'วิชา มหาคุณ' ตั้ง 4 คณะทำงานสางคดี 'บอส อยู่วิทยา' สั่งดูสำนวนตั้งแต่ สน.ทองหล่อ จนถึง กมธ.กฎหมายฯ ยุค สนช. รวมถึงดูความจำเป็นในการสอบเส้นทางการเงิน ขณะเดียวกันเตรียมเปิดช่องทางรับฟังความเห็น หลังพบตำรวจ-อัยการอยากให้ข้อมูลเพียบ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ส.ค. นายวิชา มหาคุณ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน กล่าวภายหลังการประชุมนัดแรก ที่ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ว่า คณะกรรมการชุดนี้มีผู้เชี่ยวชาญอยู่หลากหลายสาขา ทำให้ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งมีความชัดเจนมากขึ้น ได้ข้อสังเกตที่ดี เพื่อนำไปสู่การตรวจสอบในประเด็นที่ละเอียดต่อไป โดยที่ประชุมได้ตั้งคณะทำงาน 4 ชุด เพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ประกอบด้วย 1.คณะทำงานตรวจสอบอัยการ มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน เพราะเป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปด้านกฎหมาย 2.คณะทำงานตรวจสอบตำรวจ มีนายเข็มชัย ชุติวงศ์ เป็นประธาน เพราะเป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปด้านกระบวนการยุติธรรม 3.คณะทำงานตรวจสอบบุคคลทั่วไป มีนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน โดยคณะทำงานชุดนี้จะต้องตรวจสอบพยาน บุคคลที่เกี่ยวข้อง กรรมาธิการ ทนายความ ซึ่งเป็นคนที่ไม่ใช่ตำรวจและอัยการ ทั้งนี้หากพิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องมีการสอบเส้นทางการเงิน ก็สามารถทำได้ เพราะมีผู้แทนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมอยู่ด้วย และ 4.คณะทำงานตรวจสอบด้านกฎหมาย มีนายปกรณ์ นิลประพันธุ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นประธาน
นายวิชา กล่าวว่า ขณะเดียวกันยังมีคณะทำงานที่มีหน้าที่รวบรวมสรรพเอกสาร ทั้งตัวเอกสารหรือสิ่งที่ได้จากโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอ คลิป หรือข้อคิดเห็นจากประชาชนต่างๆ ซึ่งจะเปิดช่องทางให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ โดยจะมีทีมงานที่เชี่ยวชาญทางไอที และจะใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยในการทำงาน รวมไปถึงทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนรับรู้ ดังนั้น ถ้าใครต้องการส่งเอกสาร หลักฐาน หรือจะให้ข้อมูลใดๆ แก่คณะกรรมการสามารถติดต่อมาได้ที่ตน หรือช่องทางที่เรากำลังจะดำเนินการเปิดเพื่อรับข้อมูล หรือว่าคนที่มีความคับข้องใจ ซึ่งมีทั้งอัยการและตำรวจที่อยากจะให้ข้อมูลจำนวนมาก เราอยากได้ทุกความเห็น สามารถส่งเข้ามาได้ อย่างไรก็ตาม คณะทำงานแต่ละชุดจะทำงานคู่ขนานกันไปกับคณะกรรมการชุดใหญ่ จะประชุมกันสัปดาห์ละ 2 ครั้งในช่วงแรกนี้ เนื่องจากมีความเร่งรัดอย่างมาก เพื่อให้เสร็จสิ้นได้ใน 30 วัน โดยจะประชุมครั้งต่อไปในเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ส.ค. ที่สำนักงาน ก.พ.เดิม ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล
