เเพทยสภา-คณะเเพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จัดเเถลงเรียกร้อง ปชช.กลุ่มเสี่ยง ร่วมรับผิดชอบสังคม รับทราบวิธีปฏิบัติถูกต้อง 27 ก.พ. 63 เวลา 11.00 น. ณ รพ.ศิริราช หลังผู้ป่วยปกปิดประวัติเดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยง COVID-19
สืบเนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 (COVID-19) ซึ่งมีสาเหตุมาจากประชาชนกลุ่มเสี่ยงขาดความรู้ ความเข้าใจในการปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง โดยเฉพาะการให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับผู้บังคับบัญชา หรือบุคลากรทางการแพทย์ หลังมีโอกาสสัมผัสโรค เช่น การเดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ จีน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และอิตาลี หรือเมื่อมีอาการไอ ไข้ มีน้ำมูก หายใจลำบาก เมื่อเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาล แต่ไม่เปิดเผยประวัติ ดังที่มีข่าวเกิดขึ้น กรณีที่มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ แล้วภายหลังพบว่ามีการปกปิดประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ จนทำให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แพทยสภา ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จึงจัดแถลงข่าวเรียกร้องให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงร่วมรับผิดชอบต่อสังคม รวมทั้งรับทราบวิธีการปฏิบัติที่ถูกต้องของประชาชนกลุ่มเสี่ยง ในวันที่ 27 ก.พ. 2563 เวลา 11.00 น. ณ ห้อง D204 อาคารศรีสวรินทิรา ชั้น 2 รพ.ศิริราช โดยมี ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา คนที่ 1 และคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นประธานการแถลงข่าว ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผอ.ศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และศ.พญ.ยุพิน ศุพุทธมงคล หัวหน้าสาขาวิชาโรคติดเชื้อและอายุรศาสตร์เขตร้อน ภาควิชาอายุรศาสตร์ และผู้เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว
ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อแห่งชาติ พ.ศ.2558 บัญญัติบทลงโทษกรณีปิดบังข้อมูลการเดินทาง เมื่อพบอาการป่วยที่เกิดจากความเสี่ยง บทกำหนดโทษต่ำสุด ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และโทษสูงสุด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ .
หมวด 9 บทกำหนดโทษ
มาตรา 49 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของคณะกรรมการ คณะกรรมการด้านวิชาการ หรือคณะอนุกรรมการตามมาตรา 18 หรือคําสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตามมาตรา 22 (6) หรือคําสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครตามมาตรา 28(6) หรือคําสั่งของเจ้าพนักงาน ควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 45 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา 50 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการแจ้งตามมาตรา 31 ต้องระวางโทษปรับ ไม่เกินสองหมื่นบาท
มาตรา 51 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 34 (1) (2) (5) หรือ (6) มาตรา 39 (1) (2) (3) หรือ (5) มาตรา 40 (5) หรือไม่อํานวยความสะดวก แก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 39 (4 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
มาตรา 52 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 34 (3) (4) (7) หรือ (8) หรือมาตรา 40 (3) หรือ (4) หรือผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตามมาตรา 35 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ:ติดเชื้อเพิ่ม 3 ราย กลับจากฮอกไกโด! 'อนุทิน' วอนสายการบินงดเเจกโปรโมชั่นถูกเที่ยว ปท.เสี่ยง
สู้ไวรัส! 'สิงคโปร์แอร์ไลน์' จ่อลดชม.ทำงานพนักงาน 'บิ๊กบินไทย' หั่นเงินเดือน 15-25%
ระบาดกว้าง 33 ปท. อนามัยโลก ระบุ อัฟกานิสถาน บาห์เรน อิรัก โอมาน พบเชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุด
รมช.สธ.อิหร่าน ติดเชื้อไวรัสโควิด-19
ใกล้แตะ 900 รายผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเกาหลีใต้-ดับรายที่ 8 ไทยพบเพิ่มอีก 2
โควิด-19 กระทบส่งออกกุ้งมีชีวิต-เเช่เย็น คาดยอดต้นปี 63 ลดฮวบ -เสียหายสูงสุด 650 ล.
'มหิดล' พบบุคลากรต้องสงสัยติดไวรัสโควิด-19 รอผลตรวจยืนยัน สั่งดูแลใกล้ชิด