รองผู้บังคับการ ตร.ภูเก็ต ร่วมหลายหน่วยงาน ลงพื้นที่สอบคดี บุกรุกป่าเทือกเขานาคเกิด เข้าเงื่อนไข กม. เสียหาย เกิน 100 ไร่ เตรียมส่งดีเอสไอลุย ได้ตัวพยานสำคัญโยงจนท.รัฐ
.........................................
จากกรณีที่มีกลุ่มบุคคลร่วมกันครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเทือกเขานาคเกิด ป่าเหนือเขื่อนบางวาด แหล่งต้นน้ำของเขื่อนบางวด ซึ่งการประปาภูมิภาคใช้เป็นแหล่งน้ำดิบผลิตประปาของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งชนวนการบุกรุกได้ตัดถนนรุกป่าเชื่อมระหว่างพื้นที่ ต.กะทู้ อ.กะทู้ กับ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ส่งผลให้มีการร้องเรียนไปยังศูนย์ป้องกันและปราบปราม 4 กรมป่าไม้ เป็นเหตุให้ นายศุภชัย สุกใส ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปราม 4 กรมป่าไม้ หรือ ชุดพยัคฆ์ไพร ใต้ ได้ร่วมกับ นายบุญลาภ สุกใส ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 12 สาขากระบี่ นำกำลังเข้าจับกุม แล้วนั้น
เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2564 พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.กิติพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สภ.กะทู้ พ.ต.ท.วิเชษฐ์ สุวรรณโณ รอง ผกก.สอบสวน สภ.กะทู้ พร้อมพนักงานสอบสวนเวร สภ.กะทู้ โดยมีนายสมหมาย เมืองฉิม หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ ภก.2 กะรน ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ได้นำชี้ที่เกิดเหตุ แต่เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุมีเนื้อที่ จำนวน 108 ไร่ 3 งาน 43 ตารางวา (เกิน 100 ไร่ ) ซึ่งเข้าเงื่อนไงประกาศกระทรวงยุติธรรมที่กำหนดให้เป็นคดีพิเศษ แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ซึ่งได้แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 7 เมื่อ ปี พ.ศ.2562 นอกจากนั้นยังพบว่า พื้นที่เกิดเหตุการณ์บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขานาคเกิดในครั้งนี้ คาบเกี่ยวกับพื้นที่ของ ต.วิชิต อ.เมือง ภูเก็ต ด้วย หากพนักงานสอบสวนของ สภ.กะทู้ดำเนินคดีในตำบลวิชิตก็อาจจะนำสู้การดำเนินคดีนอกพื้นที่รับผิดชอบ แต่หากเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะร้องทุกข์ที่ สภ.วิชิต ก็อาจจะส่งผลให้เกิดความผิดพลาดในการดำเนินคดีซ้ำซ้อน จึงเป็นเหตุที่มีความจำเป็นต้องร้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษในการรับเป็นคดีพิเศษต่อไป
รายงานข่าวเพิ่มเติมอีกว่า คณะพนักงานสอบสวนได้เรียกพยานปากสำคัญที่เป็นผู้แจ้งเบาะแส้การกระทำความผิดในครั้งนี้มาสอบสวนแล้ว และ พยานได้ยืนยันกับพนักงานสอบสวนว่า มีเจ้าหน้าที่ที่จำหน้าได้รู้จักชื่อ สองหน่วยงาน 1 หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการป้องกันรักษาป่าและทรัพยากรธรรมชาติ 2 เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่มีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามเช่นเดียวกันและมีที่ทำงานอยู่ใกล้ทางขึ้นเขาโต๊ะแซะ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งบุคคลนี้มีหน้าที่ในการทำงานเชิงรุกที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ในพื้นต่างๆของจังหวัดภูเก็ตด้วย และมีรายงานว่า หน่วยงานแรกได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่บุคคลต้องสงสัยที่พยานยืนยันออกจากพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และ ไปประจำที่กรุงเทพมหานครแล้ว โดยที่ไปรายงานตัวที่ต้นสังกัดเมื่อต้นสัปดาห์นี้
ขณะที่เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2564 นี้ นายไตรทิพย์ สกุลประดิษฐ์ นายอำเภอกะทู้ และ นายพัฒน์พงษ์ เหนือคลอง ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันอำเภอกะทู้ ได้ลงไปตรวจพื้นที่เกิดเหตุด้วย
นายศุภชัย กล่าวว่า ได้รายงานผลการจับกุมและพื้นที่เกิดเหตุไปยังกรมอธิบดีกรมป่าไม้แล้ว เข้าใจว่า งานเอกสารทางธุรการ จะถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษในไม่นานนี้
นายบุญลาภ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ในจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นชุดใหม่ที่มีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดต่อทรัพยากรป่าไม้ ได้ลงพื้นที่ ตรวจป่าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตโดยต่อเนื่อง หากพบการกระทำความผิดได้กำชับให้มีการจับกุมร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนดำเนินคดีโดยไม่เว้น ซึ่งขณะนี้ได้มีประชาชนร้องเรียนมายังสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 12 หลายกรณี บางกรณีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่มีการแสดงเอกสารสิทธิ์ที่ดินซึ่งได้ส่งเอกสารที่ถูกอ้างถึงไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิสูจน์จุดเกิดเหตุกับพื้นที่จริงว่าอยู่ในตำแหน่งเดียวกันหรือไม่
แหล่งข่าวพนักงานอัยการสำนักงานอัยการแห่งหนึ่งกล่าวว่า การที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดต่อทรัพยากรธรรมชาติ เข้าไปเกี่ยวข้องกระทำความผิดต่อทรัพยากรธรรมชาติเสียเอง พนักงานสอบสวน ต้องแจ้งข้อกล่าวหาตามความผิดคดีอาญา มาตรา 151 และ หากพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ไม่แจ้งข้อกล่าวหาตามความเป็นจริง พนักงานสอบสวนก็อาจจะเข้าข่ายมีความผิดอาญาตามมาตรา 157
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง
แจ้งจับแล้ว! ขบวนการบุกรุกป่าเทือกเขานาคเกิด จ.ภูเก็ต ส่อโยงคดีฆ่าคนครอบครอง
ชัดแล้ว! ป่าไม้-ดีเอสไอ พบตัดถนน สร้างบ้านพัก สระน้ำ รุกป่าเทือกเขานาคเกิด จ.ภูเก็ต จริง
ดีเอสไอ ร่อนหนังสือกรมป่าไม้ลุยสอบรุกป่าเขานาคเกิด จ.ภูเก็ต 200 ไร่