"...เหตุที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 (โดยอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้) มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 (นายวรยุทธ) ในความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 เนื่องจากได้ความจากพ.ต.ท. ธนสิทธิ แตงจั่น ในฐานะผู้ตรวจสอบความเร็วของรถยนต์ ว่าขณะเกิดเหตุ รถยนต์คันที่ผู้ต้องหาที่ 1 ขับ แล่นด้วยความเร็วเฉลี่ย 177 กม.ต่อชั่วโมง แต่ต่อมา พ.ต.ท. ธนสิทธิ แตงจั่น ในฐานะผู้ตรวจสอบความเร็วของรถยนต์ซึ่งมียศเป็นพันตำรวจโทได้ให้การอีกครั้งในวันที่ 2 มีนาคม 2559 ระบุว่าจากการคำนวณหาความเร็วโดยวิธีใหม่ ได้ความเร็วของรถยนต์ที่ผู้ต้องหาที่ 1 ขับขี่ ประมาณ 79.23 กม.ต่อชั่วโมง..."
ในรายงาน เปิดตัว 6 พยาน อัยการ-ตร.อ้างเป็นเหตุกลับคำสั่งไม่ฟ้อง 'บอส กระทิงแดง' ซึ่งเป็นชุดข้อมูลเริ่มต้นที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) มานำใช้เป็นลายแทงในการติดตามตัวพยานทั้ง 6 ราย เพื่อสอบถามยืนยันข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคำให้การในคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต เมื่อปี 2555 ที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีไปแล้วนั้น
พ.ต.ท. ธนสิทธิ แตงจั่น นับเป็นพยานสำคัญอีกปากหนึ่งในคดีนี้ ที่สำนักข่าวอิศรา พยายามติดตามตัวเพื่อขอสัมภาษณ์เป็นทางการ
เพราะบทบาทสำคัญของ พ.ต.ท. ธนสิทธิ แตงจั่น ต่อคดีนี้ คือ การยืนยันว่า นายวรยุทธ อยู่วิทยาขับรถเร็วมากกว่า 100 กม./ชม. ก่อนกลับคำให้การ-คำนวณใหม่เหลือไม่ถึง 80 กม./ชม.
โดยจากเอกสารสรุปสำนวนของอัยการที่มีทั้งสิ้น 4 หน้า ข้อมูลในหน้าที่ 3 มีใจความตอนหนึ่งระบุข้อมูลว่า เหตุที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 (โดยอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้) มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 (นายวรยุทธ) ในความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 เนื่องจากได้ความจากพ.ต.ท. ธนสิทธิ แตงจั่น ในฐานะผู้ตรวจสอบความเร็วของรถยนต์ ว่าขณะเกิดเหตุ รถยนต์คันที่ผู้ต้องหาที่ 1 ขับ แล่นด้วยความเร็วเฉลี่ย 177 กม.ต่อชั่วโมง
พ.ต.ท. ธนสิทธิ แตงจั่น ในฐานะผู้ตรวจสอบยืนยันว่าการคำนวณดังกล่าวอาจมีความคลาดเคลื่อน (จากความเร็วเฉลี่ย 177 กม.ต่อชั่วโมง) มากขึ้นหรือน้อยลง ประมาณ 17 กม.ต่อชั่วโมง ซึ่งความเร็วดังกล่าวเกินกว่าความเร็วของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่จะแล่นได้ภายในกรุงเทพมหานคร (80 กม.ต่อชั่วโมง) ตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ฉบับที่ 6 พ.ศ. 2522 ข้อ 1 (3) ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2522 ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติการจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 5 , 67 วรรคแรก
การกระทำของผู้ต้องหาที่ 1 จึงเป็นการกระทำโดยประมาท ปราศจากความระมัดระวังในการขับรถ
แต่ต่อมา พ.ต.ท. ธนสิทธิ แตงจั่น ในฐานะผู้ตรวจสอบความเร็วของรถยนต์ซึ่งมียศเป็นพันตำรวจโทได้ให้การอีกครั้งในวันที่ 2 มีนาคม 2559 ระบุว่าจากการคำนวณหาความเร็วโดยวิธีใหม่ ได้ความเร็วของรถยนต์ที่ผู้ต้องหาที่ 1 ขับขี่ ประมาณ 79.23 กม.ต่อชั่วโมง (ดูเอกสารประกอบ)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2563 สำนักข่าวอิศรา สามารถติดต่อ พ.ต.ท. ธนสิทธิ แตงจั่น เพื่อขอสัมภาษณ์เป็นทางการได้แล้ว
อย่างไรก็ดี เมื่อผู้สื่อข่าวแนะนำตัวว่ามาจาก สำนักข่าวอิศรา
พ.ต.ท.ธนสิทธิ แตงจั่น รีบตอบว่า “ผมคุยอะไรไม่ได้ ผมยังทำธุระอยู่ครับ”
เมื่อผู้สื่อข่าวแจ้งว่า ขอสอบถามเรื่องการคำนวณความเร็วรถนายวรยุทธที่เคยคำนวณความเร็วได้ 177 กม.ต่อชั่วโมง
พ.ต.ท.ธนสิทธิ แตงจั่น ตอบกลับมาว่า “ตอนนี้ยังไม่สะดวกเลยครับ” แล้วสายก็ถูกตัดทิ้งไปทันที
ทั้งหมดนี่ คือ ท่าทีล่าสุดของ พ.ต.ท.ธนสิทธิ แตงจั่น
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในทีมของ พ.ต.ท.ธนสิทธิ แตงจั่น ซึ่งมี ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมเป็นหนึ่งในทีมคำนวณและมีการปรากฏข้อมูลผลการคำนวณของอาจารย์สธนเผยแพร่สู่สาธารณะในโลกออนไลน์ ว่าสอดคล้องกับที่ พ.ต.ธ.ธนสิทธิ ระบุถึงความเร็วในครั้งแรก คือ 177 กม.ต่อชั่วโมง คลาดเคลื่อนบวกลบ 17 กม.ต่อชั่วโมง
ทว่า กลับไม่มีเอกสารระบุผลการคำนวณนี้ปรากฏหรือถูกเอ่ยถึงในสำนวนคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการแต่อย่างใด
นอกจากนี้ เมื่อผลการคำนวณของ พ.ต.ท.ธนสิทธิ ได้ผลลัพธ์ออกมา 177 กม.ต่อชั่วโมง ขณะที่ทีมของผู้เชี่ยวชาญอีกราย ได้ผลลัพธ์การคำนวณออกมาต่ำกว่า 80 กม.ต่อชั่วโมง พ.ต.ท.ธนสิทธิ (ซึ่งในขณะการคำนวณครั้งแรกนั้น มียศ พ.ต.ต.) จึงรู้สึกกดดันต่อผลการคำนวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์พยานในคดีนี้หลายราย เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงการให้ปากคำในคดีนี้เป็นทางการ สามารถสรุปข้อมูลได้ดังนี้
พ.ต.ท.สมยศ แอบเนียม พยานผู้เชี่ยวชาญที่ตรวจดูสภาพความเสียหายของรถทั้งสองคัน เปรียบเทียบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการเฉี่ยวชนในคดีอื่น แล้วให้การประเมินความเร็วของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของนายวรยุทธที่ขับขี่ขณะเกิดเหตุชนรถจักรยานยนต์ของดาบตำรวจวิเชียร ว่าไม่ใช่ความเร็วประมาณ 170 กม.ต่อชั่วโมง
โดยเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถาม พ.ต.ท.สมยศ ถึงวิธีการประเมินและคำนวณความเร็วรถยนต์ที่นายวรยุทธขับขี่ขณะชนดาบตำรวจวิเชียร ว่า เหตุใดจึงไม่ใช่ความเร็วที่ประมาณ 170 กม.ต่อชั่วโมง อยากทราบว่ามีการคำนวณความเร็วอย่างไร
พ.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า “ตอนนี้ยังไม่อยากตอบอะไรเลย จะขอฟังดูว่าอัยการว่าจะว่ายังไง ตอนนี้ยังไม่ให้ข่าวใคร ต้องขอร้องจริงๆ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ไม่ให้คำตอบเพราะต้องรอดูว่าอัยการจะรื้อสำนวนคดีใหม่หรือไม่ใช่ไหม พ.ต.ท.สมยศ ยอมรับว่าใช่
ก่อนจะบอกว่า “เดี๋ยวผมตอบไปแล้วไปค้านกันอีก ตอบไม่ได้ ต้องขออนุญาตไม่ตอบ”
(อ่านประกอบ : ตามหาพยาน 6 ปาก คดี'บอส'! อิศรา ได้คุย'สมยศ' แล้ว ยังไม่ขอตอบปมคำนวณความเร็วเฟอร์รารี่)
พันตำรวจโทสุรพล เดชรัตนวิชัย ผู้เปรียบเทียบความเสียหายรถจากคดีเฉี่ยวชนอื่น ยืนยันไม่ใช่ความเร็ว 170 กม./ชม.
