เงินดอลลาร์อ่อน ผสมโรง ‘เงินทุนไหลกลับ’ ทำค่าบาทต่อเนื่อง ล่าสุดปิดที่ 30.94 บาทต่อดอลลาร์ 'แบงก์ชาติ' เผยตั้งแต่สิ้นเดือนพ.ค.ถึงวันที่ 11 มิ.ย. เงินบาทแข็งแล้ว 2.71% แนะผู้ส่งออกประกันความเสี่ยง-กระจายธุรกิจระหว่างประเทศ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. เงินบาทปิดตลาดที่ 30.94 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.) ที่ปิดที่ 31.12 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยระหว่างวันค่าเงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 6 เดือน ซึ่งที่ระดับ 30.825 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐก่อนจะอ่อนค่าลง ขณะที่ ณ สิ้นปี 2562 เงินบาทอยู่ที่ 31.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายสื่อสารและความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การแข็งค่าของเงินบาทในช่วงนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับเงินสกุลในภูมิภาค โดยนับตั้งแต่สิ้นเดือน พ.ค. ถึงปัจจุบัน (11 มิ.ย. 63) เงินบาทปรับแข็งค่าขึ้น 2.71% รองจากเงินรูเปียของอินโดนีเซีย และเงินวอนของเกาหลีใต้ สาเหตุหลักมาจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ส่งผลให้เงินทุกสกุลในภูมิภาคแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับเงินทุนที่ไหลเข้าประเทศในช่วงที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นเงินไหลกลับของนักลงทุนที่เป็นทั้งนักลงทุนไทยและกองทุนต่างๆ ที่ออกไปลงทุนในต่างประเทศในช่วงก่อนหน้า ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรในเดือนมิถุนายน แต่ยังไม่มาก
นางจันทวรรณ ยังระบุว่า ความไม่แน่นอนในสภาวะเศรษฐกิจและตลาดการเงินโลกและของไทย อาจส่งผลให้ค่าเงินมีความผันผวน จึงขอแนะนำให้ผู้ประกอบการ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ และควรกระจายสกุลเงินในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ หลีกเลี่ยงการอิงกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเพียงสกุลเดียว
โดยเฉพาะหากเป็นการซื้อขายระหว่างกันเองในภูมิภาค การพิจารณาเลือกเงินสกุลเพื่อกำหนดราคาสินค้า (invoicing currency) ในสกุลที่เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันจะมีโอกาสช่วยลดความผันผวนของรายรับในสกุลบาท นอกจากการใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่สถาบันการเงินให้บริการอยู่แล้ว
อ่านประกอบ :
เปิดรายงานกนง. : มองศก.ไทยหดตัวเกินคาด-กังวลบาทแข็ง-ห่วงตกงานถาวรหลังโควิด
ทั่วโลกอัดฉีดฟื้นเศรษฐกิจ ‘ยังไม่เห็นผล’ ส่งออกไทย รอสร่าง ‘ไข้โควิด’ ปีหน้า
กำชับดูแลค่าบาท! กนง.หวั่นกระทบการฟื้นตัวเศรษฐกิจ-เตรียมรื้อจีดีพีปี 63
เศรษฐกิจเม.ย.หดแรง! ธปท.ห่วงตกงานพุ่ง-ทุนไทยขนเงินกลับปท.เดือนเดียว 2.2 แสนล้าน
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/