ประกาศเคอร์ฟิว 4 ทุ่ม-ตี 4 มีผล 3 เม.ย.เป็นต้นไป 'แพทย์-ขนส่งเวชภัณฑ์-ผู้ป่วย-พลังงาน' ได้รับการยกเว้น 'บิ๊กตู่'ยกระดับมาตรการสกัดโควิด-19 กำชับทุกหน่วยงานพิจารณารองรับมาตรการเศรษฐกิจ เมื่อสถานการณ์ยุติต้องฟื้นฟู จัดหาสินค้าการแพทย์ให้เพียงพอต่อประชาชน พวกรวมกลุ่มกินดื่มให้ลงโทษจริง
เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2563 ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โดยมีมาตรการสำคัญคือ แจ้งเรื่องการยกระดับมาตรการในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มเติม โดยกำหนดเคอร์ฟิวทั่วประเทศระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ยกเว้นผู้มีความจำเป็นที่จะต้องเดินทาง ได้แก่ บุคคลากรทางการแพทย์ การขนส่งเวชภัณฑ์ การขนส่งผู้ป่วย การขนส่งด้านพลังงาน และการขนย้ายประชาชนสู่พื้นที่ควบคุม เป็นต้น นอกจากนี้ยังสั่งการให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานร่วมกัน ทำงานด้วยความช่วยเหลือกัน ไม่ขัดแย้ง และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในทุกมาตรการ
ในที่ประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้หารือและสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณามาตรการรองรับทางเศรษฐกิจ โดยต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ครบถ้วน เช่น ตราสารหุ้น การบรรเทาหนี้ การดำเนินการระบบภาษี ลดภาษี เมื่อสถานการณ์ยุติ ต้องมีมาตรการเพื่อการฟื้นฟู ด้านการลงทุนต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ทั้งนี้ การดำเนินการในส่วนของงบประมาณ ต้องเป็นการพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งค่อนข้างมีขั้นตอน ละเอียด และต้องใช้เวลา ในส่วนของสินค้าทางการแพทย์ เตียง หน้ากาก N95 ชุด PPE ต้องจัดหาให้เพียงพอต่อความต้องการ ส่วนการนำเข้าสินค้าทางการแพทย์ มีขั้นตอนในการดำเนินการ แต่เรื่องภาษีนำเข้าได้รับการแก้ไขแล้ว การจะซื้อสินค้าผ่านระบบจีทูจี เช่น กับประเทศจีน มีขั้นตอนที่ประเทศจีนจะต้องรับรอง บริษัทจึงจะผ่านระบบได้ จึงเป็นส่วนที่ต้องทำความเข้าใจกับสังคม โดยกระทรวงมหาดไทยแจ้งว่าได้ดำเนินการร่วมการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม บริหารจัดการด้านการขนส่ง และกระจายหน้ากากอนามัยผ่านระบบการสื่อสาร เพื่อหน้ากากอนามัยถึงปลายทางโดยเรียบร้อย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ขอให้ทุกหน่วยงานทำความเข้าใจกับประชาชน ในการดำเนินการส่วนหนึ่งส่วนใด มีกฎระเบียบ ขั้นตอน รายละเอียดปลีกย่อย ที่ต้องร่วมพิจารณา เพราะอาจเกิดผลกระทบต่อส่วนรวมได้ จึงขอให้ทุกหน่วยงานสร้างความเข้าใจกับประชาชน ผ่านทุกช่องทางการสื่อสารของรัฐ เช่น เพจไทยคู่ฟ้า ไม่ให้เกิดการบิดเบือน เป็นประเด็นทางโซเชียลมีเดีย ในส่วนของผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาล ยังรวมกลุ่ม นั่งดื่ม ขอให้หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายพิจารณาลงโทษอย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐบาลกำหนด ทั้งนี้ ให้ชะลอการเดินทางจากต่างประเทศจนถึง 15 เมษายน เพื่อเตรียมพื้นที่กักกัน และเพื่อให้ทุกคนผ่านการประเมินทางสุขภาพอย่างครบถ้วน ในการเดินทางผู้เดินทางต้องมีเอกสารกรอกข้อมูลการเข้าประเทศ ผ่านการประเมินสุขภาพ มีเอกสาร fit to fly และสั่งการให้ ศบค. นำข้อมูลมาวิเคราะห์ วางแผนให้ถี่ถ้วน เพราะเมื่อเดินทางเข้าประเทศมาแล้ว จะต้องหามาตรการมาควบคุมให้รัดกุม แก้ปัญหาบุคคลเสี่ยงที่หายไประหว่างเดินทางไปยังสถานที่พัก ส่วนการกลับประเทศไทยของกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ขอให้ชะลอตามที่แจ้งข้างต้น และพิจารณาพื้นที่รองรับการกักกัน สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศตรวจสอบไปยังต้นทางการเดินทางว่ามีนักเรียนจำนวนเท่าไหร่ จัดให้ทยอยกลับ เพื่อให้พื้นที่รองรับสู่การกักกันเพียงพอ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เข้าใจดีถึงความกังวลของนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครองที่อยากเดินทางกลับประเทศ จึงขอให้กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณสุข และมหาดไทยร่วมดูแล ให้มีแนวทางรองรับที่ชัดเจน ส่วนมาตรการป้องกัน และช่วยเหลือประชาชนภายในประเทศ ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยควบคุมด่านไม่ให้เกิดความแออัด ซึ่งขณะนี้ด่านทางบกปิดหมดแล้ว แต่ยังมีคนมารอเข้า-ออก และควบคุมพื้นที่ที่รับผิดชอบอย่างเข้มงวด กระทรวงมหาดไทยแจ้งด้วยว่าพร้อมดำเนินการสร้างความเข้าใจกับประชาชนผ่านหอกระจายข่าว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/