เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'มานิต ทองบ่อ' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลทรายมูล ยโสธร -พวก เบิกจ่ายเงินประกวดนางสงกรานต์ทิพย์ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 3 พิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน พร้อมรองนายกเทศฯ-ปลัด หลังรับสารภาพ แต่ได้รอลงอาญา-ป.ป.ช.ขออุทธรณ์สู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายมานิต ทองบ่อ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลทรายมูล จังหวัดยโสธร ทุจริตในการดำเนินโครงการจัดงานประเพณีวันสงกรานต์ วันสูงอายุ และวันครอบครัว และงานสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง อำเภอทรายมูล ของเทศบาลตำบลทรายมูล ประจำปี 2557 ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 , 151 , 157 , 161 , 162 (1) (4) , 265 และ 268 ประกอบ ป.อ. 83 ตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 เม.ย.2565
โดยคดีนี้ ปรากฏชื่อ นายมานิต ทองบ่อ เป็นจำเลยที่ 1 (นายกเทศมนตรีตำบลทรายมูล) , นายวันชาติ วงศ์ศรี จำเลยที่ 2 (รองนายกเทศมนตรีตำบลทรายมูล) , นายสุวิช มาสขาว จำเลยที่ 3 (ปลัดเทศบาลตำบลทรายมูล) , นางเรียม ครองยุติ จำเลยที่ 4 และ นางวิลาวรรณ อุตอามาตย์ จำเลยที่ 5
ขณะที่สำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดยโสธร เคยเปิดแถลงข่าวชี้พฤติการณ์คดีนี้ เป็นกรณีเบิกจ่ายเงินค่ารางวัลในการประกวดนางสงกรานต์ โดยไม่ได้มีการรับสมัครประกวดและจ่ายเงินค่ารางวัลให้แก่กันจริง
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาดังนี้
1. ลงโทษ นายมานิต ทองบ่อ เป็นจำเลยที่ 1 (นายกเทศมนตรีตำบลทรายมูล) , นายวันชาติ วงศ์ศรี จำเลยที่ 2 (รองนายกเทศมนตรีตำบลทรายมูล) , นายสุวิช มาสขาว จำเลยที่ 3 (ปลัดเทศบาลตำบลทรายมูล) คนละ 5 ปี และปรับ 25,000 บาท
2. ลงโทษ นางเรียม ครองยุติ จำเลยที่ 4 และ นางวิลาวรรณ อุตอามาตย์ จำเลยที่ 5 จำคุกคนละ 2 ปี 16 เดือน และปรับ 16,000 บาท
3. จำเลยทั้งห้าให้การรับสารภาพเป็นประโยชนแ์ก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่ง ตาม ป.อ. มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 คนละ 2 ปี 6 เดือน และปรับ 12,000 บาท คงจำคุกที่ 4 และที่ 5 คนละ 1 ปี 8 เดือน และปรับ 8,000 บาท
4. โทษจำคุกให้รอการลงโทษคนละ 3 ปี ให้คุมความประพฤติจำเลยคนละ 1 ปี ให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง ให้ทำงานบริการสังคมมีกำหนดคนละ 48 ชั่วโมง
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 2 ก.ย.2567 มีมติเห็นควรที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐเทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท