"...มติ กสทช. ครั้งที่ 3/2557 วันที่ 19 มีนาคม 2557 มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบตามผลการพิจารณาของ กสท. ว่าสัญญาที่ บมจ.อสมท ให้ บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด ใช้คลื่นความถี่ระบบ MMDS เพื่อให้บริการโทรทัศน์บนเทคโนโลยีแบบบรอดแบนด์ไร้สาย (BWA) เป็นการให้บริการโทรทัศน์ประเภทอื่นนอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาตอยู่เดิม จึงเป็นการประกอบกิจการโทรทัศน์ขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะต้องได้รับอนุญาตจาก กสทช. ตามกฎหมาย ดังนั้น การกระทำดังกล่าวจึงถือเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย..."
"ปัจจุบันได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว โดยมีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบ และให้รายงานกลับมาภายใน 15 วัน พร้อมกันนั้น ยังได้มีจดหมายไปถึงพล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ประธานบอร์ด อสมท ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดอีกครั้ง โดยเรื่องนี้นายกฯกำชับว่า ต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ"
"จากข้อมูลการร้องเรียนและข้อเท็จจริงต่างๆ ขณะนี้ยังไม่สามารถพูดได้ว่ามีความไม่ชอบมาพากล ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร ที่สำคัญมีบอร์ดหลายคนทำหนังสือทักท้วงไปถึงประธานบอร์ดว่า ผู้อำนวยการ อสมท ไม่มีอำนาจทำจดหมายไปถึง กสทช.ให้แบ่งเงิน 50 ต่อ 50 ระหว่าง อสมท.กับ เพลย์เวิร์ค ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน เป็นการไม่รักษาผลประโยชน์ของ อสมท และประเทศชาติ ซึ่งบอร์ดหลายคนไม่สบายใจและลาออกไป"
คือ ความเคลื่อนไหวล่าสุด ต่อกรณีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการจัดสรรเงินเยียวยา 3,235 ล้านบาท ให้กับบริษัท อสมท และบริษัท เพลย์เวิร์ค จํากัด ซึ่งได้รับผลกระทบจากการเรียกคืนคลื่น 2600 MHz ในสัดส่วน 50 ต่อ 50 จากปากคำให้สัมภาษณ์ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)
ผลการตรวจสอบเรื่องนี้ บรรทัดสุดท้ายเป็นอย่างไร คงต้องรอดูกันต่อไป
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สืบค้นฐานข้อมูลในโลกออนไลน์ พบว่าในเว็บไซต์ www.supinya.com ของ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ อดีตกรรมการ กสทช. เคยมีการนำเสนอข้อมูล มติ กสทช. เกี่ยวกับการทำสัญญาใช้คลื่นความถี่ ระบบ MMDS ระหว่างบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด
ซึ่งมีประเด็นสำคัญอยู่ที่มติ กสทช. ครั้งที่ 3/2557 วันที่ 19 มีนาคม 2557 มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ว่า สัญญาที่ บมจ.อสมท ให้ บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด ใช้คลื่นความถี่ระบบ MMDS เพื่อให้บริการโทรทัศน์บนเทคโนโลยีแบบบรอดแบนด์ไร้สาย (BWA) เป็นการให้บริการโทรทัศน์ประเภทอื่นนอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาตอยู่เดิม จึงเป็นการประกอบกิจการโทรทัศน์ขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะต้องได้รับอนุญาตจาก กสทช. ตามกฎหมาย
ดังนั้น การกระทำดังกล่าวจึงถือเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
แต่กรณีดังกล่าว อสมท. ได้ทำหนังสือขอความเป็นธรรม ชี้แจงข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพิ่มเติม และโต้แย้งคัดค้านคําสั่ง กสท.เข้ามา
จากนั้น กสทช. ได้มีการประชุมและลงมติ นัดพิเศษ ครั้งที่ 9/2557 วันที่ 1 กันยายน 2558 และเสียงข้างมาก เห็นชอบให้ยกเลิกมติที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 3/2557 วาระที่ 5.1.2 เรื่อง รายงานผลการพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของสัญญาทางธุรกิจเกี่ยวกับกิจการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกบนคลื่นความถี่ MMDS ระหว่าง บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด ดังกล่าว
ปรากฎข้อมูลรายละเอียดดังต่อไปนี้
มติ กสท. ครั้งที่ 4/2557 วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557
กสท. มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการจัดทำมาตรฐานด้านเทคนิคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ คณะอนุกรรมการพิจารณาสัญญาสัมปทานด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ คณะอนุกรรมการพิจารณาความจำเป็นการใช้คลื่นความถี่ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และสำนักงาน กสทช.
โดยเห็นว่า (4) กรณีที่บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ขออนุญาตนำเข้าอุปกรณ์เพื่อการทดลองและทดสอบสำหรับให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิก บนคลื่นความถี่ MMDS ด้วยเทคโนโลยี BWA ถือเป็นการขออนุญาตเพื่อการทดลองหรือทดสอบสำหรับให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิก ซึ่งจะต้องพิจารณาอนุญาตตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์เพื่อการทดลองหรือทดสอบเป็นการชั่วคราว ซึ่งกำหนดให้ต้องใช้คลื่นความถี่ตามแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ และตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติ
ดังนั้น เมื่อคลื่นความถี่ 2500–2690 MHz ถูกกำหนดตามแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ และตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติให้ใช้ในกิจการโทรคมนาคม กสท. จึงไม่อนุญาตให้ทดลองและนำเข้าอุปกรณ์เพื่อการทดลองหรือทดสอบสำหรับการให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิกบนคลื่นความถี่ MMDS ด้วยเทคโนโลยี BWA ตามที่ขอ
มติ กสท. ครั้งที่ 5/2557 วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557
ได้พิจารณารายงานผลการพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของสัญญาทางธุรกิจเกี่ยวกับกิจการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกบนคลื่นความถี่ MMDS ระหว่างบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด คณะอนุกรรมการพิจารณาสัญญาสัมปทานด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เป็นผู้พิจารณากลั่นกรองและเสนอความเห็น
และกสท. มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบข้อเสนอของคณะอนุกรรมการ โดยเห็นว่า (1.1) สัญญาที่ บมจ.อสมท ให้ บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด ใช้คลื่นความถี่ระบบ MMDS เพื่อให้บริการโทรทัศน์บนเทคโนโลยีแบบบรอดแบนด์ไร้สาย (BWA) เป็นการให้บริการโทรทัศน์ประเภทอื่นนอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาตอยู่เดิม จึงเป็นการประกอบกิจการโทรทัศน์ขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะต้องได้รับอนุญาตจาก กสทช. ตามกฎหมาย
ดังนั้น การกระทำดังกล่าวจึงถือเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
มติ กสทช. ครั้งที่ 3/2557 วันที่ 19 มีนาคม 2557
ได้พิจารณารายงานผลการพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของสัญญาทางธุรกิจเกี่ยวกับกิจการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกบนคลื่นความถี่ MMDS ระหว่างบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด ตามที่ กสท. เสนอ และ กสทช. มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบตามผลการพิจารณาของ กสท. ที่มีต่อผลการพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของสัญญาทางธุรกิจเกี่ยวกับกิจการโทรทัศน์ ระบบบอกรับสมาชิกบนคลื่นความถี่ MMDS ระหว่างบริษัท อสมท จํากัด (มหาชน) กับ บริษัท เพลย์เวิร์ค จํากัด
ทั้งนี้ กสทช. นายประวิทย์ฯ มี (3) ประเด็นข้อสังเกตของคณะอนุกรรมการฯที่ว่า ต่อไปจะมีการนําเทคโนโลยีของกิจการหนึ่งไปให้บริการในอีกกิจการหนึ่ง ซึ่งก่อให้เกิดโจทย์ในการกํากับดูแล ผมเห็นว่าเป็นประเด็นสําคัญที่ควรจะต้องหารือกันต่อไป
