ตร.สาวลึก เส้นทางเงินศิษย์คนสนิทสมเด็จพระวันรัต คดีโกงเงินวัดบวรฯ เรียกโชว์รูมสอบปากคำหาหลักฐานมัดยักยอกเงินซื้อรถเบนท์ลี่ย์ ทะเบียน ภภ5 พบช่วงเวลาสอดคล้องช่วงเกิดเหตุ - เผยติดหรูเตรียมซื้อซุปเปอร์คาร์อีก 40 ล้าน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้ากรณีนายอภิรัตน์ ชยางกูร ณ อยุธยา อดีตเจ้าหน้าที่บริหารโครงการ กองโครงการธุรกิจ 2 ฝ่ายโครงการพิเศษ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ถูกสอบสวนการยักยอกเงินจากบัญชีของวัดบวรนิเวศวิหารและวัดสาขา หลังจากสมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรฯ มรณภาพเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา ไปใช้ส่วนตัวเป็นเงินจำนวนมาก ว่า จากการขยายผลแกะรอยเส้นทางการเงินของนายอภิรัตน์ เพื่อติดตามทรัพย์สินและเงินของวัดกลับคืนมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวได้สืบพบหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับที่ไปที่มาของรถหรูยี่ห้อ รถเบนท์ลี่ย์ หมายเลขทะเบียน ภภ5 กรุงเทพมหานคร
โดยพบว่า หลังได้เงินจากวัดไปนั้น นายอภิรัตน์ ได้นำไปซื้อรถคันดังกล่าวจากโชว์รูมแห่งหนึ่งในพื้นที่ กทม. ทางพนักงานสอบสวนกองปราบฯ จึงติดต่อเชิญตัวแทนโชว์รูม มาเข้าให้ปากคำ เพื่อสอบถามรายละเอียด ซึ่งจากการสอบปากคำ พบว่าช่วงเวลาที่นายอภิรัตน์ติดต่อซื้อรถคันดังกล่าวนั้นสอดคล้องกับช่วงเวลาที่ก่อเหตุยักยอกเงินจากทางวัดไปจริง
อีกทั้งทางตัวแทนของโชว์รูมดังกล่าวยังยืนยันอีกว่า นอกเหนือจากรถเบนท์ลี่แล้ว นายอภิรัตน์ ยังมีความคิดสนใจที่จะซื้อรถซุปเปอร์คาร์ ยี่ห้อแลมโบกินี่ มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท จากทางโชว์รูมเพิ่มเติมอีก 1 คัน แต่เนื่องจากขณะนั้นไม่มีรุ่นที่ต้องการ จึงทำให้อยู่ระหว่างการจัดหา หรือ จัดซื้อ กระทั่งมาถูกจับกุมตัวเสียก่อน
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากแนวทางสืบสวนยังพบว่า เงินที่นายอภิรัตน์ นำมาใช้ซื้อรถหรูบางคัน ไม่ได้มาจากการยักยอกเงินของวัดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มีบางส่วนเป็นเงินที่ได้มาจากการนำชื่อของสมเด็จพระวันรัต ไปแอบอ้างโดยพลการ เพื่อขอสนับสนุนเงินจากนายทุน หรือ กลุ่มลูกศิษย์วัดที่เคารพศรัทธา อ้างว่าจะนำไปใช้ในกิจนิมนต์ของสมเด็จพระวันรัต โดยที่สมเด็จพระวันรัต ไม่ทราบเรื่องหรือรู้เห็นกับการกระทำดังกล่าวแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังได้แอบขโมยพระเครื่องหายาก มูลค่าสูง ของวัดบางส่วนไปปล่อยเช่าให้กับเซียนพระ จำนวนหลายองค์มูลค่านับล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามกลับคืนมา
อ่านประกอบ :