กรมราชทัณฑ์เผยยอดผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 842 ราย อยู่ระหว่างการรักษา รวมทั้งสิ้น 14,049 ราย ใน 12 เรือนจำและทัณฑสถาน จากการตรวจเชื้อไปแล้ว 36,627 ราย แจงเตรียมฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องขังทุกราย
.......................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2564 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิดในเรือนจำแบะทัณฑสถาน พบผู้ต้องขังติดเชื้อเพิ่ม 842 ราย รักษาหายแล้ว 319 ราย รวมผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างการรักษา 14,049 ราย และพบการติดเชื้อรายใหม่ในทัณฑสถานหญิงธนบุรี ทําให้มีเรือนจําและทัณฑสถานทั่วประเทศ ที่พบผู้ติดเชื้ออยู่ จํานวน 12 แห่ง ประกอบด้วย
เรือนจํากลางเชียงใหม่ ติดเชื้อเพิ่ม 4 ราย หายป่วยเพิ่ม 8 ราย และอยู่ระหว่างการรักษา 3,588 ราย เรือนจําพิเศษ กทม. ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย หายป่วยเพิ่ม 299 ราย และอยู่ระหว่างการรักษา 2,560 ราย ทัณฑสถานหญิงกลาง ติดเชื้อเพิ่ม 17 ราย และอยู่ระหว่างการรักษา 1,393 ราย เรือนจํากลางคลองเปรม ติดเชื้อเพิ่ม 475 ราย และอยู่ระหว่างการรักษา 2,125 ราย เรือนจําพิเศษธนบุรี ไม่พบติดเชื้อเพิ่ม และอยู่ระหว่างการรักษา 2,830 ราย เรือนจํากลางฉะเชิงเทรา ติดเชื้อเพิ่ม 20 ราย หายป่วยเพิ่ม 11 ราย และอยู่ระหว่างการรักษา 91 ราย ทัณฑสถานบําบัดพิเศษกลาง ติดเชื้อเพิ่ม 38 ราย และอยู่ระหว่างการรักษา 101 ราย เรือนจําจังหวัดนนทบุรี ติดเชื้อเพิ่ม 18 ราย หายป่วยเพิ่ม 1 ราย และอยู่ระหว่างการรักษา 383 ราย เรือนจํากลางบางขวาง ติดเชื้อเพิ่ม 210 ราย และอยู่ระหว่างการรักษา 915 ราย เรือนจำพิเศษมีบุรี ไม่พบติดเชื้อเพิ่ม และอยู่ระหว่างการรักษา 2 ราย เรือนจํากลางสมุทรปราการ ไม่พบติดเชื้อเพิ่ม และอยู่ระหว่างการรักษา 2 ราย และทัณฑสถานหญิงธนบุรี ติดเชื้อเพิ่ม 59 ราย และอยู่ระหว่างการรักษา 59 ราย
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน มีการตรวจเชื้อในผู้ต้องขังแล้วจํานวน 36,627 ราย ตรวจครบ 100% จํานวน 8 แห่ง คือ เรือนจํากลางเชียงใหม่ เรือนจําพิเศษ กทม. ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจํากลางคลองเปรม เรือนจําพิเศษธนบุรี ทัณฑสถานบําบัดพิเศษกลาง เรือนจําจังหวัดนนทบุรี และทัณฑสถานหญิงธนบุรี โดยยังอยู่ระหว่างดําเนินการตรวจหาเชื้อให้ครบ 100% ในเรือนจํากลุ่มเสี่ยงเพิ่ม รวมถึงการ SWAB หาเชื้อซ้ําทุกๆ 7 วันในกลุ่มที่ยังไม่พบเชื้อ จนกว่าสถานการณ์จะปกติ
ด้านความคืบหน้าในการจัดหาวัคซีน ตามที่ได้รับแจ้งยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุข ว่าพร้อมฉีดวัคซีนโดยเริ่มจากกลุ่มผู้ต้องขังที่ยังไม่ติดเชื้อ ผู้ต้องขังกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ มีโรคประจําตัว เพื่อลดความรุนแรงของ โรค และลดอัตราการเสียชีวิต ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งขณะนี้ได้ดําเนินการฉีดวัคซีนในเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ในเรือนจําและทัณฑสถานเขต กทม. ไปแล้ว1,683 ราย จากทั้งหมด 1,770 ราย คิดเป็น 95% สําหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในส่วนภูมิภาคจะเป็นการดําเนินการโดยสํานักงานสาธารณสุขในพื้นที่ในการดําเนินการ ฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้สั่งการให้เรือนจําและทัณฑสถาน ดําเนินการป้องกันการติดเชื้อจากบุคคลภายนอก โดยเฉพาะการส่งอาหาร ด้วยการให้ผู้ส่งอาหารสวมชุด PPE พร้อมสวมหน้ากากอนามัย และ Face Shield ให้พร้อม โดยต้องเข้า-ออกเพื่อส่งสินค้าให้เร็วและใช้เวลาน้อยที่สุด สําหรับผู้ต้องขังที่เป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ที่ทําหน้าที่ส่ง อาหารไปแดนต่างๆ ก็ต้องสวมชุด PPE เพื่อป้องกันการแพร่เชื้ออีกทาง
นายอายุตม์ กล่าวปิดท้ายว่า กรมราชทัณฑ์ ขอขอบคุณความช่วยเหลือจากทุกหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องที่ได้เข้ามาช่วยสนับสนุนการดําเนินการ เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิดรวมถึงการสนับสนุนสิ่งของต่างๆ ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนที่ร่วมบริจาคให้แก่กรม ราชทัณฑ์ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ตลอดจนเรือนจําทัณฑสถานทั่วประเทศ ซึ่งเครื่องมือ อุปกรณ์ทาง การแพทย์ และสิ่งของที่ได้รับมา กรมราชทัณฑ์จะส่งมอบต่อไปยังเรือนจําและทัณฑสถานต่างๆ ตามความเหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ต้องขัง
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage