ที่ปรึกษาอธิการบดี ม.เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ร้อง 'สุรเกียรติ์ เสถียรไทย' นายกสภาฯ ช่วยตรวจสอบปมมหาวิทยาลัย ค้างจ่ายเงินค่าจ้างรับงานคูปองวิทย์เพื่อโอทอป ว.ว. 5.8 ล้าน อ้างฝ่ายกม.เบิกไปหมดแล้ว ด้าน ผศ.ดร.วิโรจน์ ลิ้มไขแสง อธิการบดี รับมีปัญหาจริงสั่งตั้งคกก.สอบแล้ว คาดรู้ผลสัปดาห์นี้
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ว่า ที่ปรึกษาอธิการบดีรายหนึ่ง กำลังมีปัญหาความขัดแย้งเรื่องการเงินกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน อันเป็นผลสืบเนื่องมากรณีที่ปรึกษาอธิการบดีรายนี้ ได้รับมอบหมายให้ดำเนินงานโครงการคูปองวิทย์เพื่อโอทอปของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (ว.ว.) จำนวน 17.1 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงปี 2561 ในนามมหาวิทยาลัย และได้ออกเงินส่วนตัวเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโครงการนี้ไปก่อน จากนั้นก็ค่อยไปเบิกเงินคืนจากทางมหาวิทยาลัย ที่ได้รับเงินว่าจ้างโครงการจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (ว.ว.) ที่จ่ายผ่านเข้ามาทางบัญชีของสถาบันบริการวิชาการแห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (USI)
แต่ปรากฏว่าปัจจุบันทางมหาวิทยาลัย ยังค้างจ่ายเงินงวดสุดท้ายให้ที่ปรึกษารายนี้ เป็นจำนวนเงิน 5.8 ล้านบาท เมื่อทวงถามก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง จนกระทั่งล่าสุด ที่ปรึกษาอธิการบดีรายนี้ ได้ไปตรวจสอบข้อมูลจากฝ่ายการเงิน ได้รับแจ้งว่า เงินค่าจ้างที่ได้รับมาจาก ว.ว. ถูกเบิกจ่ายออกไปโดยผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยหมดแล้ว
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2562 ที่ผ่านมา ที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานรายนี้ ได้ยื่นเรื่องถึง ศ.(พิเศษ) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เพื่อให้ช่วยตรวจสอบและให้ความเป็นธรรม กรณีที่ยังไม่ได้รับเงินค่าดำเนินโครงการคูปองวิทย์เพื่อโอทอป จำนวน 5.8 ล้านบาทดังกล่าวด้วย
ในหนังสือร้องเรียนระบุว่า “กระผมมีตำแหน่งที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้รับมอบภารกิจจาก อธิการบดี ในการประสานนำโครงการต่างๆ ของรัฐบาล ผ่านยังกระทรวงทบวงกรมต่างๆ มาเข้ามหาวิทยาลัยเพื่อเป็นชื่อเสียงและผลงาน ให้กับมหาวิทยาลัย ซึ่งโครงการแรกที่ได้รับเข้ามาคือ โครงการคูปองวิทย์เพื่อโอทอป ของ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (ว.ว.) ได้รับมอบหมายจาก อธิการบดี ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์ให้กับผู้ประกอบการ จำนวนทั้งสิ้น 82 ราย แบ่งเป็น พื้นที่ภาคกลาง 22 ราย และพื้นที่ภาคอีสาน 60 ราย ซึ่งได้ดำเนินการครบถ้วนตาม TOR ตั้งแต่ต้นจนจบโครงการ โดยใช้ทุนส่วนตัวในการดำเนินงาน มิได้ใช้เงินของมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด ด้วยการนำบ้านพักจำนองไว้กับธนาคารและเงินเก็บส่วนตัวมาเป็นทุน งบประมาณทั้งสิ้น 17.1 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผู้ว่าจ้างได้โอนเงินครบตามจำนวนงวดงาน ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 2561 มีหลักฐานการโอนและรับโดยผ่านสถาบันบริการวิชาการแห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (USI) และอธิการบดีทราบทางวาจา เอกสาร และข้อความไลน์ (LINE) มาโดยตลอด
ภายหลังได้ทราบว่า มีการเบิกจ่ายจากสถาบันฯ ไปแล้ว คือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานรายหนึ่ง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของสถาบันฯ ด้วย จากนั้น จึงมีการทยอยจ่ายเงินและผัดผ่อนมาเป็นระยะ ด้วยเหตุผลส่วนตัว ซึ่งปัจจุบันคงเหลือยอดค้างจ่าย 5.8 ล้านบาท โดยปัจจุบันได้ล่วงเลยกำหนดรับชำระและไม่มีการติดต่อใดๆ
ล่าสุด กลับกลายเป็นมีคำสั่งตรวจสอบโครงการขึ้นใหม่ โดยอธิการบดีลงนาม ทั้งที่เงินก้อนดังกล่าวได้มีการเบิกไปแล้ว 1 ปีเศษ แต่ยังไม่ปรากฏว่า มีการตั้งกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของมหาวิทยาลัยฯ รายดังกล่าวแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้ จึงร้องขอความเป็นธรรมมายัง ท่านนายกสภาฯ” (ดูหนังสือร้องเรียนประกอบท้ายเรื่อง)
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2562 ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง ผศ.ดร.วิโรจน์ ลิ้มไขแสง อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้
ผศ.ดร.วิโรจน์ กล่าวว่า มีปัญหาเรื่องดังกล่าวจริง ซึ่งก่อนหน้าตนได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว และได้ทำการตั้งคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยรองอธิการบดีและเจ้าหน้าที่กฎหมาย เพื่อตรวจสอบโครงการดังกล่าว รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายรายตามข้อร้องเรียนด้วย ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร คาดว่าน่าจะได้ผลการตรวจสอบในเบื้องต้นภายในสัปดาห์นี้
“ผู้ร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่รายนั้น มีการพูดคุยกันมาก่อนแล้ว อาจเป็นเรื่องของการจ่ายไม่ตรงตามกำหนดเวลา ปัญหาอาจเกิดจากระบบ คณะกรรมการฯ ต้องเข้าไปตรวจสอบว่าปัญหาคืออะไร จะแก้ไขอย่างไรต่อไป” อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานระบุ
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/