"...กรณีเงินกู้ 295,000,000 บาท เป็นเงินที่กู้ในช่วง ปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงก่อนรับตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งตนทำธุรกิจอยู่ก่อนแล้ว ไปกู้มาเพื่อนำเงินสดมาใช้หมุนเวียนในการทำธุรกิจและซื้อที่ดินโดยเงินกู้นี้ออกมาเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่มีการต่ออายุสัญญาแบบปีต่อปี หรือที่เรียกว่าการโรลตั๋ว ...ส่วนคนที่ให้กู้ก็เป็นนักธุรกิจที่รู้จักกัน..."
กรณีเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 ที่ผ่านมา
โดย นายสุชาติ พร้อมด้วย น.ส.วิมลจิต อรินทมะพงษ์ คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 740,218,072 บาท ส่วนหนี้สินทั้งสิน 342,701,583 บาท
มีข้อมูลสำคัญชุดหนึ่ง ที่ถูกจับตามองอย่างมาก คือ ในจำนวนหนี้สิน 301,862,412 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชี เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น และหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 24 รายการ เป็นการกู้ยืมเงินตั้งแต่ช่วง มิ.ย.-ธ.ค. 2565 รายละ 5 - 15 ล้านบาท จากบุคคลกลุ่มหนึ่ง รวมจำนวน 295,000,000 บาท
น่าสนใจว่า วัตถุประสงค์ในการกู้เงินจำนวน 295,000,000 บาท ของ นายสุชาติ คือ อะไร? กลุ่มบุคคลที่ให้กู้ยืมเงินเหล่านี้เป็นใครมาจากไหน?
สำนักข่าวอิศรา นำข้อมูลเชิงลึกมานำเสนอ ณ ที่นี้
จากการตรวจสอบเอกสารประกอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ของ นายสุชาติ ที่แจ้งต่อสำนักงาน ป.ป.ช. พบว่า หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ จำนวนเงิน 295,000,000 บาท 24 รายการ เป็นการกู้ยืมเงินตั้งแต่ช่วง มิ.ย.-ธ.ค. 2565 รายการละ 5 - 25 ล้านบาท (ดูเอกสารประกอบ)
จากการสังเคราะห์ข้อมูลในเอกสารด้านบน จะพบว่า มีบุคคลที่ให้นายสุชาติ กู้ยืมเงินจำนวน 5 ราย เรียงลำดับวงเงินมากสุดไปหาน้อยสุด ดังนี้
1.นายวิโรจน์ ชลสายพันธ์ จำนวน 9 รายการ รวมวงเงิน 130,000,000 บาท
2.นางฉันทนา ชลสายพันธ์ จำนวน 6 รายการ รวมวงเงิน 75,000,000 บาท
3.นางทิพพา ต้นติวณิชย์ จำนวน 5 รายการ รวมวงเงิน 40,000,000 บาท
4. น.ส.อนุกุล สุสมบูรณ์ จำนวน 2 รายการ รวมวงเงิน 30,000,000 บาท
5.นางนันทรัตน์ ธรรมเจริญ จำนวน 2 รายการ รวมวงเงิน 20,000,000 บาท
@ สุชาติ ชมกลิ่น
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้ติดต่อไปยัง นายสุชาติ ชมกลิ่น เพื่อสอบถามข้อมูลเรื่องการกู้ยืมเงิน จำนวน 295,000,000 บาท ดังกล่าว
นายสุชาติ ชี้แจงว่า กรณีเงินกู้ 295,000,000 บาท เป็นเงินที่กู้ในช่วง ปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงก่อนรับตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งตนทำธุรกิจอยู่ก่อนแล้ว ไปกู้มาเพื่อนำเงินสดมาใช้หมุนเวียนในการทำธุรกิจและซื้อที่ดินโดยเงินกู้นี้ออกมาเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่มีการต่ออายุสัญญาแบบปีต่อปี หรือที่เรียกว่าการโรลตั๋ว
"ส่วนคนที่ให้กู้ก็เป็นนักธุรกิจที่รู้จักกัน" นายสุชาติระบุ
ส่วนที่ไม่ไปกู้กับธนาคารนั้น นายสุชาติ ชี้แจงว่า "เพราะการไปกู้เงินกับธนาคารต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่การกู้กับคนรู้จักสามารถใช้เครดิตของผมค้ำประกันได้ ประกอบกับดอกเบี้ยเงินกู้นั้นเท่ากับดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคาร"
เหล่านี้ คือ รายละเอียดเรื่องการกู้ยืมเงิน จำนวน 295,000,000 บาท และคำชี้แจงของ นายสุชาติ ที่ให้กับสำนักข่าวอิศราล่าสุด
ข้อเท็จจริงเป็นไปตามนี้หรือไม่ คงต้องติดตามดูกันต่อไป