มติ กสท. ครั้งที่ 11/2557 วันที่ 24 มีนาคม 2557 ได้พิจารณาหนังสือร้องขอความเป็นธรรมให้เร่งรัดพิจารณา และให้รับข้อมูลพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องไว้เพื่อประกอบการพิจารณาของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ซึ่ง กสท. มีมติเป็นเอกฉันท์ (1) เห็นชอบแนวทางการพิจารณาหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของบริษัท อสมท. จำกัด ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ (2) ให้เสนอต่อที่ประชุม กสทช. เพื่อขอความเห็นชอบต่อไป
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการพิจารณาสัญญาสัมปทานด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าไม่มีข้อเท็จจริงใหม่ที่จะทำให้ผลการพิจารณาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
มติ กสทช. ครั้งที่ 4/2557 วันที่ 23 เมษายน 2557 กสทช. มีมติเป็นเอกฉันท์ ในการพิจารณาหนังสือร้องขอความเป็นธรรมให้เร่งรัดพิจารณา และให้รับข้อมูลพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องไว้เพื่อประกอบการพิจารณาของบริษัท อสมท จํากัด (มหาชน) ที่ประชุมมีมติรับทราบผลการพิจารณาของ กสท. ต่อกรณีการพิจารณาหนังสือร้องขอความเป็นธรรมให้เร่งรัดพิจารณาฯ ตามที่รองประธาน กสทช. (พันเอกดร. นทีฯ) เสนอ ทั้งนี้ ให้สํานักงาน กสทช.ไปพิจารณาดําเนินการ ให้ครบถ้วน ตามขั้นตอนกระบวนการที่กฎหมายกําหนดและนําเสนอที่ประชุม กสทช.พิจารณาต่อไป
มติ กสท. ครั้งที่ 36/2557 วันที่ 1 กันยายน 2557 กสท. มีมติเป็นเอกฉันท์ ในการพิจารณาหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) จำนวน 5 ฉบับ มติที่ประชุม (1.) เห็นชอบผลการพิจารณาหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) จำนวน 5 ฉบับ ตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาสัญญาสัมปทานด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการ โทรทัศน์ และสำนักงาน กสทช. เสนอ
(2.) มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. นำเสนอต่อที่ประชุมกสทช. เพื่อพิจารณาต่อไป
หมายเหตุ กสทช. ผศ.ดร. ธวัชชัย จิตรภาษนันท์ มีความเห็นให้ตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวขึ้นอีกหนึ่งคณะ โดยให้มีองค์ประกอบเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี และด้านกฎหมาย
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการพิจารณาสัญญาสัมปทานฯ และสำนักงาน กสทช. เสนอความเห็นว่า การทำสัญญาร่วมดำเนินธุรกิจระหว่างบริษัท อสมทฯ ให้ บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด ดำเนินการในระบบ BWA ถือเป็นการกระทำที่นอกเหนือจากเงื่อนไขที่บริษัท อสมทฯ ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกในระบบ MMDS เท่านั้น
ประกอบกับการทำสัญญาร่วมดำเนินธุรกิจดังกล่าว มีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนอย่างหนึ่งซึ่งมิใช้สัญญาจ้างทำของ อีกทั้งเป็นการมอบหมายให้บริษัทเพลย์เวิร์คฯ เป็นผู้ประกอบกิจการแทน บริษัท อสมทฯ อันจะต้องได้รับอนุญาตจาก กสทช. ตามกฎหมายก่อน
ดังนั้น การทำสัญญาจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ได้รับความคุ้มครองให้ได้รับสิทธิในการประกอบกิจการดังกล่าวต่อไป ตามมาตรา 74 และมาตรา 75 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการฯ พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 82 และมาตรา 83 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553
มติ กสทช. ครั้งที่ 9/2557 วันที่ 17 กันยายน 2557 กสทช. มีมติเสียงข้างมาก ในการพิจารณาหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) จำนวน 5 ฉบับ โดย (1.) รับทราบผลการพิจารณาของ กสท. ต่อหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของ บริษัท อสมท จํากัด (มหาชน) จํานวน 5 ฉบับ ตามที่สํานักงาน กสทช. เสนอ
(2.) เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะทํางานที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและกฎหมาย เพื่อพิจารณาหนังสือร้องเรียนดังกล่าว โดยให้มีองค์ประกอบ ประกอบด้วย ผู้แทนสํานักงานอัยการสูงสุด ผู้แทนสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และ ผู้แทน กสท. / กทค. ผู้แทนสํานักงาน กสทช. ด้านบริหารงานคลื่นความถี่ด้าน ละ 2 คน ทั้งนี้ให้คณะทํางานฯ มีวาระการปฏิบัติหน้าที่ 3 เดือน ตามที่เลขาธิการ กสทช. เสนอ
สําหรับผู้แทนจากหน่วยงานภายนอกที่จะแต่งตั้ง จะต้องไม่เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติต้องห้ามที่มีส่วนได้เสียหรือมีผลประโยชน์ขัดแย้ง กับการปฏิบัติหน้าที่ในตําแหน่งผู้ทํางาน (Conflict of Interest)
ทั้งนี้ ประวิทย์ฯ มีบันทึกที่ สทช.1003.10/797 ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2557 ขอให้บันทึกความเห็นไว้ในหมายเหตุท้ายรายงานการประชุม กสทช. ครั้งที่ 9/2557 ดังนี้
1. เนื่องจากต้นเรื่องของกรณีนี้เป็นการพิจารณาความชอบด้วยกฎหมาย ของสัญญาทางธุรกิจเกี่ยวกับกิจการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกบน คลื่นความถี่ MMDS ระหว่าง บมจ. อสมท. กับ บจ. เพลย์เวิร์ค ซึ่งได้มี การดําเนินการตามมาตรา 82 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่น ความถี่ฯ พ.ศ.2553 โดยกรณีได้ผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการ พิจารณาสัญญาสัมปทานด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ในเบื้องต้น
และผลการพิจารณาของอนุกรรมการได้รับความเห็นชอบจาก กสท. และ กสทช. แล้วตามลําดับ (การประชุม กสท. ครั้งที่ 5/2557 วันที่ 10 กุมภาพันธ์2557, การประชุม กสทช. ครั้งที่ 3/2557 วันที่ 19 มีนาคม 2557)
การที่ บมจ. อสมท. มีหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ กสทช. จึงต้องพิจารณาสถานะทางกฎหมายของกระบวนการดังกล่าวนี้ว่า คืออะไร เข้าข่ายเป็นการอุทธรณ์หรือเป็นการขอให้พิจารณาใหม่ หรือไม่ อย่างไร และ กสทช. มีหน้าที่จะต้องปฏิบัติอย่างไร เพื่อเป็นไป ตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
2.หากการมีหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของ บมจ. อสมท. เข้าข่ายเป็นการอุทธรณ์หรือการขอให้พิจารณาใหม่ก็ตาม ยังมีประเด็นสําคัญที่ต้อง พิจารณาก่อนว่า การใช้อํานาจทางปกครองในกรณีที่เป็นเหตุแห่งการ ร้องเรียนนั้น (การตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมายของสัญญาฯ) ถือว่าเป็นการใช้อํานาจของ กสท. หรือ กสทช. และอํานาจถือเป็นที่สุด ที่คณะกรรมการชุดใด กสท. หรือ กสทช. เนื่องจากในทางปฏิบัติ สําหรับทางฝั่ง กทค. นั้นถือว่าอํานาจในเรื่องดังกล่าวเป็นที่สุดที่กทค.
ทั้งนี้ ตามแนวปฏิบัติการดําเนินงานของ กสทช. ที่ผ่านมา หากการใช้อํานาจเป็นที่สุดในระดับ กสท. หรือ กทค. ในชั้น กสทช. ก็จะไม่แทรกแซงการใช้อํานาจนั้น แต่ประเด็นนี้ก็ยังอาจต้องทบทวนว่าตามหลัก ที่ชอบด้วยกฎหมายนั้นเป็นเช่นไร
3.อนึ่ง ข้อเท็จจริงในกรณีการร้องขอความเป็นธรรมของ บมจ. อสมท. นี้ คือ ที่ประชุม กสท. ได้เคยพิจารณาหนังสือฉบับแรกของบริษัทฯ แล้ว ในการประชุมครั้งที่ 11/2557 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2557 และ ที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 4/2557 เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2557 ได้เคยมีมติรับทราบผลการพิจารณาของ กสท. ในเรื่องดังกล่าวด้วย พร้อมทั้งมอบหมายให้สํานักงาน กสทช. ไปพิจารณาดําเนินการให้ครบถ้วนตาม กระบวนการทางกฎหมาย และนําเสนอที่ประชุม กสทช. พิจารณา อีกครั้ง
ส่วนในการนําเสนอเรื่องกลับมา กสทช. ครั้งนี้ ก็เป็นกรณีที่หนังสือขอความเป็นธรรมของ บมจ. อสมท. ทั้ง 5 ฉบับ ได้ผ่านการพิจารณาของที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาสัญญาสัมปทานด้าน กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แล้ว โดยที่มีการเชิญผู้แทนบริษัทฯ มาชี้แจงด้วย (การประชุมครั้งที่ 11/2557 เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2557)
และที่ประชุม กสท. ครั้งที่ 36/2557 เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2557 ก็ได้มีมติเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการดังกล่าว โดยรวมจึงต้องพิจารณาด้วยว่า กระบวนการพิจารณาการร้อง ขอความเป็นธรรมของ บมจ. อสมท. ถือว่าดําเนินการครบถ้วนหรือยัง ซึ่งสัมพันธ์กับประเด็นว่าเป็นอํานาจการพิจารณาของใคร ตามข้อ 2.
4. อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตามเอกสารประกอบวาระที่สํานักงาน กสทช. เสนอให้กสทช. พิจารณาในครั้งนี้ไม่มีการนําเสนอข้อเท็จจริงและ ข้อวิเคราะห์ที่ชัดเจนในประเด็นต่างๆ ดังที่กล่าวไว้ในข้อ 1. และ 2. ข้างต้น ผมจึงเห็นว่า แม้จะเลือกแนวทางการแต่งตั้งคณะทํางานขึ้น พิจารณาเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังมีความจําเป็นต้องพิจารณาประเด็นที่ สําคัญเหล่านี้ก่อนเป็นเบื้องต้น และต้องดําเนินกระบวนการให้ถูกต้อง ครบถ้วน เพื่อไม่เป็นเหตุแห่งการร้องเรียนหรือฟ้องร้องได้อีก
อนึ่ง ได้มีบันทึกที่ สทช.1003.9/221 ลงวันที่ 3 ตุลาคม 2557 ขอให้บันทึกความเห็นไว้ในหมายเหตุท้ายรายงานการประชุม กสทช. ครั้งที่ 9/2557 ยืนยันตามความเห็นตามมติที่เคยเห็นชอบในการพิจารณาชั้นการประชุม กสท. ครั้งที่ 36/2557 วันที่ 1 กันยายน 2557 ที่เห็นชอบผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพิจารณาสัญญาสัมปทานฯ
มติ กสทช. นัดพิเศษ ครั้งที่ 9/2557 วันที่ 1 กันยายน 2558 กสทช.