สำนักข่าวอิศรา พยายามติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้
รศ.ดร. สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ชี้ ความเร็วรถประมาณ 76.175 กม./ชม. ยังไม่สามารถติดต่อได้เช่นกัน
ส่วนพยานสำคัญ อีก 2 ราย คือ พลอากาศโทจักรกฤช ถนอมกุลบุตร และ นายจารุชาติ มาดทอง ที่ให้การเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ปี 62 อ้างเห็นเหตุการณ์ ยืนยันว่านายวรยุทธขับรถด้วยความเร็ว 50-60 กม./ชม. นั้น
ในส่วนของนายจารุชาติ มาดทอง สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า เสียชีวิตกะทันหันจากเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกัน จุดเกิดอุบัติ อยู่ในพื้นที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ถนนห้วยแก้ว-แยกฟ้าธานี เมื่อเวลา 01:00 น.ของวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี มารดาของนายจารุชาติ ให้ข้อมูลยืนยันกับสำนักข่าวอิศราว่า ทราบเรื่องที่นายจารุชาติ มาดทอง ไปเป็นพยานในคดีดาบตำรวจเสียชีวิต เพราะนายจารุชาติเคยเล่าให้ฟังว่าไปเป็นพยานคดีรถชน
เมื่อถามว่า นายจารุชาติเล่ารายละเอียดของคดีให้ฟังหรือไม่ มารดานายจารุชาติตอบว่า “ไม่รู้รายละเอียด เขาบอกแค่ว่าเป็นพยานคดีรถชน เขาเล่าตอนก่อนที่จะไปทำงานเมืองนอก ก่อนไปทำงานที่ไต้หวัน แต่แม่ก็จำไม่ได้แล้ว จำได้ว่าไปไต้หวันหลังจากที่เป็นพยาน”
ขณะที่ เพื่อนบ้านของนายจารุชาติ ให้ข้อมูลยืนยันว่าก่อนหน้าที่จะเสียชีวิต นายจารุชาติ ทำงานรับจ้างไปเรื่อยๆ "เท่าที่รู้ นายจารุชาติขับรถรับจ้างอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ และที่ผ่านมาทำงานรับจ้างๆ ต่าง ๆ ใครจ้างอะไรก็ไป"
(อ่านประกอบ : ตายเพราะอุบัติเหตุกะทันหัน! ‘จารุชาติ มาดทอง’ พยานปากเอก พลิกคดี ’บอส อยู่วิทยา’)
ส่วน พลอากาศโทจักรกฤช ถนอมกุลบุตร นั้น สำนักข่าวอิศราสืบค้นข้อมูลหนังสือทำเนียบ นักเรียนนายเรืออากาศรุ่น 20 ระบุข้อมูล พลอากาศโทจักรกฤช ถนอมกุลบุตร ว่า ใช้ยศ พลอากาศตรี แจ้งที่อยู่เลขที่ 126 ซ.พหลโยธิน 19/1 ถ.พหลโยธิน ลาดยาว จัตุจักร
นอกจากนี้ สำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบว่า พลอากาศโทจักรกฤช ปรากฏชื่อเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นบริษัท พระพิราพ จำกัด ด้วย โดยพบว่านับตั้งแต่ช่วงปี 2557-2561 บริษัท พระพิราพ จำกัด ปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญา จ้างบริการรถรับ-ส่ง ลูกเรือ พนักงาน ของบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ในช่วงปี 59-60 จำนวน 3 สัญญา มูลค่างานหลายร้อยล้านบาท และยังเป็นคู่สัญญาจัดซื้อรถกันกระสุน ให้กับหน่วยงานตรวจสอบภาครัฐหลายแห่งด้วย รวมวงเงินทั้งสิ้น 188,414,240 บาท
จากการสืบค้นข้อมูลพบว่า พล.อ.ท. จักรกฤช ถนอมกุลบุตร ยังปรากฎชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นบริษัทเอกชนอีก 3 แห่ง (เท่าที่ตรวจสอบพบ) ได้แก่ 1. บริษัท คิง อาร์เมอร์ จำกัด 2. บริษัท มิสเตอร์สมูท จำกัด 3. บริษัท กรีน เวิลด์ ฮาลาล ฟู๊ด จำกัด
แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถติดต่อได้เช่นกัน
(อ่านประกอบ : ธุรกิจ 'พล.อ.ท. จักรกฤช ถนอมกุลบุตร' พยานคดี 'บอส อยู่วิทยา' เคยได้งานรัฐ 188 ล.!)
