"...การกระทําของจําเลยจึงเป็นการจงใจฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยและประกาศกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อันเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่เทศบาลตําบลนายม ประชาชน ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต..."
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2564 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้คำพิพากษา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ที่พิพากษาว่า นายสาร สมรักษ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลนายม อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ จำเลย ในคดีอนุมัติให้จัดจ้างโครงการก่อสร้างและปรับปรุงผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีต สายทางบ้านหนองแห่-บ้านนาเยีย ตำบลนายม โดยวิธีพิเศษมิชอบ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา
จากมีความผิดตามมาตรา 157 รับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี และปรับ 6,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ให้คุมความประพฤติจำเลยไว้ 1 ปี
เป็น ไม่ปรับ ไม่รอการลงโทษจำคุก และไม่คุมความประพฤติจำเลย
ข้อมูลที่ยังไม่มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะเป็นทางการ คือ รายละเอียดพฤติการณ์การกระทำความผิดของ นายสาร สมรักษ์ ในคดีนี้เป็นอย่างไร?
สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลคำพิพากษาคดีนี้ของศาลอุทธรณ์ ระบุว่า อัยการสูงสุด ในฐานะโจทก์บรรยายคำฟ้องว่า ขณะเกิดเหตุคดีนี้ จําเลย เป็นเจ้าพนักงานและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ดํารงตําแหน่งนายกเทศมนตรีตําบลนายม อําเภอเมืองอํานาจเจริญ จังหวัดอํานาจเจริญ มีอํานาจหน้าที่กําหนดนโยบายโดยไม่ขัดต่อกฎหมายและรับผิดชอบในการบริหารราชการของเทศบาลให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ เทศบัญญัติและนโยบาย สั่ง อนุญาตและอนุมัติเกี่ยวกับราชการของเทศบาลรวมทั้งปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ และมีอํานาจหน้าที่ในการอนุมัติการจัดซื้อจัดจ้างของเทศบาลให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535
ในปีงบประมาณ 2555 เทศบาลตําบลนายมได้รับการจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนเฉพาะกิจสําหรับพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรณีเร่งด่วน เพื่อดําเนินการโครงการก่อสร้างและปรับปรุงผิวทางแอสฟัลติกคอนกรีตโดยวิธี Pavement In - Place Recycling ถนนสายบ้านหนองแห่-บ้านนาเยีย ขนาดกว้าง 6 เมตร หนา 0.04 เมตร ระยะทาง 2,750 เมตร หรือมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 16,500 ตารางเมตร งบประมาณ 9,940,000 บาท
เมื่อระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม 2555 ถึงวันที่ 16 มกราคม 2556 เวลากลางวัน ต่อเนื่องกัน จําเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานมีอํานาจหน้าที่อนุมัติจัดซื้อจัดจ้างโครงการดังกล่าวกระทําความผิดต่อกฎหมาย
กล่าวคือ ในการจัดจ้างผู้รับจ้าง เมื่อ นางสาว ป. (ชื่อย่อ) เจ้าหน้าที่พัสดุทําบันทึกข้อความ ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2555 ถึงจําเลยเพื่อขออนุมัติจัดจ้างโดยวิธีประกวดราคาด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e - Auction) ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535 ข้อ 15 และตามประกาศกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เรื่อง หลักเกณฑ์การซื้อหรือการจ้างโดยการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 30 กันยายน 2553 ข้อ 5
โดยเสนอผ่านผู้บังคับบัญชา คือ นาง ว. หัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ กับนาย จ. ปลัดเทศบาลตําบลนายม พิจารณาตามลําดับชั้น และบุคคลทั้งสองมีความเห็นตามที่นางสาว ป. เสนอ
แต่จําเลยใช้อํานาจในตําแหน่งโดยมิชอบ อันเป็นการเสียหายแก่เทศบาลตําบลนายม โดยมีคําสั่งในบันทึกข้อความดังกล่าวว่า “ให้ดําเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของราษฎรที่เข้าชื่อร้องทุกข์และกล่าวโทษเอาไว้โดยด่วน"
ไม่เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยและประกาศกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นดังกล่าว
เนื่องจากงานก่อสร้างและปรับปรุงถนนตามโครงการนี้ มีวงเงินเกิน 2,000,000 บาท และไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะต้องทําโดยเร่งด่วน เพราะสภาพถนนประชาชนในพื้นที่ยังสามารถใช้สัญจรไปมาได้ เพียงแต่ไม่ได้รับความสะดวกในการใช้เส้นทาง ทั้งถนนไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดถูกตัดขาดหรือไม่สามารถใช้สัญจรไปมาได้โดยสิ้นเชิง
ครั้นเมื่อนางสาว ป. ทําบันทึกข้อความลงวันที่ 29 สิงหาคม 2555 ให้จําเลยพิจารณาทบทวนคําสั่งอีกครั้ง
จําเลยก็ยังคงยืนยันคําสั่งเดิม
ต่อมาเทศบาลตําบลนายมมีหนังสือเชิญผู้ประกอบการยื่นซองและเสนอราคา 5 ราย คือ ห้างหุ้นส่วนจํากัด เอพี มาสเตอร์แปลน ห้างหุ้นส่วนจํากัด อึ้งแซเฮง บริษัทยิ่งเจริญก่อสร้างบุรีรัมย์ จํากัด ห้างหุ้นส่วนจํากัด ล.พานิชเขื่องในก่อสร้าง และบริษัท อุบลสถาปัตย์ จํากัด
ซึ่งมีผู้มายื่นซองและเสนอราคา 4 ราย คือ บริษัทยิ่งเจริญก่อสร้างบุรีรัมย์ จํากัด เสนอราคา 9,938,434.98 บาท ห้างหุ้นส่วนจํากัด ล.พานิชเขื่องในก่อสร้าง เสนอราคา 9,935,000 บาท ห้างหุ้นส่วนจํากัด อึ้งแซเฮง เสนอราคา 9,937,774.98 บาท และบริษัทอุบลสถาปัตย์ จํากัด เสนอราคา 9,939,589.98 บาท ซึ่งแต่ละรายเสนอราคาแตกต่างกันจํานวนไม่มาก และผลการเสนอราคาปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจํากัด ล.พานิชเขื่องในก่อสร้าง เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดได้ทําสัญญากับเทศบาลตําบลนายม ตามสัญญาจ้าง เลขที่ 3/2555 ลงวันที่ 10 กันยายน 2555
จากนั้นห้างฯ ดังกล่าวเข้าดําเนินการก่อสร้างปรับปรุงถนนจนแล้วเสร็จและส่งมอบงาน รวมทั้งเทศบาลตําบลนายมเบิกจ่ายค่าจ้างให้แก่ห้างหุ้นส่วนจํากัด ล.พานิชเขื่องในก่อสร้าง เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2556
กรณีดังกล่าวหากจําเลยอนุมัติให้จัดจ้างโดยวิธีประกวดราคาด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e - Auction) ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยและประกาศกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นดังกล่าว ก็จะทําให้ผู้ประกอบอาชีพรับจ้างหรือผู้ประกอบการทราบการเผยแพร่ประกาศประกวดราคาอย่างแพร่หลาย ทําให้เกิดการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมทางราชการก็จะได้รับประโยชน์มากกว่าการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ
การกระทําของจําเลยจึงเป็นการจงใจฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยและประกาศกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อันเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่เทศบาลตําบลนายม ประชาชน ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
เหตุเกิดที่ตําบลนายม อําเภอเมืองอํานาจเจริญ จังหวัดอํานาจเจริญ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
จําเลยให้การปฏิเสธ
แต่ก่อนสืบพยานจำเลยขอถอนคำให้การเดิมและให้การใหม่ เป็นรับสารภาพ
เบื้องต้น ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 มีคำพิพากษาว่า นายสาร สมรักษ์ มีความผิดตามมาตรา 157 ให้ลงโทษจำคุก 2 ปี และปรับ 12,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี และปรับ 6,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ให้คุมความประพฤติจำเลยไว้ 1 ปี โดยให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง และให้จำเลยทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง
ก่อนที่ศาลอุทธรณ์ จะมีคำพิพากษาแก้เป็น ไม่ปรับ ไม่รอการลงโทษจำคุก และไม่คุมความประพฤติจำเลย
ส่วนเหตุผลที่ ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้ดังกล่าว เป็นเพราะอะไร จะขอนำเสนอในตอนต่อไป