‘สุเทพ’ ลุยฟ้องหมิ่นประมาท ‘สุทิน-พรรคเพื่อไทย’ ปมอภิปรายพาดพิงเรื่องโฮปเวลล์ สมัยนั่ง รมว.คมนาคม ยันต้องทำให้เป็นตัวอย่าง ลั่นไม่เคยทำให้รัฐเสียหาย ปัด ‘บิ๊กตู่’ อุ้ม นัดไต่สวนมูลฟ้อง 31 พ.ค. – จ่อฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งด้วย
...................................
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2564 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และพรรคเพื่อไทย เป็นจำเลยที่ 1-2 ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 กรณีนายสุทินอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2564 โดยมีเนื้อหาพาดพิงนายสุเทพเรื่องโครงการโฮปเวลล์
นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ภายหลังยื่นฟ้องต่อศาลว่า นายสุทินอภิปรายในสภากล่าวหาว่าตนกระทำการด้วยความประมาทเลินเล่อในกรณีโฮปเวลล์ แล้วทำให้รัฐเสียหาย 26,000 ล้านบาท กล่าวหาว่า พล.อ.ประยุทธ์ ช่วยเหลือ พยายามประวิงเวลาไม่ให้ตนถูกดำเนินคดี ให้คดีหมดอายุความก่อน ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ ส.ส.อภิปรายในสภาคิดเอาเองว่าได้รับความคุ้มครองจากกฎหมาย พูดอะไรก็ได้ จะเห็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล มี ส.ส.หลายคนพูดจาไม่เหมาะสม ไม่พูดความจริง บิดเบือน ด่าว่านายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในสภา ทำได้เพราะมีกฎหมายคุ้มครอง แต่ว่ากฎหมายได้ปกป้องสิทธิคนที่อยู่นอกสภา ถ้าพาดพิงถึงบุคคลภายนอกเสียหาย กฎหมายไม่คุ้มครอง บุคคลภายนอกฟ้องคดีต่อศาลได้ ตนต้องการทำให้เห็นเป็นกรณีตัวอย่าง โดยกรณีนี้ศาลรับไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.359/2564 นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 31 พ.ค. 2564 ส่วนค่าเสียหายจะดำเนินการฟ้องทางแพ่งภายหลัง
“กรณีของผม ผมจำเป็นต้องทำ เพราะว่านักการเมืองพวกหนึ่งทำงานกันเป็นขบวนการ พูดโกหก พูดบิดเบือน พูดใส่ร้าย แล้วก็เอาไปเผยแพร่ในโลกโซเชียล ทำซ้ำๆ บ่อยๆ คนก็จะเชื่อ สังคมก็คล้อยตาม ผมจำเป็นที่จะต้องปกป้องเกียรติยศศักดิ์ศรีของผม ผมเคยถูกคนพวกนี้กระทำอย่างนี้มาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้และต่อไปนี้ผมจะไม่ยอมแล้ว ผมจะดำเนินการคดีทุกกรณี” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า กรณีโฮปเวลล์ที่อภิปรายเป็นตุเป็นตะในสภาว่าตนเป็นผู้ทำละเมิด ทำให้ประเทศเสียหาย ข้อเท็จจริงคือการตัดสินใจยกเลิกสัญญากับบริษัทโฮปเวลล์ กระทำโดยมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาลก่อนที่ตนจะไปดำรงตำแหน่งเป็น รมว.คมนาคม มีมติกันเสร็จเรียบร้อย ตั้งกรรมการพิจารณาว่าจะต้องยกเลิกสัญญาอย่างไร อาจจะต้องทำแผนรองรับอย่างไร เพราะบริษัทโฮปเวลล์ได้สัญญาสัมปทานไปแล้วไม่สามารถก่อสร้างให้สำเร็จได้ตามสัญญา เปอร์เซ็นต์ของเนื้องานที่ได้ประเมินติดตามกัน 6-7 ปี ก่อนหน้านั้น แสดงให้เห็นว่าบริษัทไม่สามารถทำได้ บริษัทก็ขอแก้สัญญาหลายครั้ง รัฐบาลก่อนหน้านั้นก็ช่วยแก้สัญญา เมื่อเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ รมว.คมนาคม ก่อนหน้าตน ก็เสนอเรื่องเข้าสู่ ครม. แล้วมีมติให้กระทรวงคมนาคมยกเลิกสัญญากับโฮปเวลล์
นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า เมื่อเข้ามาทีหลัง จึงมอบอำนาจให้นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทย ดำเนินการตามมติ ครม. พิจารณาในการร่างหนังสือบอกเลิกสัญญาจะต้องทำอย่างไร มีตัวแทนอัยการสูงสุด กฤษฎีกา หลายฝ่ายมาประชุมหลายครั้ง ทั้งหมดมีหลักฐานข้อเท็จจริง เมื่อได้ข้อสรุปจะบอกเลิกสัญญาอย่างไร ในฐานะ รมว.คมนาคม ลงนามในหนังสือบอกเลิกสัญญา หลังจากนั้นมีรัฐบาลมาอีกหลายรัฐบาล 23 ปีมาแล้ว พรรคเพื่อไทยเองเคยเป็นรัฐบาล มีคนของพรรคเป็นรัฐมนตรีหลายคน ไม่เห็นออกมาดำเนินการอะไร วันนี้มากล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นนายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์ 20 กว่าปีมาแล้วว่าไม่ปกป้องประโยชน์ชาติ ช่วยเหลือตน
“ผมจะเรียนว่าข้อเท็จจริง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้พยายามที่จะปกป้องผลประโยชน์ประเทศ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบรวบรวมหลักฐานเหตุการณ์ทั้งหมด เพราะเรื่องมันผ่านมา 20 กว่าปีแล้ว เดี๋ยวนี้ผมคิดว่ารัฐบาลจะมีข้อมูลครบถ้วน รมว.คมนาคม คนปัจจุบันก็ได้ช่วยรวบรวมหลักฐาน เอกสารทั้งหลาย พยานทั้งหลายครบถ้วน เขาจะต้องดำเนินการต่อไปตามกระบวนการของกฎหมาย นี่เป็นข้อเท็จจริง สิ่งที่ ส.ส.สุทิน เอาไปพูด ไม่ทราบว่าเขาคิดอย่างไร แต่ว่าไม่พูดความจริงทั้งหมด พูดเฉพาะในประเด็นว่าผมเป็นคนลงนามในหนังสือบอกเลิกสัญญา แต่ไม่ได้พูดถึงความเป็นมาก่อนหน้านั้นและหลังจากนั้น ผมก็ตั้งใจว่าจะเอาความจริงทั้งหมดมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงกันในศาล ผมไม่ต้องการเห็นการโจมตีใส่ร้าย แล้วก็ทำกันเป็นขบวนการเอาไปเผยแพร่ในโลกโซเชียล เพื่อที่จะทำลายของเครดิตฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง” นายสุเทพ กล่าว
หมายเหุต : ภาพประกอบนายสุเทพ จาก https://www.thaipost.net/
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage