ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง พิพากษายกฟ้อง 'โอ๊ค พานทองแท้' คดีฟอกเงินกู้ธนาคารกรุงไทย เจ้าตัวบอก 'รู้สึกสบายใจ' เผยความเห็นแย้งองค์คณะเห็นควรสั่งคุก 4 ปี
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2562 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพานทองแท้ ชินวัตร (โอ๊ค) บุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย กรณีถูกกล่าวหาว่ามีความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงินตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5, 9, 60 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 มาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และมาตรา 91 กรณีรับเช็คจำนวน 10 ล้านบาท จากนายวิชัย กฤษดาธานนท์ อดีตผู้บริหารเครือกฤษดามหานคร และนายรัชฎา กฤษดาธานนท์ บุตรนายวิชัย โดยมีการกล่าวหาว่าเช็คดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งจากการทุจริตในคดีที่ธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้สินเชื่อแก่เครือกฤษดามหานคร
ศาลฯพิพากษาให้ยกฟ้องนายพานทองแท้ ชินวัตร โดยเห็นว่า เส้นทางการเงินดังกล่าวเป็นไปด้วยความเปิดเผย ไม่ปิดบัง หรือซุกซ่อน หรืออำพรางแต่อย่างใด นอกจากนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สามารถตรวจสอบเส้นทางเงินได้ตลอดเวลา ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลภายหลังได้ ไม่ใช่เป็นการปกปิด หรืออำพรางการได้มา พฤติการณ์จึงยังเชื่อไม่ได้ว่านายพานทองแท้ ได้เงินจากนายวิชัยมาจากการกระทำความผิด ในเมื่อไม่รู้ หรือเชื่อว่าไม่รู้ว่าเงินดังกล่าวมาจากการกระทำความผิด คดีจึงฟังไม่ได้ว่าสมคบกับนายวิชัยในการฟอกเงิน
ภายหลังการอ่านคำพิพากษา ผู้พิพากษาชี้แจงว่า คดีดังกล่าวเกิดความเห็นแย้งกันขึ้น ภายใต้การพิจารณาข้อกฎหมายเดียวกัน โดยหนึ่งในองค์คณะผู้พิพากษายืนยันความเห็นว่าควรพิพากษาลงโทษจำคุกนายพานทองแท้ 4 ปี โดยในคำพิพากษาศาลฉบับเต็ม จะแนบความเห็นแย้งของผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนไว้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าวมีองค์คณะผู้พิพากษา 2 ราย โดยการตัดสินดังกล่าวเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 184 ที่บัญญัติว่า ในการประชุมปรึกษาเพื่อมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง ให้อธิบดีผู้พิพากษาข้าหลวงยุติธรรม หัวหน้าผู้พิพากษาในศาลนั้นหรือเจ้าของสำนวนเป็นประธาน ถามผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาทีละคน ให้ออกความเห็นทุกประเด็นที่จะวินิจฉัย ให้ประธานออกความเห็นสุดท้าย การวินิจฉัยให้ถือตามเสียงข้างมาก ถ้าในปัญหาใดมีความเห็นแย้งกันเป็นสองฝ่ายหรือเกินกว่าสองฝ่ายขึ้นไป จะหาเสียงข้างมากมิได้ ให้ผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยมากยอมเห็นด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า
ขณะที่ นายพานทองแท้ ชินวัตร กล่าวต่อสื่อมวลชนว่า รู้สึกสบายใจ แต่ปฎิเสธที่จะให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม ขณะที่คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร มารดาที่เดินมาฟังคำพิพากษาด้วย ระบุว่า รู้สึกสบายใจเช่นกัน ก่อนจะเดินขึ้นรถยนต์ส่วนตัวออกจากศาลฯ ไป
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นภายหลังคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ภาครัฐ (คตส.) ในคดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้สินเชื่อแก่เครือกฤษดามหานครโดยทุจริต ต่อมามีการแยกสำนวนเป็นคดีฟอกเงินด้วย ก่อนจะส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปดำเนินการ
หลังจากนั้นเมื่อปี 2558 ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาคดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้สินเชื่อเครือกฤษดามหานครโดยทุจริต คดีฟอกเงินดังกล่าวได้ถูกพูดถึงในสังคมอีกครั้ง ก่อนที่ดีเอสไอจะส่งสำนวนให้กับอัยการ ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2561 อัยการฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยนายพานทองแท้ ให้การปฏิเสธมาตลอดตั้งแต่ในชั้นไต่สวนของ คตส. ดีเอสไอ อัยการ และศาลอาญาคดีทุจริตฯ โดยยืนยันว่า เงินดังกล่าวเป็นเงินจากการร่วมลงทุนในธุรกิจกับนายรัชฎา กฤษดาธานนท์ บุตรนายวิชัย
อ่านประกอบ :
EXCLUSIVE:เส้นทางเช็ค26ล.คดีฟอกเงินกู้กรุงไทย ก่อน อัยการ-DSI สั่งไม่ฟ้อง ‘โอ๊ค-แม่เลขาฯพจมาน’
ศาลนัดพิพากษาคดีฟอกเงิน 25 พ.ย.- ‘โอ๊ค’ยันคำเดิม!ได้เช็ค 10 ล.ลงขันทำธุรกิจ
ดีเอสไอ ส่งสำนวนฟ้อง 'พานทองแท้' กับพวกฟอกเงินกรุงไทย
คณะทำงานดีเอสไอสอบเพิ่ม‘โอ๊ค-พวก’ คดีฟอกเงินหลังถูกร้อง-ทั้งที่สรุปสั่งฟ้องแล้ว
ก่อน ปปง.กล่าวโทษคดีฟอกเงินกรุงไทย ขุมธุรกิจพันล.‘พานทองแท้’ ปี’59ฟัน198 ล.ขาดทุนยับ
คำวินิจฉัยผู้พิพากษาฯชำแหละเส้นทางเงินคดีกรุงไทยโยง'พานทองแท้-มานพ'
เฉลยชื่อผู้รับเช็คจาก'เสี่ยวิชัย’คดีกรุงไทย-‘พานทองแท้-มานพ’อยู่ในข่าย?
ย้อนเส้นทางคดีฟอกเงินกรุงไทย!ชื่อ‘พานทองแท้-พวก’โผล่รับเช็ค-ไม่เอ่ยถึงมูลนิธิรัฐบุรุษฯ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
หมายเหตุ : ภาพประกอบ นายพานทองแท้ จาก Workpoint News