"...จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ หลังจากเกิดเหตุจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันชดใช้เงินให้แก่ผู้เสียหาย จำนวน 30,000 บาท เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ทั้งปัจจุบันจำเลยทั้งสองประกอบอาชีพสุจริต มีรายได้ที่พอหาเลี้ยงตนเองได้ และมีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่งการลงโทษทางอาญาแก่จำเลยทั้งสองไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมโดยรวม จึงเห็นสมควรให้รอการกำหนดโทษแก่จำเลยทั้งสองไว้เป็นเวลา 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ..."
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าประเด็นตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก กรณีคณะกรรมการธุรกรรม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ข้ามชาติ ราย นางสาวแตงไทย บ้านมะหิงษ์ กับพวก เชื่อมโยงข้อมูล นายยิม เลียกและ นายเบน สมิธ จำนวน 66 รายการ (เช่น ที่ดิน ห้องชุด หลักทรัพย์ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 9,279 ล้านบาท
โดย ปปง.ระบุพฤติการณ์ความผิดว่า นางสาวแตงไทย บ้านมะหิงษ์ กับพวก ได้หลอกลวงผู้เสียหายว่าพบข้อมูลการส่งสินค้าซึ่งมีสิ่งของผิดกฎหมายจากจังหวัดเชียงรายไปที่ประเทศจีน และผู้เสียหายมียอดเงินในบัญชีธนาคารซึ่งเกี่ยวพันกับการฟอกเงินผิดกฎหมายต้องถูกตรวจสอบบัญชีธนาคาร จากการสืบสวนเส้นทางการเงิน พบข้อมูลว่า นางสาวแตงไทยฯ ได้รับมอบอำนาจให้ทำธุรกรรมเกี่ยวกับบัญชีธนาคารของ นายยิม เลียก หรือ MR. LEAK YIM ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดทายาทเครือข่ายผู้มีอิทธิพลในกัมพูชา เป็นเครือข่ายสแกมเมอร์ ที่หลอกลวงผู้เสียหายเชื่อมโยงกับเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิดมูลฐาน พบข้อมูลการทำธุรกรรมนางสาวแตงไทยฯ เชื่อมโยงไปยังบุคคลและนิติบุคลจำนวนมาก รวมทั้งมีข้อมูลการโอนเงินไปยัง นายเบน สมิธ หรือ MR. SMITH BEN ซึ่งมีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน มีการโอนเงินไปมาระหว่างบริษัทต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เสมือนว่ามีการดำเนินธุรกิจ และใช้บริษัทในการถือครองทรัพย์สินแทนตนเอง และบุคคลใกล้ชิด ซึ่งเป็นการทำธุรกรรมทางการเงินและการถือครองทรัพย์สินในลักษณะที่มีความซับซ้อนสูง ขณะที่จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของ นายยิม เลียก บางเส้นเงินในรอบ 1 วัน ยอดเงินคงเหลือเพิ่มจาก 1.2 ล้านบาท → 21.5 ล้านบาท ลักษณะคล้ายการระดมเงินจากกลุ่มบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดและฟอกเงิน ที่รับโอนเงินมาจากบัญชีกลุ่มผู้เสียหาย เชื่อว่าห้วงวันดังกล่าว นายยิม เลียก (Yim Leak) มีความจำเป็นต้องใช้เงิน เพื่อไปฟอกในธุรกิจอย่างใดอย่าง อย่างหนึ่ง (ข้อมูลนี้ ยังไม่ได้มีคำอธิบายอย่างละเอียด)
เบื้องต้น มีรายงานผลการตรวจสอบความเชื่อมโยงของกลุ่มผู้กระทำความผิดราย นางสาวแตงไทย บ้านมะหิงษ์ กับพวก ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง ประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา และความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ กล่าวคือ ศาลจังหวัดชลบุรีในคดีหมายเลขดำที่ อทย 56/2568 หมายเลขแดงที่ อทย 71/2568 ได้พิพากษาว่า นางสาวแตงไทย บ้านมะหิงษ์ จำเลยที่ 1 นายเอกลักษณ์ นาเจริญ จำเลยที่ 2 กับนางสาวอรุณี ชุ่มชื่นจิตร และพวกของจำเลยทั้งสองอีก 4 คน ซึ่งหลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ได้ร่วมกันหลอกลวงโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชนทั่วไปซึ่งรวมถึงผู้เสียหาย โดยได้สุ่มหมายเลขโทรศัพท์ของประชาชนและโทรแจ้งว่าเป็นพนักงานขนส่งสินค้าเอกชนตรวจพบพัสดุของผู้เสียหายมีสิ่งของผิดกฎหมายให้ทำการเพิ่มช่องทางการติดต่อโดยการเพิ่มเพื่อนทางแอปพลิเคชันไลน์ (LINE)
- ปปง.ยึดทรัพย์เครือข่าย'เฉินจื้อ-ก๊กอาน'หมื่นล.-จ่อออกหมายจับ40คน 'ยิมเลียก-เบนสมิธ' ด้วย
- ย้อนข้อมูล'ยิม เลียก-เบน สมิธ' ก่อน ปปง.ยึดทรัพย์คดีฟอกเงิน กลุ่ม 'น.ส.แตงไทย' 9.2 พันล.
- อยู่นครนายก!แกะรอย 'น.ส.แตงไทย'ปปง.ยึดทรัพย์คดีฟอกเงิน 9.2พันล.โยง'ยิม เลียก-เบน สมิธ'
- 'อนุทิน' นำทีมแถลงยึดอายัดทรัพย์หมื่นล.เส้นเงินชัดเข้าบัญชี'ยิม เลียก'-'เบน สมิธ'สนับสนุน
- 'อนุทิน' สั่งเพิกถอนสัญชาติไทย'ยิม เลียก'แล้ว คนในรบ.เอี่ยวไม่ละเว้น 'ปิดชื่อ ถือพฤติกรรม"
- เจาะบัญชีปปง.อายัด 9.2 พันล้าน (1) 'สุภารัตน์' อดีตเมียเบน สมิธ-ลูก 2 คน โดน 476 ล.
- เจาะบัญชีปปง.อายัด 9.2 พันล.(2) เปิดยิบ 7 บ.กลุ่ม'ยิมเลียก-เบน'/ อัลฟ่าฯ โดน 7.8 พันล.
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบยืนยันข้อมูลพบว่า คดีหมายเลขดำที่ อทย 56/2568 หมายเลขแดงที่ อทย 71/2568 ดังกล่าว พนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี โจทก์ นางสาวแตงไทย บ้านมะหิงษ์ กับพวก จำเลย ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
โดยศาลจังหวัดชลบุรี มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 ว่า นางสาวแตงไทย บ้านมะหิงษ์ จำเลยที่ 1 นายเอกลักษณ์ นาเจริญ จำเลยที่ 2 จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 วรรคสอง ประกอบ มาตรา 342(1) พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่นซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ลงโทษจำคุก 1 ปี ไม่ปรากฎว่าจำเลยทั้งสองเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นสมควรให้รอการกำหนดโทษแก่จำเลยทั้งสองเป็นเวลา 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56
ในคำพิพากษาศาล ระบุว่า จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ หลังจากเกิดเหตุจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันชดใช้เงินให้แก่ผู้เสียหาย จำนวน 30,000 บาท ซึ่งมากกว่าจำนวนเงินตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ จนผู้เสียหายแถลงไม่ติดใจดำเนินคดีกับจำเลยทั้งสองอีกต่อไป ตามสำเนารายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีฉบับลงวันที่ 2 มีนาคม 2568 ของสถานีตำรวจภูธรพานทอง
ศาลฯ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า นับว่าจำเลยทั้งสองมิได้เป็นผู้ริเริ่มในการกระทำให้เกิดการกระทำความผิดในครั้งนี้โดยตรง ทั้งยังได้ชดใช้เงินคืนให้แก่ผู้เสียหายครบถ้วนแล้ว นับว่าพฤติการณ์แห่งคดีไม่ร้ายแรง
เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ทั้งปัจจุบันจำเลยทั้งสองประกอบอาชีพสุจริต มีรายได้ที่พอหาเลี้ยงตนเองได้ และมีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่ง
การลงโทษทางอาญาแก่จำเลยทั้งสองไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมโดยรวม จึงเห็นสมควรให้รอการกำหนดโทษแก่จำเลยทั้งสองไว้เป็นเวลา 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56
ทั้งนี้ คดีถึงที่สุดแล้วเมื่อวันที่ 9 กรกฏาคม 2568 เนื่องจากฝ่ายโจทก์และจำเลย ไม่ยื่นอุทธรณ์คดีต่อ
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับกรณีถูก ปปง.อายัดทรัพย์ครั้งนี้ นั้น ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา เคยติดต่อขอสัมภาษณ์ นางสาวแตงไทย ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงแต่เจ้าตัวปฏิเสธให้สัมภาษณ์ ระบุยังไม่ทราบเรื่อง ขอดูรายละเอียดก่อน
จากการตรวจสอบยังพบว่า นางสาวแตงไทย มีที่ยู่ตามภูมิลำเนา เป็นคนใน ต.พิกุลออก อ.บ้านนา จ.นครนายก
ปรากฏชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท สหทรัพย์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จดทะเบียนจัดตั้ง 30 มิถุนายน 2553 ปัจจุบันมีทุน 1,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 98-100 ชั้น 1 ถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แจ้งประกอบธุรกิจรับแลกเหรียญเงินตราต่างประเทศ ณ วันที่ 30 เมษายน 2568 นางสาว แตงไทย บ้านมะหิงษ์ ถือหุ้นใหญ่เป็นอันดับ 2 จำนวน 25% มูลค่าหุ้น 250,000 บาท นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ
ล่าสุด ณ 31 ธันวาคม 2567 แจ้งว่าไม่มีรายได้ มีรายจ่ายรวม 363,698 บาท ขาดทุนสุทธิ 363,698 บาท
หากมีข้อมูลเพิ่มเติมสำนักข่าวอิศรา จะนำมาเสนอต่อไป
อ่านประกอบ :
- ส่องคดีทุจริตโลก:แฉฮุน เซน เซ็น ทิ้งทวนนายกฯยกอุทยานเฉียดพันเฮกตาร์ให้ลูกคนใกล้ชิดบริหาร
- นักข่าวดังสหรัฐฯ อ้างข้อมูล 'ทักษิณ' ใช้นายหน้าแอฟริกาใต้เครือข่ายฮุนเซน ซื้อเจ็ทส่วนตัว
- แกะรอย 'เบนจามิน' นายหน้าปริศนาขายเครื่องบินส่วนตัว ให้ 'ทักษิณ-เครือข่ายฮุนเซน' ?
- 'เบนจามิน' ยื่นสละสัญชาติกัมพูชา แปลงเป็นไทย ยุค 'อนุทิน' นั่งมท.1 แต่ไม่ได้เซ็นให้
- เปิดรายงานลับ สน.บท.กรณี 'เบนจามิน'ยื่นสละสัญชาติกัมพูชา-ปริศนาที่ปรึกษาธุรกิจ ทักษิณ?
- เจาะลึก! เส้นทาง 'เบนจามิน' ยื่นสละสัญชาติกัมพูชาแปลงเป็นไทย 'บิ๊กตลท.' ให้ถ้อยคำรับรอง
- 'อนุทิน' ยันไม่ได้เซ็นอนุมัติแปลงสัญชาติ 'เบนจามิน' ตีตกชั้นปค.-อย่าโยงขัดแย้ง 'ทักษิณ'
- เปิดข้อมูล บ.ที่ทำงาน 'เบนจามิน' ไฮโซแฟนลูกนักการเมืองกัมพูชาถือหุ้น ก่อนขอแปลงสัญชาติ
- ขุดประวัติ 'เบนจามิน' กุนซือฮุนเซน โยง 'ยิม เลียก'-ที่ปรึกษารมว.คลังไทยนั่งบอร์ด ธ.กัมพูชา
- ที่ปรึกษา 'ธรรมนัส'ยื่นหนังสือ ก.ล.ต.ตรวจความบริสุทธิ์ 'เบนจามิน'หลัง ปชน.อภิปรายพาดพิง
- 'ทอม ไรต์' โต้'ธรรมนัส'หลังให้สัมภาษณ์อิศรา ขู่เรียกค่าเสียหาย ยืนยันจะตีพิมพ์ทุกอย่าง
- ที่ปรึกษา'ธรรมนัส'รับอำนาจ‘เบนจามิน’ฟ้อง‘โรม’อภิปรายหมิ่นฯ ยันปกป้องสิทธิ ไม่ได้ปิดปาก
- 'เบนจามิน' ออกแถลงปฏิเสธข้อกล่าวหาบทความ 'ทอม ไรท์' เตรียมฟ้องอดีตผู้สื่อข่าว WSJ
- ISRA:เอ็กซ์คลูซีฟ! ‘ธรรมนัส‘ เปิดสัมพันธ์ลึก ‘ทักษิณ & เบนจามิน’ จาก ดูไบ ถึง ห้างเกษรฯ
- ‘อภิสิทธิ์’ ยื่นปปง.ตรวจเส้นทางเงินสแกมเมอร์ เผยระดับรมต.เอี่ยว ยุค รบ.อนุทิน มี 2 คน


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา