กรมราชทัณฑ์เผยผู้ต้องขังติดเชื้อโควิดใหม่ 1,228 ราย รักษาหายเพิ่ม 2,054 ราย แจงปมชายพ้นโทษเสียชีวิตกลางถนน เป็นผู้ป่วยสีเขียว ยันรักษาหายก่อนปล่อยตัว เตรียมพิจารณาเกณฑ์พักโทษลดความแออัดในเรือนจำและทัณฑสถาน
............................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2564 เวลา 13.00 นา. นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษก ศบค.รท. เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดในเรือนจำและทัณฑสถาน ข้อมูล ณ วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 เวลา 09.00 นาฬิกา มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 1,228 ราย รักษาหาย 2,054 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังที่ยังติดเชื้ออยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 16,319 ราย รวมเรือนจำและทัณฑสถานที่ยังมีผู้ติดเชื้อ จำนวน 14 แห่ง ดังนี้
เรือนจำกลางเชียงใหม่ รักษาหายเพิ่ม 1,986 ราย คงเหลือในความดูแล 1,544 ราย เรือนจำพิเศษ กทม. คงเหลือในความดูแล 1,704 ราย ทัณฑสถานหญิงกลาง ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย คงเหลือในความดูแล 1,158 ราย เรือนจำกลางคลองเปรม ติดเชื้อเพิ่ม 889 ราย คงเหลือในความดูแล 3,651 ราย เรือนจำพิเศษธนบุรี ติดเชื้อเพิ่ม 42 ราย รักษาหายเพิ่ม 23 ราย คงเหลือในความดูแล 3,671 ราย เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ติดเชื้อเพิ่ม 33 ราย คงเหลือในความดูแล 242 ราย ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง คงเหลือในความดูแล 158 ราย เรือนจำจังหวัดนนทบุรี คงเหลือในความดูแล 2,142 ราย เรือนจำกลางบางขวาง รักษาหายเพิ่ม 45 ราย คงเหลือในความดูแล 1,698 ราย ทัณฑสถานหญิงธนบุรี ติดเชื้อเพิ่ม 259 ราย คงเหลือในความดูแล 327 ราย เรือนจำกลางขอนแก่น คงเหลือในความดูแล 1 ราย เรือนจำพิเศษมีนบุรี คงเหลือในความดูแล 1 ราย เรือนจำจังหวัดสงขลา คงเหลือในความดูแล 16 ราย และเรือนจำกลางสมุทรปราการ ติดเชื้อเพิ่ม 4 ราย คงเหลือในความดูแล 6 ราย
นายวีระกิตติ์ ชี้แจงว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ ว่ามีชายที่พ้นโทษจากเรือนจำพิเศษ กทม. และติดเชื้อจากเรือนจำ ได้นอนเสียชีวิตอยู่บนบาทวิถี เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2564 นั้น ขอเรียนว่า ชายคนดังกล่าวได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิดก่อนพ้นโทษ โดยเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2564 ได้รับแจ้งจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ว่าติดเชื้อไวรัสโควิด จัดเป็นผู้ป่วยในกลุ่มสีเขียว ที่ไม่มีอาการป่วยแสดง เรือนจำจึงได้ประสานส่งต่อผู้ติดเชื้อรายดังกล่าว รวมกับผู้ต้องขังอีก 3 รายที่พ้นโทษพร้อมกัน ในวันที่ 11 พ.ค. 2564 ไปรับกรรักษาจากหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ต่อ ตามกระบวนการของการรักษาผู้ป่วยทั่วไป ซึ่งเป็นไปตามมาตรการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยของกรมราชทัณฑ์
นายวีระกิตติ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับมาตรการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดที่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ ทั้งแบบปกติ ปล่อยตัวชั่วคราว และการพักการลงโทษหรือลดวันต้องโทษจำคุก เรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่ง ต้องดำเนินการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโควิด ก่อนปล่อยตัวทุกราย และทุกกรณี โดยหากเป็นพื้นที่ กทม.และพื้นที่เสี่ยง ให้แจ้งชื่อและกำหนดการปล่อยตัวแก่สำนักงานสาธารณสุขก่อนปล่อยตัวไม่น้อยกว่า 5 วัน และในรายที่สงสัยว่าจะติดเชื้อให้ดำเนินการแยกกักตัวเพื่อสังเกตอาการ ก่อนปล่อย 14 วันหากไม่ติดเชื้อจึงปล่อยตัวได้ หากพบว่ามีการติดเชื้อ หรือเป็นผู้ติดเชื้อที่กำลังรักษาตัวอยู่ ให้ประสานหน่วยงานสาธารณสุขหรือโรงพยาบาลแม่ข่ายในพื้นที่เพื่อรับตัวเข้าสู่กระบวนการรักษา และในผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาจนหายแล้ว ก่อนปล่อยตัวให้แจ้งโรงพยาบาลในพื้นที่เพื่อติดตามผลต่อเป็นระยะเวลา 14 วัน
นายวีระกิตติ์ กล่าวปีดท้ายถึงมาตรการลดความแออัดในเรือนจำว่า กรมราชทัณฑ์กำลังพิจารณาโครงการพักการลงโทษกรณีพิเศษสำหรับผู้ที่เจ็บป่วยในสถานการณ์การแพร่ระบาด และการปรับขยายเกณฑ์พักการลงโทษ เพื่อให้นักโทษได้รับการพักการลงโทษมากขึ้น ทั้งหมดยังอยู่ระหว่างการพิจารณาถึงหลักเกณฑ์ และความเหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชน และภาพรวมของกระบวนการยุติธรรม รวมถึงการให้ผู้ต้องขังใช้สิทธิยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งได้รับความกรุณาจากสำนักงานศาลยุติธรรม ที่ได้ออกมาตรการลดการคุมขังและการเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดมา จะช่วยลดความแออัดของเรือนจำและทัณฑสถานได้เป็นอย่างดี
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage