"...3 ปีที่เหลือตามวาระของรัฐสภา ในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารจะขอทำหน้าที่ร่วมกับฝ่ายนิติบัญญัติด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง เปิดพื้นที่ในการรับฟังทุกความคิดเห็นเพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคง...."
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) : เมื่อวันที่ 18 ส.ค.2567 เวลา 9.29 น. ที่อาคารวอยซ์สเปซ ถ.วิภาวดีรังสิต ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร กล่าวภายหลังประกอบพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ว่า นับเป็นเกียรติยศและความภูมิใจสูงสุดแก่ชีวิต ดิฉัน ครอบครัว และพรรคเพื่อไทย สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้น จะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังด้วยความจงรักภักดีด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน สนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการและตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญทุกประการ
“ดิฉันขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนที่ได้มอบความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้กับดิฉัน ได้มีโอกาสทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมีความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่จะนำพาประเทศไทยเดินหน้าฝ่าฟันอุปสรรคแก้ปัญหาความเดือดร้อน แก้ปัญหาปากท้อง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน"
"3 ปีที่เหลือตามวาระของรัฐสภา ในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารจะขอทำหน้าที่ร่วมกับฝ่ายนิติบัญญัติด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง เปิดพื้นที่ในการรับฟังทุกความคิดเห็นเพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคง"
“พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักทุกท่าน ภารกิจนี้เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ ยากจะทำสำเร็จได้ด้วยเพียงนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ดิฉันมีความมุ่งหวังที่จะประสานพลังของคนทุกรุ่น ประสานพลังของทุกคนที่มีความสามารถของประเทศไทยจากทุกภาคส่วน ทั้งคณะรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาล ข้าราชการ เอกชนและพี่น้องประชาชน และจะส่งเสริมพัฒนาศักยภาพทักษะของคนไทยทุกคนและจะทำให้ทุกตารางนิ้วต่อคนไทยเป็นพื้นที่ให้คนไทยไม่กล้าฝันกล้าสร้างสรรค์อย่างไรบ้างที่จะกำหนดอนาคตของตัวเองได้”
"ในฐานะนายกรัฐมนตรีจะรับผิดชอบหน้าที่นี้ให้ดีที่สุดทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งโอกาส เป็นประเทศแห่งความสุข เพื่อพี่น้องคนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม"
หมายเหตุ ภาพประกอบปกจากPPTV HD 36