"...จากข้อมูลที่ตรวจสอบพบข้างต้น จึงเป็นไปได้ว่า ตัวแปรสำคัญที่ทำให้หลายคดีของ นายสิทธิพร หรือกัญจน์ ทินณรงค์ ขาดอายุความ มาจากการหลบหนีคดี แต่ต้องไปดูรายละเอียดในกระบวนการไต่สวนคดีของ ป.ป.ช. ว่าเป็นอย่างไร? มีปัญหาความล่าช้าเกิดขึ้นหรือไม่? เพราะแม้คดีจะมีจำนวนมาก แต่พฤติการณ์ในการกระทำความผิดก็มีลักษณะเหมือนกัน และก็มีคดีที่ส่งสำนวน อสส.ฟ้องร้องดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย และศาลฯ มีคำพิพากษาลงโทษ นายสิทธิพร หรือกัญจน์ ทินณรงค์ ไปแล้วด้วย ..."
กำลังเป็นประเด็นร้อนที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชน!
กรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สืบค้นข้อมูลพบว่า นับตั้งแต่ช่วงปี 2562 - 2566 มีคดีความที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งสำนวนให้สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย แต่ อสส.มีคำสั่งให้ยุติการดำเนินคดี เนื่องจากขาดอายุความ ถึง 53 คดี
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 อ.เมือง จ.ระยอง มีคำพิพากษาตัดสินคดีออกใบอนุญาตสร้างโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ หาดพัทยา จ.ชลบุรี โดยศาลฯ พิพากษายกฟ้อง นายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เนื่องจากคดีขาดอายุความ ขณะที่ศาลฯ ชี้ว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีพฤติการณ์ไม่ได้มุ่งหมายให้การดำเนินคดีอยู่ภายในกรอบเวลาการฟ้องคดีภายในวันที่ 10 กันยายน 2566 โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยที่ 6 ถึงที่ 10 เกินระยะเวลา 15 ปี นับแต่วันที่กล่าวหาว่ากระทำความผิด คดีโจทก์จึงขาดอายุความ
ปัจจุบันยังไม่มีคำชี้แจงเป็นทางการจาก สำนักงาน ป.ป.ช. ว่า ทำไม 53 คดีดังกล่าว ถึงเกิดปัญหาขาดอายุความขึ้น?
สาเหตุสำคัญเป็นผลมาจาก ผู้ถูกกล่าวหาและพวกมีพฤติการณ์ประวิงเวลาขอเลื่อนการชี้แจงข้อเท็จจริง, หลบหนีคดี จนทำให้เกิดปัญหาคดีขาดอายุความตามที่ปรากฏเป็นข่าวหลายคดีก่อนหน้านี้ หรือเกิดจากปัญหาในกระบวนการไต่สวนชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหาที่มีความล่าช้าในขั้นตอนปฏิบัติงานของ ป.ป.ช. เอง?
อย่างไรก็ดี หากโฟกัสรายชื่อผู้ถูกกล่าวหา ในจำนวน 53 คดีที่ขาดอายุความ และอสส.มีคำสั่งให้ยุติการดำเนินคดี จะพบว่ามีหลายราย ที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดมากกว่า 1 คดีขึ้นไป
เฉพาะราย นายสิทธิพรหรือกัญจน์ ทินณรงค์ ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดจำนวนมาก 11 คดี และคดีขาดอายุความทั้งหมด
น่าสนใจว่า นายสิทธิพรหรือกัญจน์ ทินณรงค์ เป็นใครมาจากไหน? ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเรื่องอะไร?
สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบฐานข้อมูลคดีกล่าวหาทุจริตของ สำนักงาน ป.ป.ช. พบว่า นายสิทธิพรหรือกัญจน์ ทินณรงค์ เป็นเจ้าหน้าที่บริหารงานที่ดิน อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว เคยถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคดีปลอม หนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก.) เลขที่ 1938 ตำบลห้วยโจดและใช้หนังสือรับรองการทำประโยชน์ปลอม จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมขายให้กับบริษัทเอกชน และจำนอง กับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM Bank ฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ,157, 161 , 266 (1) และ 268
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 มีคำพิพากษาว่า นายสิทธิพร หรือกัญจน์ ทินณรงค์ จำเลยมีความผิดตามกฎหมาย ลงโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 50,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี ปรับ 25,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2566 ลงมติเห็นชอบกรณีที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ดังกล่าว
ทำให้คดีนี้ เป็นอันยุติจบไป
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้าที่ศาลฯ จะมีคำพิพากษาตัดสินคดีนี้ ในช่วงเดือน เมษายน 2565 ปรากฏข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลำผักชี ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนฯ ป.ป.ช. จับกุม นายสิทธิพร หรือกัญจน์ ทินณรงค์ อดีตเจ้าพนักงานบริหารงานที่ดิน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ที่ จ.2/2565 ลงวันที่ 25 มกราคม 2565 โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 94/201 หมู่บ้านฟอล์ราวิวล์ หมู่ 4 ซอยสุวินทวงศ์ 38 แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร
จากการตรวจสอบหมายจับนายสิทธิพรพบว่ามีหมายจับที่ยังไม่ได้จับกุมอีก 5 หมาย 1.หมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ที่ จ.6/2565 ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 2.หมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ที่ จ.9/2565 ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 3.หมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ที่ จ.21/2565 ลงวันที่ 24 มีนาคม 2565 4.หมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ที่ จ.17/2564 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 5.หมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ที่ จ.19/2564 ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 โดยถูกออกหมายจับข้อหากระทำความผิดลักษณะเดียวกัน
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา สืบค้นฐานข้อมูลคดี สำนักงาน ป.ป.ช. พบว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. เคยแต่งตั้งคณะไต่สวน กรณีกล่าวหา นายสิทธิพร หรือกัญจน์ ทินณรงค์เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานที่ดิน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ในฐานความผิดปลอมเอกสารโฉนดที่ดิน น.ส.3 ก. ก่อนนำไปจำนอง-ขายให้กับบุคคล/นิติบุคคลอื่นหลายสิบราย วงเงินกว่า 230 ล้านบาท จำนวนมากถึง 14 คดี
ปรากฏข้อกล่าวหาต่างกรรมต่างวาระดังนี้
1.ทุจริตโดยปลอมแปลงหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 896 ต.โนนหมากเค็ง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ให้แก่นายปราโมทย์ จุลกุล (นายปัณวิชญ์ กิจทวีทรัพย์) จากนั้นได้ร่วมกับนายปราโมทย์ฯ นำ น.ส.3 ก. ฉบับปลอมแปลง ไปหลอกลวงจำนองให้กับนายมานพ ถิ่นปรีดา โดยมีการ จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการจำนองที่ดินดังกล่าว ณ สำนักงานที่ดินอำเภอวัฒนานคร เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 50 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
2.ทุจริตโดยปลอมแปลงหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 895 ต.โนนหมากเค็ง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ให้แก่นายปราโมทย์ จุลกุล (นายปัณวิชญ์ กิจทวีทรัพย์) จากนั้นได้ร่วมกับนายปราโมทย์ฯ นำ น.ส.3 ก. ฉบับปลอมแปลง ไปหลอกลวงจำนองให้กับนายมานพ ถิ่นปรีดา โดยมีการ จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการจำนองที่ดินดังกล่าว ณ สำนักงานที่ดินอำเภอวัฒนานคร เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 50 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
3.ทุจริตโดยปลอมแปลงหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 894 ต.โนนหมากเค็ง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ให้แก่นายปราโมทย์ จุลกุล (นายปัณวิชญ์ กิจทวีทรัพย์) เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 34 จากนั้นได้ร่วมกับนายปราโมทย์ฯ นำ น.ส.3 ก. ฉบับปลอมแปลงไปหลอกลวงขายให้กับนายมานพ ถิ่นปรีดา โดยมีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการขายฝาก ที่ดินดังกล่าว ณ สำนักงานที่ดินอำเภอวัฒนานคร เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 50 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
4.ทุจริตโดยปลอมแปลงหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1582 เลขที่ดิน 1 ต.ห้วยโจด (วัฒนานคร) อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว (ปราจีนบุรี) ให้แก่นายปราโมทย์ จุลกุล (นายปัณวิชญ์ กิจทวีทรัพย์) เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 34 จากนั้น ได้ร่วมกับนายปราโมทย์ฯ นำ น.ส.3 ก. ฉบับปลอมแปลง ไปหลอกลวงขายฝากให้กับนายไพรัช พันวินิต, นายรัตนชัย ล่องดุริยางค์ โดยมีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการขายฝาก ดังกล่าว ในราคา 15,000,000 บาท ณ สำนักงานที่ดิน อำเภอวัฒนานคร เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 50 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
5.ทุจริตโดยปลอมแปลงหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1582 เลขที่ดิน 1 ต.ห้วยโจด (วัฒนานคร) อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว (ปราจีนบุรี) ให้แก่นายปราโมทย์ จุลกุล (นายปัณวิชญ์ กิจทวีทรัพย์) เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 34 จากนั้น ได้ร่วมกับนายปราโมทย์ฯ นำ น.ส.3 ก. ฉบับปลอมแปลง ไปหลอกลวงจำนองให้กับนายชูศักดิ์ ศรีเจริญล่ำซำ โดยมีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการจำนองที่ดินดังกล่าว ในราคา 25,400,000 บาท ณ สำนักงานที่ดินอำเภอวัฒนานคร เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 50 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
6.ทุจริตโดยปลอมแปลงหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1470 เลขที่ดิน 64 ต.ท่าเกษม อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ให้แก่นายปราโมทย์ จุลกุล (นายปัณวิชญ์ กิจทวีทรัพย์) เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 50 จากนั้น ได้ร่วมกับนายปราโมทย์ฯ นำ น.ส.3 ก. ฉบับปลอมแปลง ไปหลอกลวงจำนองให้กับ บจก. 49 เจริญกิจดี และธนาคาร เพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย โดยมีการ จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการจำนองที่ดินดังกล่าว ในราคา 6,637,000 บาท ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 50 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
7.ทุจริตโดยปลอมแปลงหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1938 เลขที่ดิน 438 ต.ห้วยโจด (วัฒนานคร) อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ให้แก่นายปราโมทย์ จุลกุล (นายปัณวิชญ์ กิจทวีทรัพย์) เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 50 จากนั้น ได้ร่วมกับนายปราโมทย์ฯ นำ น.ส.3 ก. ฉบับปลอมแปลง ไปหลอกลวงขายให้กับ บจก. 49 เจริญกิจดี และธนาคาร เพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย โดยมีการ จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการจำนองที่ดินดังกล่าว ในราคา 13,363,000 บาท ณ สำนักงานที่ดินอำเภอวัฒนานคร เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 50 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย (ศาลฯ ตัดสินโทษไปแล้ว)
8.ทุจริตโดยปลอมแปลงหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1938 เลขที่ดิน 437 ต.ห้วยโจด (วัฒนานคร) อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ให้แก่นายปราโมทย์ จุลกุล (นายปัณวิชญ์ กิจทวีทรัพย์) เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 50 จากนั้น ได้ร่วมกับนายปราโมทย์ฯ นำ น.ส.3 ก. ฉบับปลอมแปลง ไปหลอกลวงจำนองให้กับ บจก. 49 เจริญกิจดี โดยมีการ จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการจำนองที่ดินดังกล่าว ในราคา 15,000,000 บาท ณ สำนักงานที่ดินอำเภอวัฒนานคร เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 50 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
9.ทุจริตโดยปลอมแปลงหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1938 เลขที่ดิน 437 ต.ห้วยโจด (วัฒนานคร) อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ให้แก่นายปราโมทย์ จุลกุล (นายปัณวิชญ์ กิจทวีทรัพย์) เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 50 จากนั้น ได้ร่วมกับนายปราโมทย์ฯ นำ น.ส.3 ก. ฉบับปลอมแปลง ไปหลอกลวงจำนองให้กับ บจก. กรีนเวย์ โดยมีการ จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการจำนองที่ดินดังกล่าว ในราคา 35,000,000 บาท ณ สำนักงานที่ดินอำเภอวัฒนานคร เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 50 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
10.ทุจริตโดยปลอมแปลงหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1938 เลขที่ดิน 437 ต.ห้วยโจด (วัฒนานคร) อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ให้แก่นายปราโมทย์ จุลกุล (นายปัณวิชญ์ กิจทวีทรัพย์) เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 50 จากนั้น ได้ร่วมกับนายปราโมทย์ฯ นำ น.ส.3 ก. ฉบับปลอมแปลง ไปหลอกลวงขายให้กับ บจก. กรีนเวย์ ในราคา 34,000,000 บาท โดยมีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการซื้อขาย ณ สำนักงานที่ดินอำเภอวัฒนานคร เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 50 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
11.ทุจริตโดยปลอมแปลงหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1582 เลขที่ดิน 1 ต.ห้วยโจด (วัฒนานคร) อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว (ปราจีนบุรี) ให้แก่นายปราโมทย์ จุลกุล (นายปัณวิชญ์ กิจทวีทรัพย์) เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 34 จากนั้น ได้ร่วมกับนายปราโมทย์ฯ นำ น.ส.3 ก. ฉบับปลอมแปลง ไปหลอกลวงจำนองที่ดินกับนายมานพ ถิ่นปรีดา นางสถิรพร กิจกาญจนกุล และนายขจร ลือกิตตินันท์ โดยมีการ จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการจำนองที่ดินดังกล่าว ในราคา 50,800,000 บาท ณ สำนักงานที่ดินอำเภอวัฒนานคร
12.ทุจริตโดยปลอมแปลงหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1582 เลขที่ดิน 1 ต.ห้วยโจด (วัฒนานคร) อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว (ปราจีนบุรี) ให้แก่นายปราโมทย์ จุลกุล (นายปัณวิชญ์ กิจทวีทรัพย์) เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 34 จากนั้น ได้ร่วมกับนายปราโมทย์ฯ นำ น.ส.3 ก. ฉบับปลอมแปลง ไปหลอกลวงขายฝากให้กับนางอัจฉรา จันทร์รัตนปรีดา โดยมีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการขายฝากที่ดินดังกล่าว ณ สำนักงานที่ดินอำเภอวัฒนานคร เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 49 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
13.ทุจริตโดยปลอมแปลงหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1582 เลขที่ดิน 1 ต.ห้วยโจด (วัฒนานคร) อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว (ปราจีนบุรี) ให้แก่นายปราโมทย์ จุลกุล (นายปัณวิชญ์ กิจทวีทรัพย์) เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 34 จากนั้น ได้ร่วมกับนายปราโมทย์ฯ นำ น.ส.3 ก. ฉบับปลอมแปลง ไปหลอกลวงขายฝากให้กับนายไพรัช พันวินิต โดยมีการ จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการขายฝากที่ดินดังกล่าว ในราคา 15,900,000 บาท ณ สำนักงานที่ดินอำเภอวัฒนานคร เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 49 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
14.ทุจริตโดยปลอมแปลงหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1582 เลขที่ดิน 1 ต.ห้วยโจด (วัฒนานคร) อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว (ปราจีนบุรี) ให้แก่นายปราโมทย์ จุลกุล (นายปัณวิชญ์ กิจทวีทรัพย์) เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 34 จากนั้น ได้ร่วมกับนายปราโมทย์ฯ นำ น.ส.3 ก. ฉบับปลอมแปลง ไปหลอกลวงขายฝากให้กับ น.ส.น้ำทิพย์ แซ่อึ้ง โดยมีการ จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการขายฝากที่ดินดังกล่าว ในราคา 19,500,000 บาท ณ สำนักงานที่ดินอำเภอวัฒนานคร เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 49 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย (ดูภาพประกอบ)
จากข้อมูลที่ตรวจสอบพบข้างต้น จึงเป็นไปได้ว่า ตัวแปรสำคัญที่ทำให้หลายคดีของ นายสิทธิพร หรือกัญจน์ ทินณรงค์ ขาดอายุความ มาจากการหลบหนีคดี
แต่ต้องไปดูรายละเอียดในกระบวนการไต่สวนคดีของ ป.ป.ช. ว่าเป็นอย่างไร? มีปัญหาความล่าช้าเกิดขึ้นหรือไม่? เพราะแม้คดีจะมีจำนวนมาก แต่พฤติการณ์ในการกระทำความผิดก็มีลักษณะเหมือนกัน และก็มีคดีที่ส่งสำนวน อสส.ฟ้องร้องดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย และศาลฯ มีคำพิพากษาลงโทษ นายสิทธิพร หรือกัญจน์ ทินณรงค์ ไปแล้วด้วย
แต่ไม่ว่าข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้คดีความของ นายสิทธิพร หรือกัญจน์ ทินณรงค์ ขาดอายุความมากถึง 11 คดี มาจากสาเหตุอะไร?
สิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว คือ
1. การกระทำความผิดของ นายสิทธิพร หรือกัญจน์ ทินณรงค์ ต่างกรรมต่างวาระมากถึง 14 คดี มึมูลความเสียหายสูงกว่า 230 ล้านบาท ถูกตัดสินความผิดแค่ 1 คดี โทษคุก 1 ปี ปรับ 25,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ส่วนอีก 11 คดี รอดหมด
2. ในช่วงเดือนเมษายน 2557 ศาลปกครองสูงสุด เคยมีคำพิพากษาให้ กรมที่ดิน ผู้ถูกฟ้องคดี ชำระเงินค่าสินไหมทดแทนให้แก่ นายไพรัช พันวินิต ผู้ฟ้องคดี เป็นจำนวนเงิน 19,294,654.65 บาท และชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี จากต้นเงินจำนวน 17,101,610 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสรี็จมให้แก้ผู้ฟ้องคดี ซึ่งคดีนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการทุจริตของนายสิทธิพร หรือกัญจน์ ทินณรงค์ โดยปลอมแปลงหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1582 เลขที่ดิน 1 ต.ห้วยโจด (วัฒนานคร) อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว (ปราจีนบุรี) ให้แก่นายปราโมทย์ จุลกุล (นายปัณวิชญ์ กิจทวีทรัพย์) เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 34 จากนั้น ได้ร่วมกับนายปราโมทย์ฯ นำ น.ส.3 ก. ฉบับปลอมแปลง ไปหลอกลวงขายฝากให้กับนายไพรัช พันวินิต, นายรัตนชัย ล่องดุริยางค์ โดยมีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการขายฝาก ดังกล่าว ในราคา 15,900,000 บาท ณ สำนักงานที่ดิน อำเภอวัฒนานคร เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 50 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะมีผู้เสียหาย เพิ่มขึ้นจากการฟ้องร้องคดีนี้ต่อศาลปกครองอีกหรือไม่
ตัวเลขความเสียหายที่ กรมที่ดิน ต้องชำระเงินค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เสียหาย สุดท้ายแล้วจะอยู่ที่ตัวเลขเท่าไหร่? ใครจะต้องมีส่วนรับผิดชอบบ้าง?
ทั้งหมดนี้ เป็นความจริงที่ ป.ป.ช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรต้องมีคำชี้แจงเป็นทางการต่อสาธารณชน โดยเร็วที่สุด
อ่านเรื่องเกี่ยวข้อง
- รอลงอาญา! คุก1 ปี อดีตจนท.ที่ดินสระแก้ว สารภาพปลอม น.ส.3 ก. ขายให้เอกชนจำนอง EXIM Bank (1)
- เสียหาย230ล.! ย้อนข้อมูลคดีปลอม น.ส.3 ก.ขาย ก่อนอดีตจนท.ที่ดินสระแก้วรอลงอาญาคุก(คดีแรก) (2)
- สาวลึก! คดีปลอม น.ส.3 ก.ขาย-ศาลปค.สูงสุด เคยสั่งกรมที่ดินชดใช้ค่าเสียหาย19.2 ล.+ดอกเบี้ย (3)