
การทางพิเศษฯ เตรียมลุยโครงการทางด่วนเชื่อมเกาะสมุย มูลค่า 55,000 ล้านบาท ระยะทางยาว 37.41 กม. ผู้ว่าฯยืนยันแม้มูลค่าลงทุนสูง แต่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ พร้อมเตรียมการด้านสาธารณูปโภค สิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการขยะ การันตีโครงสร้างพร้อมรับภัยพิบัติทางธรรมชาติ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 15 กันยายน 2568 นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) เปิดเผยว่า หลังจากนำกรรมการ กทพ. และสื่อมวลชนลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อสำรวจแนวสายทางโครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย ข้อมูลเบื้องต้น โครงการนี้มีระยะทางประมาณ 37.41 กม. มูลค่าลงทุนราว 55,000 ล้านบาท
ปัจจุบัน ได้แนวเส้นทางที่เหมาะสมแล้ว โดยการศึกษาความเหมาะสมคืบหน้าแล้ว 89.54% คาดว่าจะสรุปผลการศึกษาในต้นปี 2569 ซึ่งจะออกแบบรายละเอียดและศึกษารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อเสนอคณะกรรมการ(บอร์ด) กทพ.และคณะรัฐมตรี (ครม.) อนุมัติ ในปี 2570 คาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างในปี 2572 ใช้ระเวลาก่อสร้าง 5 ปี แล้วเสร็จปี 2577
นายสุรเชษฐ์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม โครงการนี้มีค่าก่อสร้างสูงเนื่องจากเป็นสะพานก่อสร้างข้ามทะเล โดยมีการออกแบบช่วงสะพานถึง 3 รูปแบบ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ ขณะที่การรองรับปริมาณจราจรจะไม่สูงมาก ดังนั้น จำเป็นต้องเก็บค่าผ่านทางที่สูงกว่าทางด่วนทั่วไป โดยหากเทียบเคียง ค่าผ่านทางจะไม่ต่ำกว่าค่าเรือเฟอรรี่ โดยกทพ.จะลงทุนก่อสร้างเอง โดยต้องให้รัฐบาลช่วยอุดหนุนและให้เอกชนร่วมลทุน (PPP) ในงานระบบและซ่อมบำรุง ซึ่งจะมีการศึกษารายละเอียดต่อไป
ขณะที่มูลค่าการลงทุนของโครงการ นายสุรเชษฐ์ระบุว่า ถือว่าสูง แต่หากมองในแง่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้ประเทศสูงเป็นอันดับที่ 2 ประมาณ 1.2 แสนล้านบาท/ปี และประเมินโครงการลงทุน30 ปี จะช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจประเทศได้ถึง4 แสนล้านบาท จะเป็นอีกปัจจัยที่ใช้ประกอบการพิจารณาและตัดสินใจลงทุนของฝ่ายนโยบายได้
ผู้ว่าฯกทพ.กล่าวว่า นอกจากนี้ได้มีการหารือกับหน่วยงานด้านสาธารณูปโภคไฟฟ้า ประปา และสื่อสาร ให้เข้ามาร่วมมือในการใช้โครงสร้างสะพานเชื่อมเกาะสมุยวางโครงข่ายระบบไฟฟ้า ประปา และสื่อสาร จากเดิมที่ต้องวางโครงข่ายลอดใต้ทะเลซึ่งมักจะเกิดปัญหาชำรุด จากการถูกสมอเรือลาก และเกิดไฟฟ้าดับทั้งเกาะอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งการใช้โครงสร้างสะพานวางระบบสาธารณูปโภคไปยังเกาะสมุย หน่วยงานเหล่านี้จะลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง โดยอาจจะเข้ามาในรูปการลงทุนหรือการเช่าใช้พื้นที่สะพานได้ และจากการศึกษา พบว่าประชาชน 95% เห็นด้วยกับโครงการ และมีบางส่วนเป็นห่วงกังวลเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม แนวประการัง วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงปัญหาปริมาณขยะ ปัญหาจราจร ซึ่งการศึกษาและออกแบบและการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม จะดำเนินการตามกฎหมายที่มี หากมีปัญหา ทางสผ.ก็จะไม่อนุมัติแน่นอน นอกจากนี้การออกแบบสะพานข้ามทะเล ได้คำนึงถึง เรื่องแรงลมพายุ ไม่มีปัญหา ออกแบบโครงสร้างโปร่ง และไม่วางแนวขวางทางน้ำ ส่วนแผ่นดินไหวนั้น ที่ผ่านมาโครงการทางด่วนที่มีในกรุงเทพฯพบแผ่นดินไหวหลายครั้งก็ยังรองรับได้ไม่มีปัญหา

สำหรับโครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย มีจุดเริ่มต้นที่ กม. 0+000 เชื่อมกับทางหลวงหมายเลข 4142 ในพื้นที่ ต.ดอนสัก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี จุดสิ้นสุดโครงการอยู่ที่ กม. 37+410 เชื่อมกับทางหลวงหมายเลข 4170 ในพื้นที่ต.ตลิ่งงาม อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
โครงสร้างทางพิเศษสะพานข้ามทะล มี 3 รูปแบบ ได้แก่ 1.สะพานหลัก จะเป็นรูปแบบสะพานขึง(Cable -stayed) เหตุผลเพื่อให้เรือรบหลวงแล่นผ่านได้ โดยมีความยาวช่วงสะพานเบื้องต้น 250-300 เมตร ส่วนความสูงของเรือรบหลวงที่ประมาณ 50 เมตร
2.สะพานรอง เป็นรูปแบบ สะพานคานขึง(Extradosed Bridge) เพื่อข้ามพื้นที่แนวประการัง ช่วงก่อนขึ้นเกาะสมุย โดยมีความยาวช่วงสะพานเบื้องต้น 220-250 เมตร ส่วนแนวประการังกว้าง 200 เมตร
3.สะพานทั่วไป เป็นรูปแบบ สะพานคานคอนกรีตรูปกล่อง จะมีจำนวนตอม่อมากที่สุด ช่วงสะพานมีความยาวช่วงประมาณ 60 เมตร สำหรับเรือประมงในพื้นที่ (เรือประมงมีความสูงไม่เกิน 12 เมตร)

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา