หลัง 'อิศรา' ตีข่าว ปัญหาความล่าช้าคดี 'แหวน พุทธิศา' นายก อบต.ขนงพระ ปากช่อง โคราช โดน ป.ป.ช.ชี้มูลมีส่วนได้เสียเอื้อเอกชน 6 โครงการ ผ่านไปเป็นปี ยังฟ้องไม่ได้ ล่าสุด ก่อนปิดปีใหม่ เจ้าตัวเข้ารายงานตัวอัยการสู้คดีเป็นทางการแล้ว ยันไม่มีเจตนาหนี ส่วนปมหยุดปฏิบัติหน้าที่พร้อมทำตามขั้นตอนกฎหมาย
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวปัญหาความล่าช้าในการส่งฟ้องผู้ต้องหา ราย นายแหวน พุทธิศา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ขนงพระ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด กรณีเข้ามีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับ อบต. ขนงพระ และเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน จำนวน 6 โครงการ ในช่วงเดือน พ.ย.2566 พร้อมส่งรายงาน สำนวนการไต่สวนเอกสารหลักฐาน ไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี แต่ปัจจุบันระยะเวลาผ่านไปเกือบปีแล้วคดียังไม่เข้าสู่กระบวนการพิจารณาในชั้นศาล เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา นายแหวน ได้ทำเรื่องขอความเป็นธรรมและขอเลื่อนคดีมาหลายครั้ง ล่าสุดมีการขอเลื่อนเพื่อเข้าพบอัยการ จากวันที่ 17 ธ.ค.2567 เป็นในวันที่ 4 ก.พ.2568
- ขอเลื่อนต่อเนื่อง! คดีชี้มูลนายก อบต.ขนงพระ ล่าช้า ผ่านไปเป็นปียังส่งฟ้องไม่ได้
- ล้วงมติ ป.ป.ช.ชี้มูลนายกอบต.ขนงพระ ก่อนโดนขอเลื่อนบ่อย ผ่านไปเป็นปียังส่งฟ้องไม่ได้
ล่าสุด แหล่งข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า ภายหลังจากที่ สำนักข่าวอิศรา นำเสนอข่าวเรื่องนี้ ในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา นายแหวน พุทธิศา ได้เข้าไปรายงานตัวต่ออัยการเพื่อสู้คดีตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว
ขณะที่นายแหวน ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์สำนักข่าวอิศรายืนยันว่า ได้เข้าไปรายงานตัวต่ออัยการ และมีการส่งตัวฟ้องศาลฯ แล้ว ตั้งแต่ก่อนช่วงปิดปีใหม่ที่ผ่านมา ขั้นตอนจากนี้ก็เป็นไปตามกระบวนการทางศาลฯ มีนัดหมายมาเมื่อไหร่ ก็ไปตามนัด
เมื่อถามว่า ศาลฯ รับฟ้องคดีแล้ว จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายแหวน กล่าวว่า ต้องรอหนังสือจากทางอัยการและผู้บังคับบัญชาก่อน แต่ส่วนตัวพร้อมปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมายอยู่แล้ว
"ปัญหาที่เกิดขึ้นคนในพื้นที่รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร ผมพร้อมปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมายอยู่แล้ว ที่ผ่านมาไม่มีเจตนาหนีคดีตามที่มีบุคคลบางกลุ่มโพสต์ไปโจมตีแต่อย่างใด" นายแหวนระบุ
กล่าวสำหรับมติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายแหวน นั้น สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า จำนวน 6 โครงการ ที่ นายแหวนและพวก ถูกชี้มูลความผิดคดีนี้ ประกอบไปด้วย (1.) โครงการซ่อมสร้างถนลาดยาง (แคปซีล) หมู่ที่ 5 บ้านขนงพระกลาง (สะพานวัดขนงพระใต้ หมู่ที่ 2 หน้าองค์การบริหารส่วนตำบลขนงพระ หมู่ที่ 1) ตามสัญญาเลขที่ E1/2555 ลงวันที่ 28 มิ.ย. 2555 (2.) โครงการซ่อมสร้างถนนลาดยาง (แคปซีล) (ป้ายบ้านหนองตะกู - ถังประปา) หมู่ที่ 8 บ้านหนองตะกู ตามสัญญาเลขที่ 6/6555 ลงวันที่ 9 ส.ค. 2555 (3.) โครงการซ่อมสร้างถนนลาดยาง (แคปซีล) ซอย 1 หมู่ที่ 6 บ้านชับสวอง ตามสัญญาเลขที่ 7/2555 ลงวันที่ 12 ก.ย. 2555 (4.) โครงการซ่อมสร้างถนนลาดยาง (แคปซีล) สามแยกซอยประสบเนตร หมู่ที่ 4 - ป้ายบ้านหนองตะกู หมู่ที่ 8 ตามสัญญาเลขที่ 2/2556 ลงวันที่ 11 ธ.ค. 2555 (5.) โครงการซ่อมสร้างถนนลาดยาง (แคปซีล) ซอยสามแยก - สามแยก รพช. หมู่ที่ 1 บ้านขนงพระเหนือ ตามสัญญาเลขที่ 3/2556 ลงวันที่ 15 มีนาคม 2556 และ (6.) โครงการซ่อมสร้างถนนลาดยาง (แคปซีล) ถนนสายบ้านนา - ขนงพระเหนือ ช่วงหน้าแพต้นน้ำ - ห้าแยกประปาส่วนภูมิภาค ตามสัญญาเลขที่ 4/2556 ลงวันที่ 15 มีนาคม 2556
คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีคำวินิจฉัยคดีนี้ในการประชุมครั้งที่ 126/2566 ลงวันที่ 29 พ.ย.2566 พิจารณาสำนวนการไต่สวนเบื้องต้นแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนน 5 เสียง ว่า นายแหวนและพวก มีความผิดตามกฎหมาย โดยนายแหวน ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 152 , 157 ประกอบมาตรา 91 และมีมูลเป็นการกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92 และความผิดตามมาตรา 100 (1) และมาตรา 123/1 ตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ.2542
พวกอีก 2 ราย คือ นางณัทธัญดา ขวัญใจพุทธิศา หรือนางสาวณัทธัญดา ชูพบสูงเนิน , นายสำเนาว์ สมบูรณ์ ถูกชี้มูลทางอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 152, 157 และความผิดตามมาตรา 100 (1) และมาตรา 123/1 ตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ.2542 แต่ความผิดตามประมวลอาญา มาตรา 152, 157 และความผิดตามมาตรา 100 (1) และมาตรา 123/1 ได้ขาดอายุความแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป
จึงเหลือแค่ นายแหวน เพียงคนเดียว ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวนเอกสารหลักฐาน ไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และแจ้งผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับ นายแหวน
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่สิ้นสุด จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด ปัจจุบัน นายแหวนจึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่