
‘กรมบัญชีกลาง’ ออกแนวปฏิบัติใหม่จัดซื้อฯวงเงินไม่เกิน 5 หมื่นบาท ให้จัดทำรายละเอียด 3 รายการ จากเดิม 8 รายการ เลือกซื้อสินค้าจาก ‘ร้านค้า’ ที่ประกาศเป็นการทั่วไป แทนการต้องหา 'คู่เทียบ' 3 ราย เพิ่มความคล่องตัวจัดหาพัสดุฯ มีผล 1 ธ.ค.นี้
...............................................
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ (คณะกรรมการวินิจฉัย) ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับการจัดซื้อ สำหรับการซื้อครั้งหนึ่งที่มีวงเงินไม่เกิน 50,000 บาท โดยให้มีขั้นตอนที่กระชับขึ้น สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
1.การทำรายงานขอซื้อ ให้มีรายละเอียดเพียง 3 รายการ ได้แก่ 1) รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อ 2) วงเงินงบประมาณ และ 3) ราคากลาง (โดยใช้วงเงินงบประมาณเป็นราคากลาง) จากเดิมที่ต้องจัดทำอย่างน้อย 8 รายการ
2.หน่วยงานของรัฐสามารถยืมเงินหรือใช้เงินสดสำรองจ่าย ไปดำเนินการจัดซื้อในครั้งนั้นๆ ได้
3.ให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ซื้อในครั้งนั้นเป็นผู้ตรวจรับได้
4.การเลือกผู้ประกอบการ ต้องเป็นผู้ประกอบการที่ได้มีการประกาศราคาสินค้าเป็นสาธารณะ และต้องสามารถออกหลักฐานการชำระเงินในรูปแบบใบรับหรือใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ที่มีรายละเอียดตามที่ประมวลรัษฎากรกำหนดได้
5.ให้จัดทำรายงานสรุปผลการจัดซื้อในครั้งนั้น เสนอต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐหรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจดำเนินการภายใน 5 วันทำการ นับถัดจากวันที่ได้ดำเนินการจัดซื้อ
6.จัดทำประกาศผลผู้ชนะการจัดซื้อหรือผู้ที่ได้รับการคัดเลือก และดำเนินการประกาศผลในระบบ e-GP เป็นรายไตรมาส
นางแพตริเซีย กล่าวว่า แนวทางการปฏิบัติสำหรับการจัดซื้อวงเงินไม่เกิน 50,000 บาท ดังกล่าว มีผลใช้บังคับกับการจัดซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2568 เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินการจัดซื้อของหน่วยงานของรัฐ มีความคล่องตัวมากขึ้น ทำให้หน่วยงานของรัฐสามารถเลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าในราคาที่มีการประกาศเป็นการทั่วไป แทนการต้องหาคู่เทียบ 3 ราย อีกทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดหาพัสดุของหน่วยงานของรัฐให้เป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว และลดขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา