“...ข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2546-10 มิ.ย. 2562 พบว่า บริษัท ซิโน-ไทยฯ เป็นคู่สัญญากับกระทรวงคมนาคม ทั้งสิ้น (เท่าที่ตรวจสอบพบ) 42 สัญญา วงเงิน 41,324,885,870 บาท (ราว 4.13 หมื่นล้านบาท) หากนับเฉพาะในช่วงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (ระหว่างวันที่ 22 พ.ค. 2557-10 มิ.ย. 2562) เป็นคู่สัญญารวม 12 สัญญา วงเงิน 27,277,517,688 บาท (ราว 2.77 หมื่นล้านบาท)...”
กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในศึกแย่งชิงเก้าอี้รัฐมนตรีคมนาคม ระหว่างพรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย ท่ามกลางกระแสว่า พรรคพลังประชารัฐขอแลกเก้าอี้กระทรวงคมนาคมคืน โดยพร้อมยกกระทรวงพลังงานให้ แต่ ‘ผู้มากบารมี’ ในพรรคภูมิใจไทย ไม่ยอม
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2562 หลังจากการ ‘เขย่า’ เก้าอี้ยังมีทีท่าไม่ลงตัว ‘เสี่ยหนู’ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “กระทรวงมีไว้ให้คนเข้าไปทำงาน ไม่ใช่มีไว้ให้มาเที่ยวแลกไปมา จบข่าว!!!” และยังได้คอมเมนต์บอกด้วยว่า “คมนาคม สาธารณสุข ท่องเที่ยว เปลี่ยนไม่ได้”
ต่อมาเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2562 นายธนกร วังบุญคงชนะ หรือที่สื่อมวลชนรู้จักกันในชื่อ ‘แด๊ก’ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ออกโรงโพสต์ข้อความตอบโต้กลับแจกแจงหลายข้อ สรุปสาระสำคัญได้ว่า “กระทรวงมีไว้ให้ทำงานเพื่อประชาชน ไม่ใช่มีไว้ให้เข้าไปหางานเพื่อบริษัท”
แต่ดูเหมือน ‘สงครามโซเชียล’ ยังไม่จบ ‘เสี่ยหนู’ โพสต์ภาพพร้อมข้อความตอนกลางคืนเกี่ยวกับพระเครื่อง อย่างไรก็ดีมีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยเข้าไปคอมเมนต์ถามถึงกระแสการแย่งเก้าอี้รัฐมนตรี นายอนุทิน ตอบโต้อย่างเผ็ดร้อน ยืนยันว่า ยังคงดีลแรกไว้ คือ กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา รองนายกฯ และ รมช. อีก 4 กระทรวงเท่านั้น รวมถึงแซะกลับไปยังรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐด้วย
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2562 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ยืนยันต่อสื่อว่า มีปัญหาในการจัดสรรโควตารัฐมนตรีจริง แต่เชื่อว่าภายในวันนี้ (10 มิ.ย. 2562) จะได้ข้อสรุป รวมถึงจะให้ ‘ผู้ใหญ่’ ไปตักเตือน ‘เด็ก’ ที่ปะทะคารมกับ ‘หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย’ ด้วย เนื่องจากเทียบชั้นกันไม่ได้ พร้อมสอนจะทำอะไรต้องคิดก่อน (อ่านประกอบ : รับมีปัญหาชิงเก้าอี้ รมต.!‘ธรรมนัส’ยันวันนี้ชัด-ให้ผู้ใหญ่เตือน‘เด็ก’โต้คารม‘เสี่ยหนู’)
พลิกปูมเส้นทาง ‘แด๊ก’ นายธนกร วังบุญคงชนะ เป็นโฆษกกลุ่ม ‘สามมิตร’ ผ่านหลักสูตรคอนเนคชั่นมาอย่างมากมาย ทั้ง ปปร.รุ่นที่ 20 สถาบันพระปกเกล้า พตส. รุ่นที่ 2 สำนักงาน กกต. ภูมิพลังแผ่นดิน รุ่น 3 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ Tepcot รุ่น 6 หอการค้าไทย
เริ่มทำงานการเมืองครั้งแรกเมื่อปี 2550 ลงสมัคร ส.ส. กทม. พรรคมัชฌิมาธิปไตย ที่นำโดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แต่พ่ายแพ้สอบตก อย่างไรก็ดีด้วยความไฟแรง ‘ผู้ใหญ่’ ภายในพรรคจึงดึงมาทำงานเป็นที่ปรึกษา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน) ที่ปรึกษา รมช.พาณิชย์ และที่ปรึกษา รมช.สาธารณสุข ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ต่อมาภายหลังการรัฐประหาร เมื่อปี 2558 ได้รับการผลักดันให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการ รมว.สาธารณสุข หลังจากนั้นได้ขึ้นเป็นที่ปรึกษารองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 2 (นายพีระศักดิ์ พอจิต) หลังจากนั้นได้มาเข้าร่วมกับ ‘กลุ่มสามมิตร’ ภายใต้การนำของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้รับการคาดหมายจากคนการเมืองหลายรายว่า สืบทอดชั้นเชิงมาจากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แบบแยกกันไม่ออก
สำหรับนายอนุทิน หลายคนคงรู้จักอยู่แล้วว่าสกุล ‘ชาญวีรกูล’ คือเจ้าของอาณาจักรรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่อันดับต้น ๆ ของประเทศไทย คือ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) รายได้ต่อปีหลักหมื่นล้านบาท และมีบริษัทเครือข่ายอีกหลายสิบแห่ง
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สืบค้นข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐของเฉพาะบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) กับกระทรวงคมนาคม พบรายละเอียด ดังนี้
ข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2546-10 มิ.ย. 2562 พบว่า บริษัท ซิโน-ไทยฯ เป็นคู่สัญญากับกระทรวงคมนาคม ทั้งสิ้น (เท่าที่ตรวจสอบพบ) 42 สัญญา วงเงิน 41,324,885,870 บาท (ราว 4.13 หมื่นล้านบาท)
หากนับเฉพาะในช่วงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (ระหว่างวันที่ 22 พ.ค. 2557-10 มิ.ย. 2562) เป็นคู่สัญญารวม 12 สัญญา วงเงิน 27,277,517,688 บาท (ราว 2.77 หมื่นล้านบาท)
โดยเป็นคู่สัญญากับกระทรวงคมนาคมโดยตรง 23 สัญญา วงเงิน 27,930,242,791 บาท (ราว 2.79 หมื่นล้านบาท)
กรมท่าอากาศยาน 2 สัญญา วงเงิน 557,232,631 บาท
กรมทางหลวง 12 สัญญา วงเงิน 11,449,143,024 บาท (ราว 1.1 หมื่นล้านบาท)
และกรมทางหลวงชนบท 5 สัญญา (รวมช่วงเป็นกิจการร่วมค้า ไทยเซอิ-ซิโน-ไทย) วงเงิน 1,388,267,421 บาท
สำหรับสัญญาที่มีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1.โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่คอย สัญญาที่ 1 วงเงิน 9,825,810,000 บาท กับกระทรวงคมนาคม ทำสัญญาเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2558
2.จ้างก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต (ปีงบประมาณ 2553-2557) วงเงิน 5,146,700,000 บาท กับกระทรวงคมนาคม ทำสัญญาเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2555
3.จ้างเหมาก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา กม.0-5+470.673 (EAST SPUR LINE รวมทางแยกต่างระดับบางปะอิน 1) วงเงิน 1,938,840,000 บาท กับกรมทางหลวง ทำสัญญาเมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2560
4.จ้างทำการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา กม.0-กม.7+332.494 วงเงิน 1,815,576,000 บาท กับกรมทางหลวง ทำสัญญาเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2560
5.จ้างเหมาทำการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา กม.72+328.075-กม.74+300 ระยะทางประมาณ 1.97 กม. วงเงิน 1,576,645,000 บาท กับกรมทางหลวง ทำสัญญาเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2560 (ดูรายละเอียดได้ตามตารางด้านล่าง)
ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2562 บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) แปรสภาพมาเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2535 ทุนปัจจุบัน 1,525,106,540 บาท แจ้งประกอบธุรกิจ บริการรับเหมาก่อสร้าง
ปรากฏชื่อ นายเรวัต ฉ่ำเฉลิม เป็นประธานกรรมการ และกรรมการอิสระ นายวัลลภ รุ่งกิจวรเสถียร เป็นประธานกรรมการบริหาร กรรมการ นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ กรรมการ นายมาศถวิน ชาญวีรกูล นางอนิลรัตน์ นิติสาโรจน์ เป็นกรรมการ พล.อ.สุรพันธ์ พุ่มแก้ว นายชัยยงค์ สัจจิพานนท์ เป็นกรรมการอิสระ นายชำนิ จันทร์ฉาย เป็นประธานกรรมการตรวจสอบ และกรรมการอิสระ พล.ต.อ.เจตน์ มงคลหัตถี นายธนาธิป วิทยะสิรินันท์ และนายสุชัย ภูพิชญ์พงษ์ เป็นกรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ
มีบริษัท ซี.ที.เวนเจอร์ จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 15.35% นายอนุทิน ชาญวีรกูล ถือหุ้น 4.69%
แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2562 ไตรมาสที่ 1/62 มีรายได้รวม 7,555.54 ล้านบาท กำไรสุทธิ 343.29 ล้านบาท
สำหรับบริษัท ซี.ที.เวนเจอร์ จำกัด ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท ซิโน-ไทยฯ จดทะเบียนเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2535 ทุนปัจจุบัน 5,361,000,000 บาท แจ้งประกอบธุรกิจ ลงทุนในธุรกิจอื่น มี น.ส.นัยน์ภัค ชาญวีรกูล และนายเศรณี ชาญวีรกูล (ทั้ง 2 รายเป็นบุตรของนายอนุทิน) เป็นกรรมการ
แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2560 มีรายได้รวม 51,599,674 บาท รายจ่ายรวม 28,750 บาท ภาษีเงินได้ปี 2560 5,097,534 บาท กำไรสุทธิ 46,473,389 บาท
นี่คือข้อมูลเครื่องเคียงฐานธุรกิจของนายอนุทิน และคนสกุล ‘ชาญวีรกูล’ เฉพาะบริษัท ซิโน-ไทยฯ ไม่นับบริษัทลูกอีกหลายแห่ง ก่อนเปิดศึกแย่งชิงเก้าอี้ รมว.คมนาคม กับพรรคพลังประชารัฐ ที่กำลัง ‘เขย่า’ การจัดตั้งรัฐบาลอยู่ในขณะนี้!
และสุ่มเสี่ยงต่อประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง ?
ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐมนตรี ถ้าอยู่ในโควตา พรรคภูมิใจไทย ก็ไม่วาย มีข้อครหา จะกลายเป็นจุดอ่อน เป็นเป้าโจมตี ถึงที่สุด ใครหยิบชิ้นปลามัน
รอดูกันต่อไป
(ที่มา : ฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ, สำนักข่าวอิศรา รวบรวม)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/