“...แม้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติการถูกดำเนินคดีหรือประวัติต้องโทษอาจส่งผลร้ายแก่จำเลยในรูปแบบของคำพิพากษา แต่จำเลยยังมีสิทธิปฏิเสธข้อมูลนั้นและนำพยานหลักฐานอื่นมาหักล้างได้ มิใช่ว่าผลของการพิมพ์ลายนิ้วมือเท่ากับเป็นการยอมรับรายการประวัติอันเป็นข้อเท็จจริงที่เป็นปฏิปักษ์ต่อตนเองไปเสียทีเดียว หรือเป็นการยอมรับว่ากระทำความผิดตามข้อที่กล่าวหานั้นทันที….”
..........................................
“การที่จำเลยในฐานะผู้ต้องหาปฏิเสธไม่ยอมให้พนักงานสอบสวนพิมพ์ลายนิ้วมือโดยอ้างว่าการกระทำของจำเลยไม่ครบองค์ประกอบความผิด และจำเลยให้การปฏิเสธ จึงมีสิทธิปฏิเสธการพิมพ์ลายนิ้วมือก็ดี หรือที่จำเลยอ้างว่าจำเลยแจ้งพนักงานสอบสวนให้ทราบถึงสิทธิเสรีภาพตามผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวแล้วก็ดี รวมถึงที่จำเลยยกเหตุอ้างว่า การพิมพ์ลายนิ้วมือเป็นการกระทำลักษณะปฏิปักษ์ต่อตนเองก็ดี ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นข้อหรือเหตุแก้ตัวอันสมควร พยานหลักฐานของจำเลยไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ การกระทำของจำเลยเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่เจ้าพนักงานสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้โดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรและเป็นความผิดตามฟ้องโจทก์
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 386 วรรคแรก ปรับ 3,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30”
คือสาระสำคัญตอนท้ายในคำพิพากษาของศาลแขวงนนทบุรี คดีหมายเลขดำที่ อ.280/2563 คดีหมายเลขแดงที่ อ.2738/2563 ระหว่างพนักงานอัยการคดีศาลแขวงนนทบุรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส. ภ. (ตัวอักษรย่อ) จำเลย กรณีไม่ยอมพิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องหาในคดีอาญา (อ่านประกอบ : อ้างคำวินิจฉัยศาล รธน.ฟังไม่ขึ้น! สั่งปรับ 3,000 บาทผู้ต้องหาปฏิเสธพิมพ์ลายนิ้วมือ)
ประเด็นที่น่าสนใจในคำพิพากษาของศาลแขวงนนทบุรีคือ การที่จำเลยกล่าวอ้างคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 2/2562 มาแก้ต่างว่า ผู้ต้องหามีสิทธิปฏิเสธการพิมพ์ลายนิ้วมือกับเจ้าพนักงานสอบสวนได้ อย่างไรก็ดีศาลแขวงนนทบุรีเห็นว่าการอ้างคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวเป็นการกล่าวอ้างแบบ ‘ผิดฝาผิดตัว’ ?
อย่างไร ? สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สรุปคำพิพากษาศาลแขวงนนทบุรี ให้สาธารณชนทราบ ดังนี้
ศาลพิเคราะห์คำฟ้อง คำให้การ และทางนำสืบของโจทก์แล้ว ข้อเท็จจริงที่คู่ความทั้งสองฝ่ายไม่ได้โต้แย้งกัน รับฟังเป็นที่ยุติเบื้องต้นว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2562 ร.ต.อ.ธนกฤษณ์ ศาลางาม พนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ แจ้งข้อกล่าวหาแก่จำเลยว่า นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันมีลักษณะลามกและข้อมูลนั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู้อยู่แล้วว่า เป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันมีลักษณะลามก จำเลยลงลายมือชื่อในช่องผู้ต้องหา ตามบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา ต่อมา ร.ต.อ.ธนกฤษณ์ ให้จำเลยพิมพ์ลายนิ้วมือ แต่จำเลยปฏิเสธไม่ยอมพิมพ์ลายนิ้วมือ
คดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยประการเดียวกัน การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามฟ้องโจทก์หรือไม่