ทั้งหมดนี่ คือ ความคืบหน้าในการติดตามตัวพยานทั้ง 6 ราย เพื่อสอบถามยืนยันข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคำให้การในคดีนี้ ของสำนักข่าวอิศรา ในช่วงที่ผ่านมา
อนึ่ง หากพยานทั้งหมด ได้รับทราบข่าว และมีความประสงค์อยากชี้แจง สามารถติดต่อมายังสำนักข่าวอิศราได้ทางอีเมล์ [email protected] หรือเบอร์โทรศัพท์ 0-2241-3160 ตลอดเวลา
หมายเหตุ : ภาพประกอบเรื่องจาก www.news.thaipbs.or.th และ ไทยรัฐออนไลน์
อ่านประกอบ
ตายเพราะอุบัติเหตุกะทันหัน! ‘จารุชาติ มาดทอง’ พยานปากเอก พลิกคดี ’บอส อยู่วิทยา’
ให้การก่อนไปไต้หวัน! แม่ ‘จารุชาติ’ ยันลูกเป็นพยานคดี‘บอส’ เพื่อนบ้านเผยมีอาชีพขับรถรับจ้าง
ข้อมูลลับที่มา 'จารุชาติ' พยานคดี 'บอส' เคยเข้าให้การตั้งแต่ 3 วันแรกหลังเกิดเหตุแล้ว
ธุรกิจ 'พล.อ.ท. จักรกฤช ถนอมกุลบุตร' พยานคดี 'บอส อยู่วิทยา' เคยได้งานรัฐ 188 ล.!
เปิดอาณาจักร 62 บ.‘อยู่วิทยา’ ปี 62 ‘ที.ซี.ฟาร์มาฯ-กระทิงแดง’รายได้ 4 หมื่นล.
คำสั่งชอบหรือไม่-เหตุผลอะไร!คณะทำงานฯอัยการตั้ง 3 ประเด็นสอบปมไม่สั่งฟ้อง‘บอส อยู่วิทยา’
โชว์คำสั่ง อสส.ตั้งคณะทำงานสอบปมสั่งไม่ฟ้อง ‘บอส อยู่วิทยา’ - 'ปรเมศว์' ร่วมทีมด้วย
วงศ์สกุล'ตั้งทีม อสส.สอบปมสั่งไม่ฟ้อง‘บอส อยู่วิทยา’-'บิ๊กตู่'ไม่สบายใจ สั่งเกาะติดคดี
มูลนิธิเมาไม่ขับจี้ อสส.-ผบ.ตร.! ชี้แจงหลักการ-เหตุผลไม่สั่งฟ้อง‘วรยุทธ อยู่วิทยา’
โชว์หนังสืออัยการสั่งไม่ฟ้อง‘บอส อยู่วิทยา’ผบ.ตร.ไม่แย้ง-สตช.ยื่นศาลถอนหมายจับ
อสส. แจงอิศรายังไม่ทราบเรื่อง! ซีเอ็นเอ็น ตีข่าว 'อัยการ' ไม่สั่งฟ้อง 'บอส อยู่วิทยา'
ป.ป.ช.ฟันวินัยไม่ร้ายแรงอดีต‘ผบก.น.5-พวก’ปมช่วยเหลือ-ไม่ออกหมายจับ‘บอส กระทิงแดง’
ทายาทกระทิงแดงขอสอบพยานเพิ่มทำคดีขับชน ตร.ตายช้า! อสส.เร่งส่งฟ้องศาล
ไทม์ไลน์ทายาท‘กระทิงแดง’ขอเลื่อนพบอัยการ 7 ครั้งก่อนจ่อถูกหมายจับ?
เจาะอาณาจักรธุรกิจหมื่นล.‘อยู่วิทยา’ -‘วรยุทธ’กก. 3 บริษัทรายได้รวม 914 ล
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/