กรมราชทัณฑ์รายงานผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 628 ราย รักษาหาย 22 ราย เสียชีวิต 1 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 15,373 ราย โดยพบการติดเชื้อเพิ่ม 1 เรือนจำ คือ เรือนจำกลางขอนแก่น รวม 13 แห่ง พร้อมวางแผนการรักษาเชิงรุกซ้ำเพื่อป้องกันการเสียชีวิต
.........................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2564 เวลา 14.00 น. นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษก ศบค.รท.เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดในเรือนจำและทัณฑสถาน ว่า มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 628 ราย รักษาหายเพิ่ม 22 ราย เสียชีวิต 1 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังที่ยังติดเชื้ออยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 15,373 ราย โดยพบการติดเชื้อเพิ่ม 1 เรือนจำ คือ เรือนจำกลางขอนแก่น รวมเรือนจำและทัณฑสถานที่พบผู้ติดเชื้อ 13 แห่ง ดังนี้
เรือนจำกลางเชียงใหม่ ไม่พบติดเชื้อเพิ่ม และรักษาหายอีก 18 ราย เรือนจำพิเศษ กทม. ติดเชื้อเพิ่ม 26 ราย และเสียชีวิต 1 ราย เรือนจำกลางคลองเปรม ติดเชื้อเพิ่ม 60 ราย เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ติดเชื้อเพิ่ม 14 ราย ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ติดเชื้อเพิ่ม 16 ราย เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ติดเชื้อเพิ่ม 304 ราย เรือนจำกลางบางขวาง ติดเชื้อเพิ่ม 206 ราย และรักษาหายอีก 4 ราย ทัณฑสถานหญิงธนบุรี ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย และเรือนจำกลางขอนแก่น ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย
นายวีระกิตติ์ฯ กล่าวว่า ผู้ต้องขังที่เสียชีวิตจำนวน 1 ราย เป็นผู้ป่วยชายอายุ 62 ปี จากเรือนจำพิเศษ กทม. เข้ารับการรักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยอาการเหนื่อย ซึมลง และความดันต่ำ การ X-ray พบปอดอักเสบ และมีภาวะไตวายร่วมด้วย แพทย์ได้ให้ยาและรักษาตามกระบวนการแล้ว แต่อาการไม่ดีขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยสูงอายุ และมีอาการรุนแรงจึงได้เสียชีวิตในที่สุด
"การดำเนินการต่อจากนี้ นอกจากเรื่องของวัคซีนแล้ว คือการวางแผนการรักษาผู้ติดเชื้อ เพื่อลดปริมาณผู้ป่วยหนักและเสียชีวิตลง โดยเฉพาะการแยกผู้ป่วยออกเป็นกลุ่มสี ตามอาการและภาวะเสี่ยง โดยปัจจุบันกลุ่มสีเขียว คือผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ หรือมีอาการป่วยเล็กน้อย และไม่มีภาวะเสี่ยง จะทำการดูแล รักษาภายในโรงพยาบาลสนามเรือนจำ ควบคู่กับการให้สารสกัดจากพืชฟ้าทะลายโจรและพืชฟ้าทะลายโจรชนิดบด และยาลดไข้ตามอาการ สำหรับผู้ป่วยสีเขียวที่ไม่มีอาการแต่มีภาวะเสี่ยง ทั้งโรคประจำตัว ภาวะอ้วน และสูงอายุ
จะดำเนินการจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์เพื่อลดความรุนแรงของโรค ไม่ให้อาการหนักจนกลายเป็นกลุ่มสีเหลือง และในกลุ่มสีเหลืองกับสีแดง จะส่งต่อการรักษาไปยังทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ หรือโรงพยาบาลแม่ข่ายของแต่ละเรือนจำ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อเพิ่มศักยภาพของโรงพยาบาลสนามเรือนจำให้สามารถรองรับผู้ป่วยสีเหลืองที่ต้องรับออกซิเจน เพื่อให้เพียงพอต่อการรักษามากขึ้น" นายวีระกิตติ์กล่าว
นายวีระกิตติ์ กล่าวต่อว่า การดำเนินการเพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในผู้ต้องขังยังคงดำเนินการต่อเนื่อง ทั้งในเรือนจำและทัณฑสถานที่พบผู้ติดเชื้อ และการสุ่มตรวจในเรือนจำที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ เพื่อวางแผนการฉีดวัคซีนในขั้นตอนต่อไป โดยขณะนี้ มีเรือนจำและทัณฑสถานพื้นที่เสี่ยงที่ดำเนินการตรวจเชื้อในผู้ต้องขังจนครบ 100% แล้วทั้ง 10 แห่ง คือ เรือนจำกลางเชียงใหม่ เรือนจำพิเศษกทม. ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำกลาง คลองเปรม เรือนจำพิเศษธนบุรี เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เรือนจำจังหวัดนนทบุรี เรือนจำกลางบางขวาง และทัณฑสถานหญิงธนบุรี รวมทั้งได้เริ่ม SWAB หาเชื้อซ้ำทุก 7 วัน เพื่อตรวจหาเชื้อในผู้ต้องขังที่ยังไม่พบเชื้อไปแล้ว ซึ่งจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะปกติ หรือสามารถแยกผู้ติดเชื้อและไม่ติดเชื้อออกจากกันได้อย่างชัดเจน
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage