ก.ต.ลงมติเสนอ ปธ.ศาลฎีกาตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง 3 อดีตรองอธิบดีผู้พิพากษา กรณีให้ประกันตัวจำเลยคดียาเสพติดส่งเฮโรอีนไปไต้หวัน 400 กิโลกรัม หลังถูกอธิบดีศาลอาญาสั่งสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้น เสนอผลที่ประชุมพิจารณา
แหล่งข่าวจากสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า ในการประชุมคณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2567 มีวาระที่น่าสนใจเกี่ยวกับการพิจารณาโทษข้าราชการตุลาการ 2 คดี ได้แก่
1. พิจารณากรณีพักราชการของข้าราชการตุลาการ จำนวน 1 ราย
2. พิจารณารายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงข้าราชการ จำนวน 3 ราย กรณีพิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว (ดูเอกสาร)
แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับในคดีแรก เป็นกรณีผู้พิพากษาอาวุโสขาดราชการเกิน 15 วัน ก.ต. มีมติไม่เห็นชอบให้พักราชการตามที่เสนอ
สำหรับในคดีที่สอง เป็นการหารือรายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีอดีตรองอธิบดีผู้พิพากษา 3 ราย ที่ให้ประกันตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่มีการส่งเฮโรอีนไปไต้หวันน้ำหนักถึง 400 กิโลกรัม และถูกทางการไต้หวันจับได้มีการขยายผลจับกุม ผู้ต้องหาในเมืองไทย ซึ่งภายหลังการพิจารณา ก.ต.เห็นว่าการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงหรือไม่ ไม่ใช่อำนาจของ ก.ต. แต่เป็นอำนาจของประธานศาลฎีกา ที่ประชุมจึงเห็นควรให้เสนอเรื่องต่อประธานศาลฎีกา เพื่อให้พิจารณาการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงต่อไป
แหล่งข่าวกล่าวว่า ก่อนหน้านี้อธิบดีศาลอาญาได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกับอดีตรองอธิบดีผู้พิพากษาทั้งสามรายเสร็จสิ้นแล้ว จึงได้เสนอผลการสอบสวนต่อ ก.ต.
อ่านข่าวประกอบ