‘โฮร์เวิร์ธ เอชทีแอล’ ประเมินธุรกิจโรงแรมในกรุงเทพจะฟื้นตัวอย่างแข็งแรงในรูปตัว V หลังการกระจายวัคซีนครบถ้วน แต่ราคาห้องพักจะยังไม่กลับสู่ระดับก่อนโควิดจนกว่าจะพ้นปี 68 ไปแล้ว เหตุมีการตัดราคากันรุนแรง ขณะที่โรงแรมภูเก็ตจะฟื้นตัวแบบในรูปตัว U และฟื้นตัวชัดเจนปี 66
.......................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า โฮร์เวิร์ธ เอชทีแอล บริษัทผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษากับธุรกิจโรงแรม การท่องเที่ยว และสันทนาการ ออกรายงานเรื่อง ‘เส้นทางการฟื้นตัวของตลาดโรงแรมในกรุงเทพและภูเก็ต’ เผยแพร่ ณ เดือน พ.ค.2564 โดยระบุว่า การฟื้นตัวของโรงแรมในกรุงเทพมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นดังกราฟคล้ายรูปตัว V โดยอุปสงค์จากต่างชาติจะพลิกฟื้นอย่างแข็งแรงในครึ่งปีหลังของปี 2564 หลังจากการกระจายการฉีดวัคซีนครบถ้วนในตลาดอุปสงค์หลักของประเทศไทย และการผ่อนผันมาตรการกักตัว
อย่างไรก็ตาม รายได้ห้องพักเฉลี่ยต่อห้องจะไม่กลับไปสู่จุดเดิมในช่วงก่อนการระบาดของโรคโควิด 19 ภายในปี 2568 เนื่องจากการตัดราคาอย่างรุนแรงในช่วงการแพร่ระบาดและการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นจากจำนวนโรงแรมใหม่มากมายที่ทยอยเปิดตัวในปี 2564 ขณะที่อัตราการฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างช้าๆจากอุปสงค์ค่อนข้างมีจำกัด เนื่องจากลูกค้าส่วนมากมาจากการกักตัวและการท่องเที่ยวภายในประเทศในปี 2565 หลังจากที่ประเทศไทยเริ่มเปิดประเทศอย่างเป็นขั้นเป็นตอน อุปสงค์ในกรุงเทพจะพลิกฟื้นกลับมาในช่วงครึ่งปีหลัง จากตลาดสำคัญในเอเชียอย่างสิงคโปร์ ฮ่องกง และญี่ปุ่น
“ด้วยความที่กรุงเทพไม่ได้รับผลกระทบจากฤดูท่องเที่ยวและมีแหล่งอุปสงค์หลากหลาย ทั้งเชิงธุรกิจและเชิงท่องเที่ยว จึงคาดว่าอุปสงค์จะกลับมาฟื้นตัวได้เร็วกว่าภูเก็ต” โฮร์เวิร์ธ เอชทีแอล ระบุ
โฮร์เวิร์ธ เอชทีแอล ยังระบุว่า ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป กรุงเทพคาดว่าจะยกเลิกการควบคุมการเดินทางข้ามพรมแดนและร่วมมือทำข้อตกลงกับตลาดสำคัญอย่างประเทศจีน เพื่อสนับสนุนการเดินทางระหว่างไทยกับจีน ขณะเดียวกัน การเติบโตของอุปสงค์ในตลาดกรุงเทพยังได้รับอานิสงค์จากการขยายศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกของการฟื้นตัวของตลาดโรงแรมคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการรัดเข็มขัดงบประมาณของบริษัทเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายซึ่งส่งผลต่ออุปสงค์การเดินทางเชิงธุรกิจข้อจำกัด
ส่วนการฟื้นตัวของภูเก็ต คาดว่าจะไม่เร็วเท่ากับกรุงเทพ และจะเป็นรูปแบบค่อนไปทางตัว U เนื่องจากการพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางระยะไกล (ยุโรป) กับนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นอย่างมาก ในขณะที่ภูเก็ตมีโครงการโรงแรมใหม่ที่อยู่ในระหว่างก่อสร้างและเตรียมเปิดตัวอีกมากมายจนถึงปี 2568 ไม่รวมถึงโรงแรมที่เพิ่งเปิดก่อนหน้านี้ จึงคาดว่ารายได้ห้องพักเฉลี่ยต่อห้องจะกลับมาที่ระดับเดียวกับในปี 2562 ได้ภายในปี 2568 แต่ยังคงต่ำกว่าปี 2561
“รายได้ห้องพักเฉลี่ยต่อห้องปรับตัวลดลงในปี 2562 จากปี 2561 เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดลงหลังจากอุบัติเหตุทางเรือกลางปี 2561 ค่าเงินบาทแข็งตัว และความผันผวนทางเศรษฐกิจ เนื่องจากสงครามทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับในปี 2564 ที่รายได้ห้องพักเฉลี่ยต่อห้องจะลดลงจากปีก่อนหน้า เนื่องจากช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2563 เป็นช่วงก่อนการแพร่ระบาดใหญ่และเป็นช่วงไฮซีซั่น” โฮร์เวิร์ธ เอชทีแอล ระบุ
โฮร์เวิร์ธ เอชทีแอล ระบุว่า แผนการเปิดเกาะภูเก็ตที่เผชิญกับอุปสรรคจากการแพร่ระบาดรอบที่ 3 และการขาดแคลนลูกค้าชาวต่างชาติเป็นเวลานาน ทำให้โรงแรมบางส่วนต้องปิดตัวต่อไป ไม่ว่าจะแค่บางส่วนหรือปิดทั้งโรงแรม และในปี 2565 ตลาดภูเก็ตจะเริ่มกลับมาแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากตลาดอุปสงค์หลักของภูเก็ตหลายแห่งคาดว่าได้รับวัคซีนครบถ้วน ได้แก่ ยุโรป ออสเตรเลีย อเมริกาเหนือ สิงคโปร์ฮ่องกง ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
สำหรับในปี 2564 ภูเก็ตจะได้รับประโยชน์จากการพลิกฟื้นของอุปสงค์หลังจากที่ผ่านหน้ามรสุมแล้ว และปี 2566 คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด โดยอัตราการเข้าพักโรงแรมจะพุ่งสูงถึง 60% โดยเฉลี่ยจากอุปสงค์จากตลาดหลักอย่างจีน จากนั้นในปี 2567 เป็นต้นไป ตลาดโรงแรมจะฟื้นฟูตามอุปสงค์ที่สูงขึ้นตามลำดับ รีสอร์ทแห่งใหม่ที่ใช้แบรนด์ระดับนานาชาติจะสามารถกระตุ้นและดึงดูดอุปสงค์ใหม่จากลูกค้าประเภท FIT (Free and Independent Traveller)
อย่างไรก็ตาม อัตราการเข้าพักโรงแรมคาดว่าจะไม่กลับมาเท่ากับระดับของปี 2561 ภายในปี 2568 เนื่องจากการแข่งขันที่สูงมากระหว่างโรงแรมราคาระดับกลางที่มีเป็นจำนวนมากและการเติบโตที่ค่อนข้างช้าของอัตราการเข้าพักรีสอร์ทหรูเมื่อเทียบกับโรงแรมทั่วไปในตลาด
“ในส่วนของราคาขายนั้น ในปี 2568 ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อวันจะต่ำกว่าระดับของปี 2561 โครงการโรงแรมระดับบนแห่งใหม่ที่มีห้องพักประเภทราคาสูงอย่างเช่น วิลล่า และ/หรือห้องสวีทที่มีหลายห้องนอน ถูกคาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางราคาห้องพักเฉลี่ยต่อวัน แต่ทว่าการฟื้นตัวของราคาห้องพักจะถูกขัดขวางโดยการแข่งขันทางราคาอย่างดุเดือดในกลุ่มโรงแรมราคาระดับกลางและระหว่างโรงแรมกลุ่มนี้กับที่พักทางเลือกอย่างแอร์บีแอนด์บี อพาร์ตเมนต์ และคอนโดปล่อยเช่า” โฮร์เวิร์ธ เอชทีแอล ระบุ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/