‘ธนาธร’ เปิดใจโดนคดีนับสิบหลังทำงานการเมือง เจ็บปวดครอบครัวถูกกล่าวหาโกงชาติ ยันไม่ท้อถอย เดินหน้าทำงานต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 เม.ย.2565 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงข่าวเปิดเผยความรู้สึกและความคืบหน้าในคดีความต่างๆ ว่า นับตั้งแต่ทำงานการเมือง ตนต้องเผชิญคดี จำนวน 10 คดี โดยตั้งข้อสังเกตว่า หลายคดีมีความเคลื่อนไหวในช่วงนี้ ซึ่งกำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้งที่สำคัญถึง 3 เลือกตั้ง ได้แก่ การเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ และต้นปีหน้า จะมีการเลือกตั้งทั่วไป รวมถึงขณะนี้ คณะก้าวหน้ากำลังมีแคมเปญรณรงค์เข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวดว่าด้วยการกระจายอำนาจ หรือแคมเปญ ‘ขอคนละชื่อ ปลดล็อกท้องถิ่น’
ส่วนคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ซึ่งเกิดจากการที่แถลงผ่านไลฟ์เฟซบุ๊กในหัวข้อวัคซีนโควิด ที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน นายธนาธร ยืนยันว่า กรณีดังกล่าวเป็นการวิพากษ์วิจารณ์การบริหารวัคซีนของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่ามีลักษณะแทงม้าตัวเดียว คือแอสตร้าเซนเนก้า ทำให้ประชาชนเสี่ยงได้รับวัคซีนช้าและไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเวลาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่ตนกังวล กลายเป็นความจริง ปัจจุบันเป็นที่ชัดเจนแล้วในทางการแพทย์ ว่าวัคซีนที่ได้ผลที่สุดในการรับมือโควิด คือชนิด mRNA ไม่ใช่วัคซีนไวรัลเว็กเตอร์ และปัจจุบันรัฐบาลก็ได้ฉีดวัคซีน mRNA ให้กับประชาชนเป็นหลักแล้ว
นายธนาธร ยังกล่าวถึงกรณีที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เคยพยายามขอให้ศาลลบคลิปดังกล่าว โดยอ้างว่ากระทบต่อความมั่นคง แต่ตนได้ยื่นอุทธรณ์ และในวันที่ 4 ก.พ.2564 ศาลได้เพิกถอนคำสั่งลบคลิป โดยเห็นว่าเมื่อพิจารณาแต่ละถ้อยคำตามตัวอักษร ยังไม่สามารถเห็นได้อย่างกระจ่างชัดเจนว่าจะทำให้ผู้ฟังรู้สึกดูหมิ่นเกลียดชังสถาบันแต่อย่างใด แต่มีลักษณะเป็นการกล่าวหาว่าการกระทำของรัฐบาลจะกระทบถึงสถาบัน ทำให้จนถึงปัจจุบัน คลิปนี้ยังคงปรากฏต่อสาธารณะ
ส่วนกรณีคดีที่ดินราชบุรี นายธนาธรยอมรับว่าคดีนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่เจ็บปวดสำหรับตนเองมาก เพราะการกลั่นแกล้งยัดคดี ไม่ได้เกิดกับตัวเอง แต่ยังไปถึงคุณแม่และพี่สาว ทั้งครอบครัวถูกตราหน้าว่าเป็นพวกโกงชาติโกงแผ่นดิน กินที่ป่า ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการซื้อที่ผืนนี้ ครอบครัวได้ซื้อที่มาอย่างถูกกฎหมาย มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องทุกอย่าง ที่ดินซื้อขายกันมาหลายมือ และผู้ที่ขายให้คือบริษัทมิตรผล ซึ่งมีความน่าเชื่อถือ
“ครอบครัวเราครอบครองที่มาตั้งแต่ปี 2533 ไม่เคยมีปัญหาใดๆ จนกระทั่งผมมาทำงานการเมือง ก็มีการกล่าวหาว่าที่ผืนนี้ทับป่าสงวน ครอบครัวเรารุกที่ป่า ผมไม่มีปัญหาอะไรกับการสอบสวนตามขั้นตอน เพราะในประเทศไทย มีกรณีป่าทับที่ ที่ทับป่า ป่าสงวนออกทับเขตเอกชนมากมาย เป็นคดีความสร้างความเดือนร้อนให้ประชาชนทั่วประเทศ แต่กระบวนการที่เกิดกับครอบครัวผม ไม่ใช่กระบวนการปกติ” นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร กล่าวอีกว่า การดำเนินการคดีที่ดินราชบุรี อาจมีการแทรกแซงจากนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ซึ่งถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อเดือน ก.พ.2564 โดยนายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.พรรคก้าวไกล เปิดโปงการกว้านซื้อที่ดินในเขตนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ซึ่งนายนิพนธ์ใช้อำนาจในทางมิชอบ เอื้อประโยชน์พวกพ้องครอบครัวตัวเอง และพรรคก้าวไกลยังได้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่านายนิพนธ์มีลักษณะต้องห้าม ขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ต่อมาในเดือน ม.ค.2565 อธิบดีกรมที่ดิน ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายนิพนธ์ สั่งตั้งคณะทำงานชุดหนึ่งขึ้นมาแทรกแซงการทำงานของคณะกรรมการสอบสวนเรื่องที่ดินราชบุรีของครอบครัว ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามกฎกระทรวงอยู่แล้ว โดยปรากฏในรายงานข่าวของไทยรัฐออนไลน์ด้วยว่า นายนิพนธ์เป็นผู้สั่งการให้ตั้งคณะทำงานนี้ด้วยตัวเอง
นายธนาธรยังยกตัวอย่างกรณีเขายายเที่ยงของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี ที่มีบ้านพักตากอากาศในพื้นที่ทับป่าสงวนเช่นเดียวกัน สุดท้ายอัยการสั่งไม่ฟ้อง และเรื่องจบลงที่ พล.อ.สุรยุทธ์ รื้อถอนสิ่งก่อสร้าง ไม่มีคดีความใดๆ ตามมา
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของ ส.ส. และรัฐมนตรีชุดปัจจุบัน พบว่ามีส.ส.ไม่ต่ำกว่า 50 คน ถือครองที่ดินเข้าข่ายทับที่ป่า ซึ่งอันที่จริงเรื่องนี้เป็นปัญหาทั่วประเทศ ประชาชนมากมายเดือดร้อนจากการที่หน่วยงานรัฐถือข้อมูลไม่ตรงกัน ออกเอกสารสิทธิ์ให้เอกชนโดยไปทับที่ป่าสงวน หรือประชาชนอยู่มาก่อน แล้วมีการประกาศที่ป่าทับที่เอกชน กรณีนี้ไม่ต่างจากการถือหุ้นสื่อ ที่มี ส.ส. จำนวนมากถือหุ้นสื่อ แต่สุดท้าย ผู้ถูกตัดสิทธิ์กลับมีเพียง 2 คน คือตน และเพื่อน ส.ส. อนาคตใหม่ คือ นายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์
นายธนาธร กล่าวทิ้งท้าย ตนยืนยันว่าการทำงานนับตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในสนามการเมือง เป็นไปด้วยความมุ่งมั่นจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ดีขึ้น เท่าเทียมและเป็นธรรมมากขึ้น ไม่เคยคิดแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน อำนาจ ลาภยศสรรเสริญ แต่คดีความที่เกิดขึ้นเป็นการจงใจใช้กฎหมายเล่นงานเพื่อหยุดยั้งตนเองและเพื่อนร่วมงานจากการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศ
“ผมขอยืนยันว่าคดีความต่างๆ ไม่ได้ทำให้พวกเราท้อถอย ไม่สามารถหยุดยั้งการทำงานของเราได้ ทุกๆ ที่ที่ผมไป ผมได้รับกำลังใจมากมายจากประชาชน จับไม้จับมือ ให้น้ำ ให้ขนม ผมขอบคุณทุกกำลังใจ พวกคุณคือแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เรายังเดินหน้าทำงานต่อไป” นายธนาธร กล่าว