ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'ดำรงค์ สิงหปรีชา' อดีตนายก อบต.บะ จังหวัดสุรินทร์ ปกปิดประกาศราคาจ้างเหมาขุดลอกหนองปรือ -เอื้อ หจก.ดำรงสุรินทร์ก่อสร้าง เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญา ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนโทษจำคุก 5 ปี ส่วน 'ถนอม ทองนรินทร์' ปลัด อบต.บะ จำเลยที่ 2 ไม่มีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 151 รับสารภาพลดโทษเหลือ 2 ปี 6 เดือน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายดำรงค์ สิงหปรีชา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บะ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ กับพวก คือ นายถนอม ทองนรินทร์ ปลัดอบต.บะ ปกปิดประกาศราคาจ้างเหมาขุดลอกหนองปรือ หมู่ที่ 10 เพื่อเอื้ออำนวยให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ดำรงสุรินทร์ก่อสร้าง เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญา
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 , 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 7, 12 ประกอบมาตรา 83 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2560
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ปรับบทลงโทษ นายดำรงค์ สิงหปรีชา จำเลยที่ 1 ความผิดตาม ป.อ. มาตรา 157
นายถนอม ทองนรินทร์ จำเลยที่ 2 ไม่มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 151
นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ที่เคยตัดสินว่า นายดำรงค์ สิงหปรีชา จำเลยที่ 1 นายถนอม ทองนรินทร์ จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ,157 ประกอบมาตรา 83
จำเลย ทั้งสองมีความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 12 ลงโทษบทหนักตามมาตรา 12
จำคุกคนละ 5 ปี
นายถนอม ทองนรินทร์ จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก จำเลยที่ 2 มีกำหนด 2 ปี 6 เดือน
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ลงมติเห็นชอบในกรณีที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วน พ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 12 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ มีความผิดฐานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปี ถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
อ่านข่าวในหมวดเดียวกัน :