ร้อง ป.ป.ช. สอบกรมการจัดหางานกำหนดเงื่อนไขคัดเลือกบริษัทรับทำประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าวใหม่ วงเงินสูงกว่า 5 พันล้าน ส่อพิรุธกำหนดคุณสมบัติ 13 ประการ ไม่เปิดกว้าง กีดกัน เอื้อประโยชน์ จาก 17 แห่ง เข้าร่วมได้แค่ 2 - จับตาประกาศผล 19 พ.ย.นี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2567 กรมการจัดหางาน มีหนังสือประชาสัมพันธ์หลักเกณฑ์เกี่ยวกับบริษัทประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัยที่จะรับประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว ซึ่งจะขอรับใบอนุญาตทำงานตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2567 ระบุว่าหากบริษัทมีคุณสมบัติและเงื่อนไขตามที่กำหนด 13 ประการและมีความประสงค์จะเข้าร่วมการดำเนินการประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว ขอให้แจ้งกรมการจัดหางานทราบภายในวันที่ 19 พ.ย. 2567 เพื่ออนุญาตให้เชื่อมโยงข้อมูลหลักฐานการซื้อประกันสุขภาพต่อไป
คุณสมบัติทั้ง 13 ประการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2567 มีดังนี้
1. ต้องเป็นบริษัทมหาชน จำกัด ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย
2. ต้องเป็นบริษัทประกันภัยที่ไม่ขาตทุนติดต่อกันเกิน 3 ปี
3. มีช่องทางการซื้อประกันภัยและติดต่อได้สะดวกรวดเร็ว
4. สามารถตรวจสอบการปลอมแปลงกรมธรรม์ประกันภัย โดยการเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบของกรมการจัดหางาน
5. ในจังหวัดที่คนต่างต้าวทำงานสามารถเข้ารับการรักษาได้ โดยไม่ต้องสำรองค่าใช้จ่ายไปก่อน
6. ต้องมีกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครอง 2 ระยะ ได้แก่ 6 เดือน และ 1 ปี
7. ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องมีงบแสดงฐานะการเงินปี 2566 ที่มีการรับรองผลกำไรสุทธิแล้วต้องแสดงค่าเป็นบวก 1 ปีสุดท้ายก่อนวันยื่นข้อเสนอ
8. กรมธรรม์ประกันภัยจะต้องมีผลให้ความคุ้มครองแรงงานต่างด้าวภายหลังจากบริษัทประกันภัยอนุมัติกรมธรรม์ประกันภัยทันที
9. ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเต็มจำนวนไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
10. ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องมีสินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2566 จำนวน ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท
11. ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องมีอัตราส่วนความเพียงพอของการดำรงเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (CAR RATIO) ไว้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 200 ณ สิ้นปี 2566
12. ผู้ยื่นข้อเสนอห้ามดำเนินการลดเบี้ยประกันภัย กรมธรรม์ประกันภัยเกินจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนด
13. คนต่างด้าวจะต้องได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลไม่น้อยกว่าสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลที่ได้รับจากการทำประกันสุขภาพกับสถานพยาบาลของรัฐ
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับแจ้งข้อมูลว่ามีตัวบริษัทประกันภัยกลุ่มหนึ่ง ทำหนังสือร้องเรียนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีข้าราชการกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ออกหลักเกณฑ์เอื้อประโยชน์บริษัทประกันภัยบางบริษัท ให้มีสิทธิเข้ารับการประกันสุขภาพของคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรี 24 ก.ย. 2567 และกีดกันบริษัทประกันภัยอื่น ๆ โดยกำหนดคุณสมบัติเรื่องทรัพย์สินรวมที่ต้องมีทรัพย์สินรวม ณ สิ้นปี 2566 จำนวนไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท และต้องมีอัตราส่วนความเพียงพอของการดำรงเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (Car Ratio) ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 200 ณ สิ้นปี 2566 ซึ่งทำให้เหลือบริษัทประกันภัยที่สามารถเข้าร่วมประกันภัยเพียง 2 บริษัท จากเดิม 17 บริษัทประกันภัย
หนังสือร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ระบุว่า ขอให้เลขาธิการฯ ป.ป.ช. ตรวจสอบกรณีดังกล่าว เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมือง หากหลักเกณฑ์ที่กรมการจัดหางานกำหนดใหม่นี้ถูกนำมาใช้ จะทำให้แรงงานต่างด้าว และนายจ้าง หรือผู้ประกอบการ เกิดความสับสนและยุ่งยากจนไม่สามารถขึ้นทะเบียนแรงงานได้ทัน ขณะที่ตัวเลขการทะเบียนแรงงานต่างด้าว ปัจจุบันมีจำนวนกว่า 3 ล้านคน ตัวเลขมูลค่าวงเงินประกันที่จะเกิดขึ้นประมาณ 5 พันล้านบาท