"... ระบุในข้อ 4. การแบ่งปันผลประโยชน์ ข้อ 4.1 ว่า คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงในการแบ่งรายได้กันจากรายได้ที่ได้รับจริงจากการให้การตรวจรักษากับคนไข้ทุกสิทธิการรักษา ซึ่งรวมถึงรายได้ตามการจ่ายจริงของสิทธิหลักของภาครัฐ คู่สัญญา ตกลงแบ่งให้ “โรงพยาบาล" อัตราร้อยละ 20 ของรายได้จริง และ แบ่งให้ “บริษัท” อัตราร้อยละ 80 ของรายได้จริง..."
.................................
กรณีปรากฏข้อสังเกตโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ได้มีการว่าจ้างให้บริษัทเอกชนรายหนึ่งดำเนินงานศูนย์โรคหัวใจ โดยมีการทำสัญญาแบ่งสัดส่วนรายได้ให้บริษัทอยู่ที่ร้อยละ 80 ส่วนโรงพยาบาลจะมีรายได้สัดส่วนแค่ร้อยละ 20 เท่านั้น ทั้งที่ ในรายละเอียดสัญญาระบุไว้ชัดเจนว่า โรงพยาบาลเป็นฝ่ายจัดหาอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวกับการผ่าตัด ซึ่งอาจจะทำให้โรงพยาบาลประสบภาวะขาดทุนได้นั้น
(อ่านประกอบ:แฉ! รพ.มทส.จ้างทำศูนย์หัวใจแบ่งรายได้เอกชนสูง 80% ทั้งที่ใช้เครื่องมือตัวเอง-หวั่นขาดทุน)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการเปิดเผยข้อมูลสัญญาการดำเนินงานศูนย์โรคหัวใจ จากทีมงานพรรคก้าวไกลเพิ่มเติม
เมื่อตรวจสอบรายละเอียดสัญญาจ้างเอกชนดำเนินงานศูนย์โรคหัวใจ ของ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ดังกล่าว พบว่า มีการทำสัญญาแบ่งสัดส่วนรายได้ให้บริษัทอยู่ที่ร้อยละ 80 และกำหนดให้โรงพยาบาลเป็นฝ่ายจัดหาอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวกับการผ่าตัดจริง
โดยสัญญาฉบับนี้ ทำขึ้นเมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2563 ระหว่าง โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) กับ บริษัทรอยัล ฮาร์ท การแพทย์ (ประเทศไทย) จํากัด ระบุวัตถุประสงค์เพื่อตรวจและให้การรักษาแก่คนไข้โรคหัวใจ และหลอดเลือดร่วมกัน ที่ใช้ชื่อว่า “ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี : SUTH Cardiovascular Center”
ระบุในข้อ 4. การแบ่งปันผลประโยชน์ ข้อ 4.1 ว่า คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงในการแบ่งรายได้กันจากรายได้ที่ได้รับจริงจากการให้การตรวจรักษากับคนไข้ทุกสิทธิการรักษา ซึ่งรวมถึงรายได้ตามการจ่ายจริงของสิทธิหลักของภาครัฐ คู่สัญญา ตกลงแบ่งให้ “โรงพยาบาล" อัตราร้อยละ 20 ของรายได้จริง และ แบ่งให้ “บริษัท” อัตราร้อยละ 80 ของรายได้จริง
ข้อ 4.2 ระบุว่า “โรงพยาบาล” จะจ่ายเงินรายได้ส่วนแบ่งให้แก่ “บริษัท” เมื่อได้รับเงินรายได้จากการตรวจรักษาคนไข้โรคหัวใจแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ถึง วันที่ 31 ของทุกเดือน อาทิการรับเงินจากคนไข้ ทั่วไป หรือ การรับเงินชดเชยจากการบริการทางการแพทย์จากสิทธิภาครัฐ โดยการจ่ายตาม รอบการชําระเงินตามที่โรงพยาบาลกําหนดทุก ๆ เดือน หากโรงพยาบาลผิดนัดชําระตามกําหนด “โรงพยาบาล" ยินยอมชําระค่าปรับในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี
4.3 การจ่ายส่วนแบ่งรายได้แก่ “บริษัท” ตามข้อ 4.1 ให้จ่ายโดยผ่านบัญชีของ “บริษัท”เท่านั้น
4.4 คู่สัญญา ตกลงและยินยอมรับผิดขอบภาษีเงินได้ โดยให้ “โรงพยาบาล” ชําระภาษีเงินได้ของ“โรงพยาบาล” และ “บริษัท” ชําระภาษีเงินได้ ของ “บริษัท” ตามที่ได้รับจริง
ส่วนหน้าที่ความรับผิดชอบ กำหนดไว้ในสัญญาข้อ 1. ความรับผิดชอบของ “โรงพยาบาล” มีดังนี้
1.1 “โรงพยาบาล” จะเป็นผู้จัดหา สถานที่ เครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ Hotter , Temporary Pacemaker , Echo , EST , IABP เพื่อดําเนินการตามวัตถุประสงค์ของทั้งสองฝ่าย
1.2 “โรงพยาบาล” จะเป็นผู้จัดหาพยาบาลและบุคลากรประจําห้องสวนหัวใจและหลอดเลือด พยาบาลประจําหอผู้ป่วย พยาบาลแผนกผู้ป่วยนอก และพยาบาลประสานงานเพื่อปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง
1.3 “โรงพยาบาล” จะเป็นผู้จัดหายาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์พื้นฐานที่จําเป็นและรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายอันเกิดจากการให้ตรวจ รักษาคนไข้โรคหัวใจ อาทิเช่น หอพักผู้ป่วย ค่าอาหารผู้ป่วย ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ค่าเอกซเรย์ทางรังสีวินิจฉัย ค่าใช้จ่ายทําเวชภัณฑ์และเครื่องมือให้ปราศจากเชื้อ
1.4 “โรงพยาบาล” จะเป็นผู้รับผิดชอบดําเนินการจัดเก็บรายได้ และ/หรือส่งข้อมูลเรียกเก็บค่ารักษาอันเกิดเกิดจากการบริการสวนหัวใจและหลอดเลือดตามวัตถุประสงค์ของ ทั้งสองฝ่าย ให้เสร็จสมบูรณ์และทันเวลา
2. ความรับผิดชอบของ “บริษัท” มีดังนี้
“บริษัท” จะเป็นผู้รับผิดชอบจัดเตรียมห้องสวนหัวใจและหลอดเลือดให้ได้มาตรฐานเพื่อรองรับ การติดตั้งเครื่องโดยจะดําเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 120 วันนับจากวันที่ลงนามในสัญญา ฉบับนี้ ทั้งนี้ “บริษัท” และ “โรงพยาบาล” ตกลงกันให้มีการเปลี่ยนแปลงหรือขยาย ระยะเวลาการดําเนินการตามสัญญานี้ได้ ภายใต้เงื่อนไขและระยะเวลาตามประกาศ พรก. บริหารราชการฉุกเฉิน เพื่อควบคุมการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เท่านั้น และเมื่อ ห้องสวนหัวใจและหลอดเลือดแล้วเสร็จจะต้องแจ้งให้มีการตรวจสอบความถูกต้องตาม มาตรฐาน และจัดให้มีการบํารุงรักษาให้เป็นไปตามมาตรฐาน การซ่อมแซมเครื่องมือและ อุปกรณ์ให้มีความพร้อมใช้อยู่เสมอ รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยของศูนย์หัวใจและหลอดเลือด
2.2 “บริษัท” จะเป็นผู้ดําเนินการเตรียมการตรวจประเมินเพื่อเป็นหน่วยของหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และอํานวยสะดวกในการตรวจประเมิน
2.3 “บริษัท” จะเป็นผู้รับผิดชอบจัดหาวัสดอุปกรณ์เกี่ยวกับการสวนหัวใจและหลอดเลือดทั้งหมดที่เป็นอุปกรณ์ที่มีรหัส สามารถเบิกได้ตามสิทธิการรักษารัฐของทางภาครัฐ อาทิ สิทธิเบิกตรงข้าราชการ สิทธิประกันสังคม สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และสิทธิอื่น ตามที่กําหนด
2.4 “บริษัท” จะเป็นผู้จัดให้มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจ ที่เกี่ยวข้องมาปฏิบัติหน้าที่โดยสม่ำเสมอ เพื่อทําการตรวจ รักษาให้แก่คนไข้โรคหัวใจ ตามวัตถุประสงค์ของทั้งสองฝ่ายไม่น้อยกว่า 5 วันต่อสัปดาห์
2.5 “บริษัท” จะเป็นผู้รับผิดชอบการฝึกอบรมหลักสูตรที่จําเป็น/เกี่ยวข้อง และค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมบุคลากรเพื่อให้เกิดความเชี่ยวชาญและชํานาญ ในการให้การตรวจ รักษา และดูแลคนไข้โรคหัวใจอย่างได้มาตรฐานทางการแพทย์ที่กําหนดตลอดอายุสัญญา
2.6 บริษัทตกลงและยินยอมให้ “โรงพยาบาล” จัดการเรียนการสอนภายห้องสวนหัวใจและหลอดเลือดร่วมกันได้ เอกสารอันเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา
3. อายุสัญญา สัญญาฉบับนี้ให้มีอายุสัญญา 5 ปี (ห้าปี) นับตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2563 ถึงวันที่19 เมษายน 2568 เมื่อครบกําหนดแล้ว
-หากไม่มีการบอกเลิกสัญญาให้สัญญานี้มีผลต่อไปตามกําหนดเวลาอีก 3 ปี (สามปี) โดยต้อง เป็นลายลักษณ์อักษรให้คู่สัญญาอีกฝ่ายทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 50 วัน ก่อนสิ้น กำหนดสัญญา ทั้งนี้หากคู่สัญญาประสงค์จะต่อสัญญาโดยแก้ไขข้อกําหนดและเงื่อนไขใน สัญญา คู่สัญญาต้องทําสัญญาฉบับใหม่แทนฉบับเดิม หากคู่สัญญามีความ ประสงค์จะถือข้อกําหนดและเงื่อนไขตามสัญญาตามฉบับเดิมถือว่าสัญญาฉบับเดิมเป็น ข้อกําหนดและเงื่อนไขใหม่ของสัญญาที่ต่อระยะเวลา ทั้งนี้การเจรจาข้อกําหนดและ
-เงื่อนไขของสัญญานั้น จะต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรมและความเป็นหุ้นส่วน หรือ คู่สัญญาที่ดี
-หากคู่สัญญาฝ่ายใดประสงค์จะเลิกสัญญาให้ฝ่ายที่ประสงค์จะเลิกสัญญาแจ้งอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อทราบเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนไม่น้อยกว่า 1 ปี
ทั้งนี้ ในสัญญาดังกล่าว ยังมีการระบุเรื่องการรักษาความลับ ไว้ในข้อ 5 ว่า คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงว่า ข้อกําหนดและเงื่อนไขของสัญญาฉบับนี้รวมทั้งเอกสาร ข้อมูล การติดต่อ การดําเนินการ การหารือ การนัดพบ การประชุม ระหว่างคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายเป็น ข้อมูลลับทั้งหมด คู่สัญญา จะต้องรักษาและเก็บไว้เป็นความลับและจะไม่เปิดเผยหรือส่งข้อมูลลับ ให้แก่บุคคลที่สามหรือคู่แข่งทางการค้าของคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ใช้บังคับได้ในระหว่างระยะเวลาของสัญญาและภายหลังการยกเลิกสัญญา 1 ปี นับแต่วันเลิกสัญญา (ดูภาพถ่ายสัญญาประกอบ)
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค.2564 ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังบริษัทรอยัล ฮาร์ทฯ ผ่านเบอร์โทรของบริษัทที่ปรากฏอยู่บนเฟซบุ๊กของบริษัทฯ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้
เบื้องต้น มีพนักงานบริษัทรายหนึ่งรับทราบ แจ้งว่า ทำหน้าที่ด้านการประสานงานเท่านั้น ไม่ทราบรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับเรื่องสัญญาด้วยเลย
"เรื่องนี้ทางที่ดีอยากให้ผู้สื่อข่าวไปให้สอบถามกับ ทางศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีโดยตรงจะดีกว่า" พนักงานบริษัทรายนี้ ระบุ
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการฯ นี้ ปัจจุบันยังไม่มีการถูกตรวจสอบหรือชี้มูลความผิดจากหน่วยงานตรวจสอบแห่งใด
ผู้เกี่ยวข้องทั้งในส่วนภาครัฐ และเอกชนที่ปรากฎในข่าว จึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/