาม ซึ่งนายเทพชัยก็ได้ลงนามให้ โดยให้มีผลนับแต่วันลงนามในสัญญาจ้างฉบับใหม่
แต่นายโสภณไม่ได้นำร่างสัญญาจ้างฉบับนี้ไปดำเนินการให้เป็นผลทางปฏิบัติ แต่กลับใช้อำนาจให้ผู้ใต้บังคับบัญชานำสัญญาจ้างฉบับเดิมมาให้ แล้วนายโสภณได้ทำการเปลี่ยนแปลงยอดเงินค่าตอบแทนที่อยู่ในเอกสารแผ่น 2 ของสัญญาเดิม โดยดึงเอกสารซึ่งมีค่าตอบแทนเดือนละ 8 หมื่นบาทออก แล้วนำเอกสารแผ่นใหม่ที่มีค่าตอบแทนเดือนละ 1.2 แสนบาทใส่เข้าไปแทน
ทั้งนี้นายโสภณยังได้แจ้งเจ้าหน้าที่ผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งควบคุมการจ่ายเงินเดือนของพนักงานองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ว่าให้เงินเดือนใหม่มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 16 มกราคม 2551 เป็นเหตุให้องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย จ่ายเงินค่าตอบแทนแก่นายโสภณเกินกว่าข้อตกลงตามสัญญาจ้างฉบับจริง
สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพิจารณาแล้ว เห็นว่าพฤติกรรมของนายโสภณ เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง จึงควรได้รับโทษไล่ออกจากราชการ อาศัยตาม พ.ร.บ.คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตรา 20 ประกอบกับ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายรัฐสภา และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 53 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดทางวินัยของข้าราชการ ซึ่งไปปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานที่มิใช่ส่วนราชการ พ.ศ. 2535
อ่านประกอบ :
คุก 3 ปี 4 ด.! อดีตอัยการประจวบฯ ให้จำเลยเลี้ยงอาหาร-เรียกรับพระเครื่องแลกไม่อุทธรณ์คดี
คุก18 ด. รอลงโทษ! อดีต ผอ.รร.ค่ายประจักษ์ฯ รับรองงานวิชาการเท็จ-ตั้งตัวเอง ปธ.ช่วย
คดีอนุญาตสร้าง รร.สินเกียรติธานี! ศาลจำคุก 2 จนท.- 'พิบูลย์-พวก 4 ราย' แยกฟ้องใหม่
คุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา! อดีตนายกฯ บ้านใหม่ โคราช สั่งการขุดลอกลำตะคองมิชอบ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage