‘ศรีสุวรรณ’ โชว์หลักฐาน บี้ สตง.สอบ กฟผ. ปมจัดซื้อรถเข็นใช้ในแผนงานโครงการต่าง ๆ ถูกตั้งข้อสังเกตเหมือน ‘รถเข็นผัก’ ตกคันละ 1.5 แสนบาทเศษ ชี้เป็นปัญหาใต้พรม จี้ให้มีการสอบจริงจัง
เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2563 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีประชาชนจำนวนมากออกมาเปิดเผยและร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาค่าไฟฟ้าแพงมากในรอบบิลที่ผ่านมา กลายเป็นประเด็นปัญหาซ้ำเติมประชาชน ในช่วงที่รัฐบาลรณรงค์ขอร้องให้ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนกระทั่ง รมว.พลังงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ต้องรีบออกมาแก้หน้าด้วยการเสนอมาตรการเพิ่มเติมในการลดค่าครองชีพให้ประชาชน โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมานั้น
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การออกมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าแก่ประชาชนเพียง 3 เดือนเป็นเพียงการแก้ผ้าเอาหน้ารอดในเหตุเฉพาะหน้าของกระทรวงพลังงานและรัฐบาลเท่านั้น หากแต่ไม่เคยกลับไปทบทวนว่าต้นเหตุของปัญหาที่ทำให้เกิดราคาค่าไฟฟ้าราคาแพงนั้นอยู่ที่ไหน และอย่างไร โดยล่าสุดสมาคมฯได้ตรวจสอบพบว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้มีการจัดซื้อครุภัณฑ์ต่างๆเพื่อนำมาใช้ในสำนักงานและสถานีบริการไฟฟ้าต่าง ๆ ทั่วประเทศมีความผิดปกติหลายประการ จนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นการจัดซื้อจัดหาโดยองค์กรที่ได้รับรางวัลองค์กรโปร่งใสมาอย่างต่อเนื่องจาก ป.ป.ช. อาทิเช่น การจัดซื้อรถเข็น (ลักษณะเดียวกับรถเข็นผักทั่วไป) เพื่อใช้ในแผนงานโครงการ Supply and Construction of 500/230 kv(GIS) ซึ่งมีราคาต่อ 1 คัน คือ 152,956.21 บาท ซึ่งหากไปหาซื้อแถวย่านวรจักร หรือย่านรังสิต ก็ไม่น่าจะเกินคันละ 1-2,000 บาทเท่านั้น แต่ทว่า กฟผ. กลับซื้อในราคาที่แพงลิบลิ่ว ซึ่งไม่แน่ใจว่ารถเข็นดังกล่าวทำด้วยทองคำหรืออย่างไร
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า ปัญหาการจัดซื้อครุภัณฑ์ของ กฟผ.ดังกล่าวเป็นเพียงฝุ่นใต้พรมที่ไม่มีการตรวจสอบกันอย่างจริงจัง ปล่อยให้รัฐวิสาหกิจกังกล่าวบริหารจัดการเงินแผ่นดินกันอย่างโจ่งครึ่ม ประหนึ่งเป็นบ่อน้ำมันของรัฐวิสาหกิจที่นำมาหล่อเลี้ยงพนักงานเจ้าหน้าที่ถึง 22,413 คน เพราะค่าใช้จ่ายทั้งหมดดังกล่าวจะถูกนำมาคิดเป็นต้นทุนในการบริหารจัดการไฟฟ้า และผลักภาระทั้งหมดมาให้ผู้ใช้ไฟฟ้าทุกครัวเรือนผ่านค่า FT นั่นเอง ซึ่งถึงเวลาแล้วที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะต้องตรวจสอบองค์กรการไฟฟ้าดังกล่าวอย่างจริงจังและรวดเร็ว ตั้งแต่ฝ่ายจัดซื้อเรื่อยไปจนถึงผู้ว่าการฯ ว่ามีส่วนรับรู้การจัดซื้อจัดหาพัสดุหรืออุปกรณ์ในราคาแพงกว่าปกติหรือไม่อย่างไร เพราะแต่ละแผนงานโครงการฯมีการตั้งงบจัดซื้อนับพันล้านบาท อาทิสัญญาเลขที่ W100321-222M-SPPC-S-02 มีมูลค่าถึง 1,130,698,504.73 บาท เพื่อที่จะได้นำมาลงโทษและกำหนดมาตรการป้องกันที่เข้มงวดต่อไป
อ่านประกอบ : ก่อนดราม่าค่าไฟแพง? 3 รัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฯปี 62 รายได้ 6.8 แสนล.-นำส่งรัฐ 3.5 หมื่นล.
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage