‘แพทองธาร’ ชี้ต่อสัญญาจัดการแข่งขันรถ ‘MotoGP’ต้องยึดประโยชน์คนหมู่มาก แต่ขอศึกษารายละเอียดก่อน ไม่เกี่ยวว่าใครเป็นเจ้าของ ‘สนามแข่ง’ด้าน 'เนวิน' ขอบคุณนายกฯให้คำตอบ-ไม่ปิดโอกาสต่อสัญญา
......................................
เมื่อวันที่ 3 มี.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีการสัญญาแข่งขันรถ MotoGP หรือ MotoGP2026 ที่จะหมดสัญญาในปีหน้า ว่า ได้สั่งการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไปศึกษาในรายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งยังมีโอกาสที่จะต่อสัญญา แต่ต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง ส่วนเหตุผลที่จะไม่ต่อสัญญานั้น คงต้องดูเรื่องตัวเลขว่าเป็นอย่างไร และประเทศได้ผลประโยชน์อะไรบ้าง
“ทุกโครงการ ถ้าเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ต่อประชาชน โดยเฉพาะหมู่มาก ก็คงต้องทำต่อแน่นอน แต่ถ้าไม่เป็นประโยชน์ ขาดทุน ก็ต้องเอามาดูก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง จะได้สนับสนุนงบได้ถูก” น.ส.แพทองธาร กล่าว
เมื่อถามว่า กรณีการต่อสัญญา MotoGP เป็นเรื่องการเมือง เพราะสนามแข่งขันรถ เป็นของนายเนวิน ชิดชอบ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “เงินก็เข้าจังหวัด เข้าประเทศ ถึงใครจะเป็นเจ้าของ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง มันเป็นธุรกิจของเขา ในเรื่องเป็นเจ้าของ แต่ประเทศได้อะไรบ้าง เป็นสิ่งที่ต้องนับ เข้าใจว่า บางทีเอกชนกับภาครัฐ บางอัน ก็ต้องไปแบบนี้ เดี๋ยวขอไปดูรายละเอียด และความสมเหตุสมผล จะมองว่าเป็นการเมืองก็ได้ แต่ดิฉันขอมองแบบเรื่องธุรกิจ และเงินว่า เงินเข้าประเทศมากน้อยแค่ไหน”
วันเดียวกัน นายเนวิน ชิดชอบ ในฐานะประธานสนามช้าง ‘อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต’ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘ลุงเนวิน’ โดยนายเนวิน ขอบคุณ นายกฯที่ให้คำตอบเกี่ยวกับการจัดการแข่งขันรถ moto GP และพร้อมเดินหน้าจัดการแข่งขัน moto GP ต่อ โดยให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำเสนอข้อมูลการจัดการแข่งขัน moto GP ว่าเป็นประโยชน์แก่ประเทศไทย หรือไม่ อย่างไร เพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจ
สำหรับข้อความของนายเนวิน มีดังนี้ “เพลงชาติไทย ยังมีโอกาสดัง ใน motoGP
ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร กรุณาให้คำตอบแก่แฟนๆ moto GP ว่ารัฐบาลพร้อมจะเดินหน้าจัดการแข่งขัน moto GP ต่อ โดยให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำเสนอข้อมูลการจัดการแข่งขัน moto GP ว่าเป็นประโยชน์แก่ประเทศไทย หรือไม่ อย่างไร เพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจ และขณะนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่จะมีการต่อสัญญา ยังไม่ปิดโอกาส
คำให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี นับว่าเป็นความหวังของพวกเราทุกคน เป็นการแสดงท่าทีตอบรับต่อกระแสแฟนๆ moto GP ที่มีความชัดเจนที่สุด เท่าที่มีการเจรจากันระหว่างการกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะตัวแทนรัฐบาลไทย กับ บริษัทดอร์นา สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์จัดการแข่งขัน moto GP ในระยะเวลาเกือบ 2 ปี ที่ผ่านมา
เมื่อนายกรัฐมนตรี พูดว่า “จะพิจารณาโดยยึดประโยชน์ของส่วนรวม และประโยชน์ของประเทศ เป็นหลัก ไม่ได้พิจารณาด้วยเหตุผลทางการเมือง” จึงเชื่อได้ว่าประเทศไทย จะมีโอกาสได้จัดการแข่งขัน moto GP ต่อไป ประเทศไทย และ เพลงชาติไทย จะเป็นที่รู้จัก และดังกึกก้องไปทั่วโลก อย่างต่อเนื่อง
เพราะการจัดการแข่งขัน moto GP ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต หรือ Thai GP ได้พิสูจน์ตัวเองมาตลอดว่า เป็นการจัดกิจกรรมระดับโลก เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว และธุรกิจการค้า ทำรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชน และ สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย มากเพียงใด ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
สำหรับบุรีรัมย์ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ผู้บริหารสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต พร้อมให้การสนับสนุนรัฐบาล ใช้สนามแข่งขันและอุปกรณ์ทุกชนิดในสนามฟรี เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ การใส่ใจทุกรายละเอียด ทุกกิจกรรม ให้นักท่องเที่ยว และแฟนๆ ทุกคนมีความสุข และ ประทับใจ มากที่สุด เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม เป็นลำดับแรก
ขอขอบคุณและให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และแฟนๆ Thai GP ทุกคน"
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา นายเนวิน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘ลุงเนวิน’ โดยระบุว่า ปี 2569 จะเป็นปีสุดท้ายที่ประเทศไทยจะมีการจัดการแข่งขัน MotoGP หรือ motoGP2026 หลังจากประเทศไทยจัดการแข่งขัน motoGP มา 7 ปีติดต่อกัน ทั้งนี้ การจัดการแข่งขัน moto GP ที่ผ่านมา รัฐบาลลงทุนปีละไม่เกิน 500 ล้านบาท และมีภาคเอกชนเข้ามาร่วมสนับสนุนอีกไม่น้อยกว่าปีละ 300 ล้านบาท
สำหรับข้อความของนายเนวิน มีดังนี้ “ขอบคุณแฟน Thai GP สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย
ขอบคุณฅนบุรีรัมย์ ทุกคน ที่ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน moto GP สนามแรกของการแข่งขัน moto GP 2025 และเป็นเจ้าบ้านที่ดี ให้การต้อนรับ ดูแลนักท่องเที่ยว และแฟนmoto GP ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก ที่เดินทางมาเยือนบุรีรัมย์ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
แฟน moto GP จำนวน 224,634 คนที่เข้ามาชมและเชียร์นักแข่งในดวงใจ ตลอด 3 วันที่ผ่านมา (28 ก.พ.-2 มี.ค.) เป็นปรากฎการณ์ใหม่ของสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต และเป็นสถิติใหม่ของ motoGP สนามแรก สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนมากกว่า 5,043 ล้านบาท ทั้งภายในจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดอื่นๆ ที่มีนักท่องเที่ยวและแฟนๆ moto GP เดินทางไปท่องเที่ยวทั้งก่อนและหลังการแข่งขันเสร็จสิ้น
moto GP เป็นการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ที่ดีที่สุดในโลก เป็นรายการกีฬาที่มีผู้ชมมากที่สุดรายการหนึ่งของโลก เกือบ 1,000 ล้านคน จากการถ่ายทอดสดไปมากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ประเทศไทย ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 22 สนามแข่งขันของโลก และปีนี้ได้รับเกียรติให้เป็นสนามแรก เปิดการแข่งขัน moto GP2025 เป็นที่จับตาดูของแฟนๆ มากที่สุด เพราะเป็นสนามเปิดตัวนักแข่ง และรถแข่งของแต่ละทีม ด้วย
ประเทศไทย จัดการแข่งขัน moto GP มา 7 ปีติดต่อกัน โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้จัดการแข่งขัน ในนามของรัฐบาล ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของเจ้าของลิขสิทธิ์จัดการแข่งขันที่ ต้องการทำงานร่วมกับรัฐบาล เพื่อความมั่นใจว่าสามารถจัดการแข่งขันได้เรียบร้อย และสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา หรือ sport tourism ในขณะที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เป็นผู้ให้การสนับสนุนให้ใช้สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต เป็นสนามแข่งขัน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายทุกปี และพร้อมให้การสนับสนุนตลอดไป หากรัฐบาลยังจัดการแข่งขันอยู่
รายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขัน และรายได้จากผู้สนับสนุนการแข่งขัน หรือสปอนเซอร์ เป็นของรัฐบาลทั้งหมด บริษัทบุรีรัมย์ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด ในฐานะเจ้าของสนามช้างฯ ไม่มีรายได้ทางตรง จากการจัดการแข่งขัน และต้องเสียรายได้จากการส่งมอบสนามให้รัฐบาลใช้เตรียมการจัดการแข่งขันและแข่งขัน เป็นเวลา 1 เดือน (คิดเป็นมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท)
บริษัทฯ ได้รับรายได้ทางอ้อม และมีความพึงพอใจแล้ว คือ เงินหมุนเวียน และเงินสะพัดในจังหวัดบุรีรัมย์ ประชาชนคนบุรีรัมย์ ทำธุรกิจการค้า ร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก มีรายได้ และที่สำคัญที่สุดคือ ทำให้นักท่องเที่ยว และแฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ตทั่วโลก รู้จักบุรีรัมย์ ซึ่งมีมูลค่าสูงสุด จากการได้รับเลือกให้เป็นสนามแข่งขัน moto GP เป็นรายได้ที่คุ้มค่า และเป็นประโยชน์ในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ผม เพิ่งได้รับทราบอย่างเป็นทางการจากการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นข่าวเดียวกันกับที่แฟนmoto GP ได้ยินมาก่อนหน้านี้ คือ รัฐบาลจะลงทุนจัดการแข่งขัน moto GP ปี 2026 เป็นปีสุดท้าย และจะไม่ต่อสัญญาจัดการแข่งขัน moto GP อีกแล้ว ซึ่งต้องยอมรับการพิจารณาตัดสินใจของรัฐบาล
แม้ว่าจะรู้สึกเสียดายอย่างมาก เพราะการจัดการแข่งขัน moto GP รัฐบาลลงทุนปีละไม่เกิน 500 ล้านบาท และมีภาคเอกชน เข้ามาร่วมสนับสนุนอีกไม่น้อยกว่าปีละ 300 ล้านบาท แต่สร้างเงินทุนหมุนเวียนส่งเสริมธุรกิจ กระตุ้นเศรษฐกิจ มากกว่า 5,000 ล้านบาท
แต่เมื่อรัฐบาลตัดสินใจแล้ว สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในฐานะผู้สนับสนุนรายหนึ่ง ก็ต้องยอมรับ และขอแจ้งให้แฟน moto GP ชาวไทย ได้ทราบว่า ปีหน้าจะเป็นปีสุดท้ายของ Thai GP หากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และรัฐบาลไม่ทบทวนการตัดสินใจ และยังคงยืนยันที่จะไม่ต่อสัญญาจัดการแข่งขัน moto GP ในประเทศไทย
ขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมกันสร้าง Thai GP ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
ปีหน้าพบกันใหม่ ที่ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บุรีรัมย์ มาเชียร์ และ มาลา moto GP ด้วยกัน”