มีมติเสียงข้างมาก พิจารณารายงานผลการพิจารณาการร้องขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับการประกอบกิจการโทรทัศน์ของบริษัท อสมท จํากัด (มหาชน) จํานวน 5 ฉบับ มีมติ
1.รับทราบรายงานผลการพิจารณาการร้องขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับการประกอบกิจการโทรทัศน์ของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) จำนวน 5 ฉบับ ของคณะทำงานพิจารณาการร้องขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับการประกอบกิจการโทรทัศน์ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ
2. ที่ประชุมเสียงข้างมาก (ประธาน กสทช. รองประธาน กสทช. (พันเอก ดร. เศรษฐพงค์ฯ กสทช. พลโท ดร. พีระพงษ์ฯ กสทช. พันตำรวจเอก ทวีศักดิ์ฯ กสทช. รศ. ดร. ประเสริฐฯ กสทช. ผศ. ดร. ธวัชชัยฯ และ กสทช. พลเอก สุกิจฯ)
มีมติเห็นชอบให้ทบทวนมติที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 3/2557 วาระที่ 5.1.2 เรื่อง รายงานผลการพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของสัญญาทางธุรกิจเกี่ยวกับกิจการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกบนคลื่นความถี่ MMDS ระหว่าง บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด ทั้งนี้ตามข้อ 45 ของระเบียบ กสทช. ว่าด้วยข้อบังคับการประชุม กสทช. พ.ศ. 2555
ที่ประชุมเสียงข้างน้อย (รองประธาน กสทช. (พันเอก ดร. นทีฯ) กสทช. สุภิญญาฯ และ กสทช. ประวิทย์ฯ) มีมติไม่เห็นชอบให้ทบทวนมติที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 3/2557 วาระที่ 5.1.2 ดังกล่าวข้างต้น อนึ่ง รองประธาน กสทช. (พันเอก ดร. นทีฯ) กสทช.ประวิทย์ฯ และ กสทช.สุภิญญาฯ แจ้งว่าขอสงวนความเห็น โดยจะจัดทําบันทึกส่งให้ในภายหลัง
3. ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ยกเลิกมติที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 3/2557 วาระที่ 5.1.2 เรื่อง รายงานผลการพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของสัญญาทางธุรกิจเกี่ยวกับกิจการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกบนคลื่นความถี่ MMDS ระหว่าง บริษัม อสมท จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด
อนึ่ง กสทช. ประวิทย์ฯ ของดออกเสียงในการพิจารณาเรื่องการยกเลิกมติที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 3/2557 วาระที่ 5.1.2
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบรายงานการประชุม กสทช. ครั้งที่ 3/2557 พบว่า มีวาระการพิจารณา รายงานผลการพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของสัญญาทางธุรกิจเกี่ยวกับกิจการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกบนคลื่นความถี่ MMDS ระหว่าง บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด อยู่จริง
และมีความเห็นเพิ่มเติม จากนายสุทธิพล ทวีชัยการ อดีต กสทช. ที่เห็นควรให้ กสทช. มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ก่อน ที่จะลงมติใดๆ เพื่อความเป็นธรรมแก่ อสมท หลังจากที่ทำหนังสือขอความเป็นธรรมเข้ามาให้พิจารณา
(https://www.nbtc.go.th/Information/cabinet/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1-%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%97%E0%B8%8A/%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1-%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%97%E0%B8%8A-2557/3-2557.aspx)
สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ อดีตกรรมการ กสทช. เพื่อตรวจสอบข้อมูลมติ กสทช.ดังกล่าว
เบื้องต้น นางสาวสุภิญญา ระบุว่าขอไปรวบรวมข้อมูลก่อน และจะให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา เป็นทางการอีกครั้ง
อ่านประกอบ :
ตั้งกก.สอบข้อเท็จจริง! ปมแบ่งเงินเยียวยา ‘อสมท-เพลย์เวิร์ค’ 3.2 พันล.-'เทวัญ' ให้เวลา 15 วัน
แจงยิบปมเยียวยาคลื่น 2600! อนุกรรมการฯยึดบรรทัดฐานคลื่น 700-ยัน ‘อสมท’ ได้เปรียบ
เปิดตัว บ.เพลย์เวิร์คฯ ได้รับเงินเยียวยาคลื่นจาก 'กสทช.- อสมท' 1.6 พันล.
อาจใช้อำนาจมิชอบ! 'ปาริชาต'ท้วง’เขมทัตต์'ชง กสทช.แบ่งเงิน 1.6 พันล.ให้ ‘เพลย์เวิร์ค’
ยันรักษาผลประโยชน์ อสมท! ‘เขมทัตต์’ แจงปมแบ่งเงินเยียวยาคลื่น 2600 ให้คู่สัญญา
เยียวยาคลื่น 2600! กสทช.จ่ายชดเชย 'อสมท' 3.2 พันล. แบ่ง 'เพลย์เวิร์ค' 50%
‘พล.ต.ท.จตุพล’กก.อสมท ทรัพย์สิน 95 ล.รายได้ 58 ล.-‘พสุ’พ้นปลัดอุตฯเดือนเศษเพิ่ม 14 ล.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/