เห็นว่า ร.ต.อ.ธนกฤษณ์ เป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ตำแหน่งพนักงานสอบสวนในขณะเกิดเหตุ มีอำนาจหน้าที่สอบสวนคดีอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 132 ดังนั้นการที่ ร.ต.อ.ธนกฤษณ์สั่งให้มีการพิมพ์ลายนิ้วมือของจำเลย ซึ่งถูกแจ้งข้อกล่าวหาในคดีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และคดีอยู่ในหลักเกณฑ์ตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติฯ คำสั่งของ ร.ต.อ.ธนกฤษณ์ จึงเป็นการสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายและระเบียบไว้ให้ เมื่อจำเลยทราบคำสั่งดังกล่าวของ ร.ต.อ.ธนกฤษณ์ แล้วไม่ปฏิบัติตาม โดยไม่ยอมให้มีการพิมพ์ลายนิ้วมือของจำเลย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้
ที่จำเลยอ้างว่าการกระทำของจำเลยไม่ครบองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จำเลยไม่สมควรถูกดำเนินคดีนั้น เห็นว่า เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธแล้ว การกระทำของจำเลย จะเป็นความผิดหรือไม่อย่างไร เป็นเรื่องที่ ร.ต.อ.ธนกฤษณ์ จะต้องดำเนินการสอบสวนคดีต่อไป และการที่พนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนการสอบสวนแล้วมีความเห็นอย่างไร ก็เป็นการใช้ดุลพินิจของพนักงานสอบสวน จำเลยมีสิทธิเสนอพยานหลักฐานตามข้อต่อสู้ของตน แต่ไม่ใช่ว่าพนักงานสอบสวนจะต้องยุติการสอบสวนทันทีตามที่จำเลยแจ้ง
@อ้างคำวินิจฉัยศาล รธน.ผิดฝาผิดตัว เหตุไม่ได้ระบุทุกคนมีสิทธิเสรีปฏิเสธ
ที่จำเลยอ้างว่า การสั่งให้พิมพ์ลายนิ้วมือเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญให้ไว้ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแล้วว่า ผู้ต้องหาที่ไม่พิมพ์ลายนิ้วมือไม่มีความผิดฐานขัดขืนคำสั่งของเจ้าพนักงานนั้น เห็นว่า เพราะเหตุที่การพิมพ์ลายนิว้มือเป็นสิทธิพื้นฐานเฉพาะตัวบุคคลดังที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ระบุไว้ในคำวินิจฉัยที่ 2/2562 ดังนั้นศาลรัฐธรรมนูญจึงวินิจฉัยถึง ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 25 เรื่องการดำเนินการเกี่ยวกับการยุติธรรมทางอาญา ที่กำหนดให้ผู้ซึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดาอาญา มีหน้าที่ต้องพิมพ์ลายมือหรือลายเท้า ในส่วนที่กำหนดให้เป็นความผิดและโทษทางอาญาขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ด้วยเหตุผลหลักคือ ลักษณะการบัญญัติกฎหมายกำหนดให้ผู้ที่ฝ่าฝืนมีความผิดไปในทันที โดยไม่มีข้อยกเว้น และกำหนดอัตราโทษที่ไม่ได้สัดส่วนกับความผิด ทั้งที่รัฐชอบที่จะหาวิธีการอื่นที่เหมาะสมพอควรแก่กรณี
ประกอบกับสภาวการณ์ของบ้านเมืองที่เปลี่ยนไปจากช่วงรัฐประหาร ไม่ปรากฏถ้อยคำใดจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวเข้าใจได้ว่า บุคคลทุกคนมีสิทธิอย่างเสรีที่จะปฏิเสธการพิมพ์ลายนิ้วมือได้ โดยการกระทำของบุคคลนั้นไม่เป็นความผิดใด ๆ
@อ้างสิทธิเสรีภาพไม่ใช่ข้อแก้ตัวอันสมควร
นอกจากนี้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว มิได้วินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 ที่โจทก์ฟ้องคดีนี้เป็นบทบัญญัติหรือกฎหมายที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ อีกทั้งเนื้อหาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว ยังรับรองว่า มีมาตรการทางกฎหมายอื่นให้อำนาจแก่เจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ในการบังคับให้เป็นไปตามเจตนารมณ์สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร คือประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 วรรคหนึ่ง
ดังนั้นแม้ข้อเท็จจริงในเชิงลักษณะการกระทำของจำเลยในคดีนี้กับจำเลยในคดีที่เป็นมูลเหตุแห่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะเหมือนกัน แต่บทกฎหมายที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษนั้นแตกต่างกัน และกฎหมายที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษในคดีนี้ยังไม่ถูกวินิจฉัยให้เพิกถอนหรือสิ้นผลบังคับใช้ ใจความสำคัญของคดีนี้จึงอยู่ที่ว่า ผู้ฝ่าฝืนมีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรในการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจหรือไม่
การที่พนักงานสอบสวนสั่งให้จำเลยพิมพ์ลายนิ้วมือ แต่จำเลยอ้างว่า จำเลยแจ้งพนักงานสอบสวนแล้วว่า จำเลยมีสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้และแจ้งให้ทราบถึงผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญซึ่งวินิจฉัยเพิกถอนกฎหมายฉบับอื่น อีกทั้งไม่ได้วินิจฉัยรับรองสิทธิของผู้ต้องหาที่จะปฏิเสธพิมพ์ลายนิ้วมือได้อย่างเสรี จึงไม่ถือว่าเป็นเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร
@ชี้การพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อระบุตัวตน-ป้องดำเนินคดีผิดตัว
การที่จำเลยอ้างว่าเพราะจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา จำเลยจึงมีสิทธิไม่ยอมพิมพ์ลายนิ้วมือที่มีลักษณะเป็นปฏิปักษ์ต่อตนเองนั้น เห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 131 บัญญัติให้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานทุกชนิดเท่าที่จะสามารถทำได้ เพื่อประสงค์ทราบข้อเท็จจริง และพฤติการณ์ต่าง ๆ อันเกี่ยวกับความผิดที่ถูกกล่าวหา เพื่อจะรู้ตัวผู้กระทำผิด และพิสูจน์ให้เห็นความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา การสอบสวนคดีจึงมิได้เป็นไปเพื่อพิสูจน์แต่ความผิดของผู้ต้องหาเท่านั้น และหนึ่งในกระบวนการสอบสวนคดีเพื่อเป็นการรวบรวมพยานหลักฐานให้เห็นว่า จำเลยเป็นผู้มีความผิดหรือบริสุทธิ์ นั่นคือการจัดให้ผู้ต้องหาพิมพ์ลายนิ้วมือตามอำนาจที่มาตรา 132 ให้ไว้
ผลการพิมพ์ลายนิ้วมือเป็นการระบุบ่งชี้ตัวตนของบุคคล และสามารถนำมาประกอบการพิจารณาโทษในชั้นศาล การพิมพ์ลายนิ้วมือยังเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในมุมกลับกันด้วย กล่าวคือ เพื่อป้องกันมิให้มีการดำเนินคดีผิดตัว
@จำเลยมีสิทธิยกพยานหลักฐานมาสู้-พิพากษาปรับ 3,000 บาท
แม้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติการถูกดำเนินคดีหรือประวัติต้องโทษอาจส่งผลร้ายแก่จำเลยในรูปแบบของคำพิพากษา แต่จำเลยยังมีสิทธิปฏิเสธข้อมูลนั้นและนำพยานหลักฐานอื่นมาหักล้างได้ มิใช่ว่าผลของการพิมพ์ลายนิ้วมือเท่ากับเป็นการยอมรับรายการประวัติอันเป็นข้อเท็จจริงที่เป็นปฏิปักษ์ต่อตนเองไปเสียทีเดียว หรือเป็นการยอมรับว่ากระทำความผิดตามข้อที่กล่าวหานั้นทันที
ดังนั้น การที่จำเลยในฐานะผู้ต้องหาปฏิเสธไม่ยอมให้พนักงานสอบสวนพิมพ์ลายนิ้วมือโดยอ้างว่าการกระทำของจำเลยไม่ครบองค์ประกอบความผิด และจำเลยให้การปฏิเสธ จึงมีสิทธิปฏิเสธการพิมพ์ลายนิ้วมือก็ดี หรือที่จำเลยอ้างว่าจำเลยแจ้งพนักงานสอบสวนให้ทราบถึงสิทธิเสรีภาพตามผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวแล้วก็ดี รวมถึงที่จำเลยยกเหตุอ้างว่า การพิมพ์ลายนิ้วมือเป็นการกระทำลักษณะปฏิปักษ์ต่อตนเองก็ดี ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นข้อหรือเหตุแก้ตัวอันสมควร พยานหลักฐานของจำเลยไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ การกระทำของจำเลยเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่เจ้าพนักงานสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้โดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรและเป็นความผิดตามฟ้องโจทก์
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 386 วรรคแรก ปรับ 3,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30
หมายเหตุ : ภาพการพิมพ์ลายนิ้วมือจาก https://thaifingerprint.weebly.com/ นำมาเป็นภาพประกอบรายงานเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับคดีนี้แต่อย่างใด
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/