นายวิชา กล่าวว่า จะมีการขอสำนวนหลักฐานต่างๆ จากอัยการ โดยเฉพาะผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะทำงานตรวจสอบพิจารณาคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ของอัยการที่จะได้ข้อสรุปในวันที่ 4 ส.ค. โดยคณะกรรมการฯของเราจะเชิญฝ่ายเลขานุการของคณะทำงานตรวจสอบของอัยการมาให้ข้อมูลด้วย อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าจะยึดตามนั้นไปตลอด เพราะถ้าประเด็นเพิ่มเติมอะไรก็จะพิจารณากันอีกที รวมไปถึงสำนวนของตำรวจ ที่ สน.ทองหล่อทำมาตั้งแต่ต้น และสำนวนของอัยการที่ทำส่งไปยังศาลอาญากรุงเทพใต้ด้วย เพราะทุกสำนวนจะต้องส่งมาให้เราทั้งหมด รวมไปถึงประเด็นการเสียชีวิตของนายจารุชาติ มาดทอง พยานในคดีของนายวรยุทธ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานผลการชันสูตรศพของนายจารุชาติ ต้องรอรายงานจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และกองบังคับการปราบปราม นอกจากนี้ก็จะขอผลการประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมายกระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยจะขอมาดูให้หมด
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเชิญนายตัวนายวรยุทธมาให้ข้อมูลด้วยหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า ได้มอบหมายให้คณะทำงานชุดที่มีปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานไปแล้ว คณะทำงานชุดนี้จะเป็นผู้พิจารณาอีกทีว่าจะเชิญบุคคลใดบ้าง ดังนั้น ก็จะต้องดูว่าควรเชิญนายวรยุทธหรือไม่
เมื่อถามว่า หากอัยการสั่งไม่ฟ้องแล้ว จะมีช่องทางทำให้เป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องศึกษาก่อน ซึ่งในวันที่ 5 ส.ค. คณะกรรมการฯจะคุยกันในเรื่องข้อกฎหมายอย่างละเอียด เพราะเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้รับมอบหมายจากตนไปแล้ว
เมื่อถามว่า นายกฯมีอำนาจที่จะสั่งให้ตำรวจไปทบทวนความเห็นที่ไม่คัดค้านกรณีอัยการไม่สั่งฟ้องได้หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้ต้องดูว่าหากเสนอแล้วต้องเป็นไปได้ คือถ้าเสนอแล้วยังกั๊กอยู่ ติดอยู่ ก็ไม่เอา ย้ำว่าเสนอแล้วต้องเป็นไปได้ สิ่งที่เราเสนอจะต้องเป็นความแน่นอน จะต้องปรึกษากันอีกที
ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 15.00 น. นายวิชา กล่าวถึงกรณีที่มีหลายฝ่ายเสนอให้มีการรื้อคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 โดยนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้คณะกรรมการชุดนี้พิจารณา นายวิชา กล่าวว่า "ใช่ มีหลายฝ่ายเสนอมา"
เมื่อถามย้ำว่า หากคดีสิ้นสุดอัยการไม่สั่งฟ้องไปแล้วสามารถรื้อคดีได้หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้ยังไม่ได้พูดเลยว่าคดีสิ้นสุดแล้ว ยังไม่มีการพูดอย่างนั้น
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีมีอำนาจในการให้รื้อคดีได้หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสั่งไม่ได้อยู่แล้ว จะไปสั่งอัยการได้อย่างไร แต่นายกรัฐมนตรีสามารถมีข้อเสนอแนะได้ ส่วนการทำงานจะอยู่ภายใต้กรอบ 30 วันหรือไม่นั้น นายวิชา ย้ำว่า ยังพูดอะไรไม่ได้ และขอให้ที่ประชุมหารือกันให้เรียบร้อยก่อน
ด้าน นายมุนินทร์ พงศาปาน คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ที่ประชุมจะมีการตั้งข้อสังเกต ข้อสงสัยจากประชาชนและสังคม ซึ่งถือเป็นกรอบการทำงานหนึ่งของคณะกรรมการว่าแต่ละประเด็นจะมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจน
เมื่อถามว่าการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้จะสามารถรื้อคดีใหม่ได้หรือไม่ กล่าวว่า ขออนุญาตไม่ตอบในเรื่องนี้ เพราะคิดว่าควรให้คณะกรรมการฯ ได้มีการพูดคุยกันก่อน และหลังจากพูดคุยน่าจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะยากอะไร เพราะกฎหมายมีทางออกเสมอ เพียงแต่ผู้มีอำนาจจะนำช่องทางเหล่านั้นมาใช้หรือไม่
เมื่อถามต่อว่าอำนาจของนายกรัฐมนตรีจะสามารถไปสั่งการหรือคดีได้หรือไม่ กล่าวว่า เดาว่านายกรัฐมนตรีต้องการให้คณะกรรมการชุดนี้ทำงานโดยอิสระ เพราะตนก็เข้ามาเป็นกรรมการในฐานะนักวิชาการ ซึ่งมีนักวิชาการหลายท่านเข้ามา น่าจะมีความประสงค์ให้มีเป็นอิสระ
เมื่อถามต่อว่าประเด็นที่คณะกรรมการจะให้ความสำคัญเรื่องไหนเป็นพิเศษ นายมุนินทร์ กล่าวว่า คงไม่ได้โฟกัสประเด็นใดเป็นพิเศษ เพราะทุกประเด็นที่นำเสนอจะถูกนำมาประกอบกันให้เห็นภาพสิ่งที่สังคมสงสัย
เมื่อถามอีกว่าคณะกรรมการชุดนี้จะเป็นที่พึ่งของประชาชนได้หรือไม่ กล่าวว่า คิดว่าความตั้งใจเป็นอย่างนั้น แต่คงต้องใช้เวลาสักระยะ ส่วน 30 วันจะเพียงพอหรือไม่นั้น เชื่อว่าเพียงพอในการทำงานบางอย่าง และต้องขอย้ำว่าคณะกรรมการไม่ใช่ศาล ไม่สามารถจะชี้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อยน่าจะประเมินได้ว่าข้อสงสัยมันมีมูลหรือไม่ เพื่อเปิดทางให้มีการสอบสวนอย่างจริงจังต่อไป อย่างไรก็ตามยังมีความเป็นไปได้ที่จะเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงในรายละเอียดซึ่งคงต้องรอกรอบการทำงานก่อน
ขณะที่ช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงคณะทำงานชุดของนายวิชา ว่า คงไม่ไปก้าวล่วงอะไร เพราะตนอยู่ในอำนาจบริหาร ส่วนชุดนี้เป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้าเสนออะไรมาที่ตน หากอยู่ในกรอบที่ทำได้ก็จะทำ ต้องดูต่อว่าทำไมจึงมีฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายปฏิรูปกฎหมายเข้ามาด้วย ต้องดูว่าขั้นตอนเป็นอย่างไร ขั้นตอนทำให้เกิดปัญหาหรือไม่
เมื่อถามว่า นักวิชาการเสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจรื้อคดีจะทำได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กำลังให้คณะกรรมการฯศึกษาอยู่ว่า ตนสามารถรื้อได้หรือไม่ วันนี้อยู่ในขั้นตอนการทำให้เกิดข้อเท็จจริงว่าอยู่ในขั้นตอนไหน และดูว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ อำนาจมันคนละอำนาจกัน
ส่วนกรณีสั่งอายัดศพนายจารุชาติ มาดทอง พยานปากสำคัญคดีนี้ เพราะเห็นว่าการเสียชีวิตมีความผิดปกติหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่ฟังมาจากสื่อ สังคม ประชาชน ที่ให้ความสงสัย จึงต้องทำให้เกิดความชัดเจนเท่านั้น และในฐานะที่มีอำนาจควบคุมตำรวจ จึงสั่งตำรวจไปว่าทำได้หรือไม่ ต้องไปคุยกับญาติเขาว่าตกลงหรือไม่ เลื่อนวันเผาไปวันหน้าได้หรือไม่ เพื่อที่จะทำการผ่าศพพิสูจน์ ดูว่ามีหลักฐานอะไรหรือไม่ ถ้าไม่มีก็จบตรงนั้นไป คือ ต้องลดปัญหาต่างๆ ที่พูดกันลงมาให้ได้ด้วยข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่า คดีนี้เข้าสู่การพิจารณาเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "เดี๋ยวเขาคงพิจารณา กรรมการก็ต้องไปว่ากันมา"
เมื่อถามย้ำว่า จากกรณีที่มีข่าวนายกฯได้ติดตามมาตลอด และเห็นว่ามีข้อพิรุธเช่นกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้ติดตามข่าวนี้มาตลอด แต่ตนไม่ได้ตัดสินใจ มันอยู่ในใจอยู่ และยังพูดอะไรไม่ได้ เพราะมันเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม
ขณะที่ในวันที่ 4 ส.ค.สำนักงานอัยการสูงสุด เตรียมแถลงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะทำงานตรวจสอบการพิจารณาสั่งคดีนายวรยุทธ ณ สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ เวลา 10.00 น.
อ่านประกอบ
ทางการ! 'บิ๊กตู่'สั่งอายัดศพ'จารุชาติ'พยานคดี'บอส'ชันสูตรหาสาเหตุเสียชีวิตใหม่แล้ว
'บวรศักดิ์'จี้ชันสูตรศพพยานคดี’บอส’ให้ชัดเจน ก่อนญาติฌาปนกิจพรุ่งนี้
ตายเพราะอุบัติเหตุกะทันหัน! ‘จารุชาติ มาดทอง’ พยานปากเอก พลิกคดี ’บอส อยู่วิทยา’
ข้อมูลลับที่มา 'จารุชาติ' พยานคดี 'บอส' เคยเข้าให้การตั้งแต่ 3 วันแรกหลังเกิดเหตุแล้ว
ฉบับเต็ม! สำนวนลับอัยการสั่งไม่ฟ้อง ‘บอส อยู่วิทยา’ พยาน 2 รายใหม่ อ้างขับรถแค่ 50-60กม.
เปิดตัว 6 พยาน อัยการ-ตร.อ้างเป็นเหตุกลับคำสั่งไม่ฟ้อง 'บอส กระทิงแดง'
ตามหาพยาน 6 ปาก คดี'บอส'! อิศรา ได้คุย'สมยศ' แล้ว ยังไม่ขอตอบปมคำนวณความเร็วเฟอร์รารี่
ปฏิเสธให้สัมภาษณ์! เปิดตัว พ.ต.ท.ธนสิทธิ พยานคำนวณความเร็วเฟอร์รารี่ 177 กม./ชม. คดี 'บอส'
ให้การก่อนไปไต้หวัน! แม่ ‘จารุชาติ’ ยันลูกเป็นพยานคดี‘บอส’ เพื่อนบ้านเผยมีอาชีพขับรถรับจ้าง
ธุรกิจ 'พล.อ.ท. จักรกฤช ถนอมกุลบุตร' พยานคดี 'บอส อยู่วิทยา' เคยได้งานรัฐ 188 ล.!
เปิดอาณาจักร 62 บ.‘อยู่วิทยา’ ปี 62 ‘ที.ซี.ฟาร์มาฯ-กระทิงแดง’รายได้ 4 หมื่นล.
คำสั่งชอบหรือไม่-เหตุผลอะไร!คณะทำงานฯอัยการตั้ง 3 ประเด็นสอบปมไม่สั่งฟ้อง‘บอส อยู่วิทยา’
โชว์คำสั่ง อสส.ตั้งคณะทำงานสอบปมสั่งไม่ฟ้อง ‘บอส อยู่วิทยา’ - 'ปรเมศว์' ร่วมทีมด้วย
วงศ์สกุล'ตั้งทีม อสส.สอบปมสั่งไม่ฟ้อง‘บอส อยู่วิทยา’-'บิ๊กตู่'ไม่สบายใจ สั่งเกาะติดคดี
มูลนิธิเมาไม่ขับจี้ อสส.-ผบ.ตร.! ชี้แจงหลักการ-เหตุผลไม่สั่งฟ้อง‘วรยุทธ อยู่วิทยา’
โชว์หนังสืออัยการสั่งไม่ฟ้อง‘บอส อยู่วิทยา’ผบ.ตร.ไม่แย้ง-สตช.ยื่นศาลถอนหมายจับ
อสส. แจงอิศรายังไม่ทราบเรื่อง! ซีเอ็นเอ็น ตีข่าว 'อัยการ' ไม่สั่งฟ้อง 'บอส อยู่วิทยา'
ป.ป.ช.ฟันวินัยไม่ร้ายแรงอดีต‘ผบก.น.5-พวก’ปมช่วยเหลือ-ไม่ออกหมายจับ‘บอส กระทิงแดง’
ทายาทกระทิงแดงขอสอบพยานเพิ่มทำคดีขับชน ตร.ตายช้า! อสส.เร่งส่งฟ้องศาล
ไทม์ไลน์ทายาท‘กระทิงแดง’ขอเลื่อนพบอัยการ 7 ครั้งก่อนจ่อถูกหมายจับ?
เจาะอาณาจักรธุรกิจหมื่นล.‘อยู่วิทยา’ -‘วรยุทธ’กก. 3 บริษัทรายได้รวม 914 ล
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage