กรมราชทัณฑ์เผยผู้ต้องขังติดโควิดรายใหม่ 1,902 ราย หายเพิ่ม 1,140 ราย คงเหลืออยู่ในความดูแล 14,714 ราย แจงปรับการรายงานให้สอดคล้อง ศบค. ยันไม่ให้เรือนจำ-ทัณฑสถานเปิดรับบริจาค เว้นแต่มีผู้ต้องการบริจาคเอง
.........................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2564 เวลา 14.00 น. ศบค. กรมราชทัณฑ์ เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดในเรือนจำและทัณฑสถาน ข้อมูล ณ วันที่ 29 พ.ค. 2564 เวลา 18.00 น. มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 1,902 ราย รักษาหาย 1,140 ราย มาจากเรือนจำคลองเปรม 339 ราย เรือจำกลางฉะเชิงเทรา 56 ราย ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง 55 ราย เรือนจำกลางบางขวาง 1,350 ราย และเรือนจำจังหวัดสงขลา 42 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังที่ยังติดเชื้ออยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 14,714 ราย
ส่วนเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ติดเชื้อเพิ่ม 3 ราย ติดเชื้อสะสม 181 ราย รักษาหายแล้ว 102 ราย
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดในเรือนจำและทัณฑสถาน ขอเรียนว่าสถานการณ์ในภาพรวมชัดเจนและดีขึ้น จากการตรวจสอบการติดเชื้อของเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังยืนยันว่าเรือนจำ 116 แห่ง ไม่มีผู้ติดเชื้อ และได้ปรับมาตรการห้องกักกันโรคขึ้น ส่วนเรือนจำที่พบการแพร่ระบาดได้พ้นสภาวะแล้ว 2 แห่ง คือ เรือนจำกลางเชียงใหม่ และเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ส่วนอีก 8 แห่ง ในเขต กทม. และนนทบุรี มีจำนวนผู้หายแล้วเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน คงเหลือเพียง 3 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดสงขลา เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา และทัณฑสถานวัยหนุ่มกลางที่ยังอยู่ในระหว่างการจัดระบบโรงพยาบาลสนาม
สำหรับข้อสงสัยเกี่ยวกับการรายงานยอดผู้ติดเชื้อของ ศบค.รท.ที่มีความแตกต่างจากยอดของ ศบค.นั้น กรมราชทัณฑ์ขอเรียนว่าได้มีการประสานกับกรมควบคุมโรคอย่างใกล้ชิด โดยได้มีการปรับระบบการจัดเก็บข้อมูล รูปแบบข้อมูล และระยะเวลาในการจัดส่งข้อมูล เพื่อให้รายงานสอดคล้องและเป็นไปในแนวทางเดียวกับ ศบค.ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ ยังชี้แจงและทำความเข้าใจต่อสังคม จากกรณีสื่อสังคมออนไลน์แชร์ข้อความเชิญชวนเพื่อขอรับบริจาคเงินและอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่เรือนจำและทัณฑสถาน เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ต้องขังจากการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด เพื่อเป็นการป้องกันมีให้เกิดความสับสน ขอเรียนว่า 'ได้สั่งการมิให้เรือนจำและทัณฑสถานใดๆ ประกาศเชิญชวนหรือประชาสัมพันธ์ เพื่อขอรับบริจาคเงินหรือสิ่งของอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด เว้นแต่ผู้มีจิตศรัทธาแจ้งความประสงค์ต้องการบริจาคหรือนำมามอบให้แก่เรือนจำและทัณฑสถานเอง จึงสามารถรับบริจาคได้'
โอกาสนี้ กรมราชทัณฑ์ จึงอยากเร่งสื่อสารสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชน พร้อมทั้งขอขอบคุณประชาชนทุกท่านที่ห่วงใยมอบเงิน และสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมทั้งสิ่งของที่จำเป็นต่างๆ ซึ่งน้ำใจของทุกท่านล้วนเป็นกำลังใจสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้ อีกทั้งขอยืนยันต่อประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มญาติผู้ต้องขังว่า กรมราชทัณฑ์จะดูแลและช่วยเหลือผู้ต้องขังทุกคนให้ได้รับการรักษาด้านสุขภาพอย่างเท่าเทียม เต็มที่ และดีที่สุดตามมาตรฐานของ สธ. ตลอดจนขอส่งกำลังใจไปยังเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ รวมทั้งประชาชนทุกคนให้ร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยกันนำพาประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤติโควิดไปด้วยกัน
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage