"...จากการสอบสวน น.ส.พัชรา เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่านำเงินดังกล่าวไปใช้หนี้ที่กู้มาจากแอปพลิเคชันเงินกู้ออนไลน์ ซึ่งมีหลายเจ้าจึงทำให้หมุนเงินไม่ทัน ประกอบกับมีการส่งภาพคลิปวิดีโอข่มขู่ฆ่าจนเกิดความหวาดกลัว จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวเพื่อเร่งนำเงินไปใช้หนี้ พร้อมยอมรับว่าทำเพียงคนเดียว ไม่เกี่ยวกับสามี หรือ หัวหน้าหน่วยงานคนอื่นๆ ส่วนสาเหตุที่ต้องกู้เงินจากแอพเงินกู้ออนไลน์ดังกล่าวเนื่องจากตนเองติดพนันออนไลน์..."
ประเด็นตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก!
กรณี สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ขยายผลการตรวจสอบปัญหาเงินขาดบัญชีของหน่วยงานรัฐ ภายหลังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สอบพบพฤติการณ์เจ้าหน้าที่ส่วนราชการ และองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จำนวนหลายแห่ง อาศัยช่องโหว่จากการจ่ายเงินผ่านระบบ KTB Corporate Online กระทำการทุจริตในช่วงปี 2563 – 2566 และสร้างความเสียหายเป็นจำนวนเงินกว่า 332 ล้านบาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า เกี่ยวกับปัญหานี้ สตง.ได้มีการแจ้งผลการตรวจสอบให้หัวหน้าส่วนราชการ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการสอบสวนลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่พบพฤติการณ์ทุจริตที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เงินงบประมาณรัฐ ไปแล้วหลายแห่ง อาทิ เทศบาลตำบลบุณฑริก อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี, เทศบาลตำบลลาดยาว อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ , อบต.นางัว อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) วังม้า อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์
มาติดตามดูข้อมูลการดำเนินการในส่วนของ 4 อปท. ข้างต้นกัน
ในตอนนี้จะขอเริ่มต้นที่ เทศบาลตำบลลาดยาว อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ ก่อน
สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบยืนยันข้อมูลพบว่า ในช่วงเดือน ส.ค.2566 สตง.ได้ทำหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดนครวรรค์ เพื่อแจ้งผลการตรวจสอบปัญหาเงินขาดบัญชี ของ เทศบาลตำบลลาดยาว อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ ระบุชื่อ นางสาวพัชรา ประสิทธิกสิกรรม มีพฤติการณ์ส่อลักษณะทุจริตก่อให้เกิดความเสียหายแก่เทศบาลฯ และจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการคลังของรัฐ พร้อมแจ้งให้มีการชดใช้ค่าเสียกายแก่เทศบาลตำบลลาดยาว เป็นจำนวนเงิน 15,658,881.04 บาท
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ไปติดต่อไปยัง นายสุภาพ ศักดิ์สัจจา นายกเทศมนตรีตำบลลาดยาว เพื่อให้ยืนยันข้อเท็จจริงเรื่องนี้ แต่นายสุภาพ ไม่ได้รับสาย มีเจ้าหน้าที่รับเรื่องแทน ระบุว่า ยังไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้เนื่องจากอยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวน หากให้ข้อมูลไปอาจเกิดความคาดเคลื่อนในสำนวนได้
กล่าวสำหรับนางสาวพัชรา ประสิทธิกสิกรรม ในช่วงเดือนม.ค.2566 ปรากฏเป็นข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) สนธิกำลังเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปรางปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าจับกุม น.ส.พัชรา ประสิทธิกรรม อายุ 41 ปี เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชีชำนาญงานเทศบาลตำบลลาดยาว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” ได้ภายในห้องประชุมเทศบาลตำบลลาดยาว
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบความผิดปกติของเงินกองคลังเทศบาลตำบลลาดยาว หลังพบมีเงินรั่วไหลจากการเบิกถอนเงินในบัญชีธนาคารเทศบาลโดยไม่ทราบวัตถุประสงค์ ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. 2565 ถึงวันที่ 17 มกราคม 2566 จำนวน 215 ครั้ง รวมเป็นเงิน 15,867,275.49 บาท จึงจัดกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบจนทราบว่า น.ส.พัชรา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบัญชีชำนาญงานเทศบาลตำบลลาดยาว ที่เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับการเบิกถอนเงินงบประมาณและเงินต่าง ๆ ของเทศบาล ได้ทำการยักยอกเงินทั้งหมดดังกล่าวไปใช้จ่ายส่วนตัว
โดยใช้ช่องโหว่จากการที่เป็นคนถือรหัสพินสามารถเบิกถอนเงินออกจากธนาคารได้ ซึ่งจากการกระทำดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับรัฐและทางธนาคารเป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจนำกำลังเข้าทำการจับกุมตัวดังกล่าว พร้อมกับเชิญตัวพยานบุคคลอีก 3 รายมาสอบปากคำในฐานะพยาน รวมถึงเข้าตรวจค้นบ้านพักของ น.ส.พัชรา เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
จากการสอบสวน น.ส.พัชรา เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่านำเงินดังกล่าวไปใช้หนี้ที่กู้มาจากแอปพลิเคชันเงินกู้ออนไลน์ ซึ่งมีหลายเจ้าจึงทำให้หมุนเงินไม่ทัน ประกอบกับมีการส่งภาพคลิปวิดีโอข่มขู่ฆ่าจนเกิดความหวาดกลัว จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวเพื่อเร่งนำเงินไปใช้หนี้ พร้อมยอมรับว่าทำเพียงคนเดียว ไม่เกี่ยวกับสามี หรือ หัวหน้าหน่วยงานคนอื่นๆ ส่วนสาเหตุที่ต้องกู้เงินจากแอพเงินกู้ออนไลน์ดังกล่าวเนื่องจากตนเองติดพนันออนไลน์
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับกรณีเทศบาลตำบลลาดยาว อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ นั้น แหล่งข่าวจากจังหวัดนครวรรค์ เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า ในการแจ้งผลการตรวจสอบปัญหาเงินขาดบัญชี ของ เทศบาลตำบลลาดยาว ดังกล่าว สตง.ยังมีการระบุชื่อผู้บริหารระดับสูงของ เทศบาลฯ เพื่อให้ทางจังหวัดดำเนินการตามนัยมาตรา 71 พร.บ.เทศบาล พ.ศ.2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติมด้วย
แต่ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่า ผู้บริหารระดับสูงของ เทศบาลฯ ถูกดำเนินการเรื่องนี้ไปแล้วอย่างไรบ้าง?
หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม สำนักข่าวอิศรา จะนำมาเสนอต่อไป
- รัฐเสียหาย 332 ล้าน! สตง.แฉเล่ห์จนท.สบช่องทุจริตระบบ KTB มีโอนเงินเล่นพนันออนไลน์40 ล.
- เปิดหมด! สารพัดเล่ห์จนท.16 ส่วนราชการ-อปท.สบช่องทุจริตระบบจ่ายเงินรัฐ เสียหายยับ 332 ล.